Skip to main content

ข้อตกลงการจัดจำหน่ายทั่วไปของกลุ่มบริษัท Trip.com

เมื่อคลิก “ข้าพเจ้าได้อ่านและยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้แล้ว” หรืออนุญาตให้ Trip เข้าถึงข้อมูลที่พักและห้องพักของพันธมิตรที่พักบนแพลตฟอร์ม Channels Plus ถือว่าพันธมิตรที่พักยอมรับว่าตนได้อ่านและยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้กับ Trip แล้ว

พันธมิตรที่พักและ Trip แต่ละฝ่ายในที่นี้จะเรียกว่า “คู่สัญญา” และเรียกรวมกันว่า “คู่สัญญาทั้งสองฝ่าย”

ข้อตกลงฉบับนี้จะยังคงมีผลบังคับใช้ เว้นแต่จะมีการบอกเลิกโดยคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามข้อกำหนดของข้อตกลงฉบับนี้ หรือถูกแทนที่ด้วยสัญญาฉบับใหม่ที่ทำขึ้นโดยและระหว่างคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะต้องแต่งตั้งบุคคลที่รับผิดชอบทุกเรื่องที่เกี่ยวกับข้อตกลงฉบับนี้

1. คำจำกัดความ

1. แพลตฟอร์ม Channels Plus: API และตลาดที่พัฒนาโดย SiteMinder Limited (และหน่วยงานในเครือ) (SiteMinder) ที่ช่วยให้ลูกค้า SiteMinder (รวมถึงพันธมิตรที่พัก) สามารถอัปโหลดข้อมูลห้องว่าง อัตราราคา และห้องพักในระบบ ตลอดจนเนื้อหา/ข้อมูลอื่น ๆ ลงในตลาดที่พันธมิตรของ SiteMinder (รวมถึง Trip) สามารถดูและดึงข้อมูลที่พักและห้องพักได้ เพื่อให้สามารถนำเสนอและขายผ่านบริการจองของพันธมิตรได้

2. ข้อมูลของที่พักและห้องพัก: ข้อมูลทั้งหมด รวมถึงข้อมูลห้องว่าง อัตราราคา (รวมภาษี อากร ค่าธรรมเนียมพิเศษ และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง) ภาพถ่าย เครื่องหมายการค้า ชื่อ ชื่อทางการค้า โลโก้ คำอธิบาย และเนื้อหาหรือวัสดุอื่น ๆ ที่พันธมิตรที่พักเสนอบนแพลตฟอร์ม Channels Plus

3. Trip: บริษัท Trip.com Travel Singapore Pte. Ltd.

4. เว็บไซต์: www.trip.com และหน่วยงานในเครือของ Trip และ/หรือเว็บไซต์ แอปมือถือ และบริการอื่น ๆ ของพันธมิตรทางธุรกิจภายใต้การดำเนินงานของบุคคลนั้น

2. อัตราราคาและข้อมูลของห้องพัก

2.1 ข้อมูลอัตราราคา: พันธมิตรที่พักจะอัปโหลดข้อมูลที่พักและห้องพักลงในแพลตฟอร์ม Channels Plus ซึ่ง Trip อาจนำมาแสดงบนบริการจองของตน พันธมิตรที่พักจะต้องแจ้งให้ Trip ทราบทันที หากพันธมิตรที่พักเชื่อว่า Trip ได้รับอัตราราคา ค่าธรรมเนียม การเรียกชำระเงิน หรือจำนวนเงินอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับห้องพักของพันธมิตรที่พักอย่างไม่ถูกต้อง

2.2 ราคามาตรฐาน: เปอร์เซ็นต์ของค่าคอมมิชชั่นจะคำนวณเป็น ___% ของอัตราราคา ไม่รวมภาษี แต่รวมค่าธรรมเนียม อากร และการเรียกชำระเงินอื่น ๆ แล้ว สำหรับห้องพักแต่ละคืนที่เป็นการจองแบบชำระเงินล่วงหน้าหรือการจองอัตราราคาพิเศษเฉพาะบุคคล Trip จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเท่ากับเปอร์เซ็นต์ค่าคอมมิชชั่นของอัตราราคา คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงว่าค่าคอมมิชชั่นอาจแตกต่างกันไปผ่านแพลตฟอร์ม Channels Plus

2.3 ข้อมูลที่พัก: พันธมิตรที่พักจะต้องรับผิดชอบในความถูกต้องของข้อมูลของที่พักและห้องพัก และรับประกันแก่ Trip ว่าข้อมูลของที่พักและห้องพักชอบด้วยกฎหมาย เชื่อถือได้ และเป็นการสะท้อนที่ถูกต้องต่อที่พักและข้อเสนอ และข้อมูลดังกล่าวไม่ฝ่าฝืนหรือละเมิดสิทธิ์ตามกฎหมายของบุคคลที่สามอื่นใดในทางใดทางหนึ่ง พันธมิตรที่พักตกลงที่จะแจ้งแก่ Trip เป็นลายลักษณ์อักษรโดยทันที หากข้อมูลดังกล่าวไม่สมบูรณ์หรือไม่ถูกต้อง พันธมิตรที่พักตกลงว่า Trip อาจแสดงข้อมูลของที่พักและห้องพักในรูปแบบที่เหมาะสมบนเว็บไซต์โดยไม่ต้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมใด ๆ หรือต้องรับความรับผิดใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้น มิฉะนั้นแล้ว พันธมิตรที่พักตกลงที่จะชดเชยความสูญเสียแก่ Trip รวมถึงต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผลทั้งหมด

3. การชำระเงิน (โมเดลการชำระเงินล่วงหน้า)

Trip จะเก็บเงินล่วงหน้าเป็นจำนวนเงินที่เกี่ยวข้องจากผู้เข้าพักในเวลาที่ทำการจอง พันธมิตรที่พักจะมีสิทธิ์ในจำนวนเงิน (“จำนวนเงินที่ชำระล่วงหน้า”) เท่ากับอัตราราคาลบด้วยค่าคอมมิชชั่นและบวกภาษีที่บังคับใช้กับที่พักและค่าธรรมเนียม สำหรับการจองแบบชำระเงินล่วงหน้าแต่ละครั้ง Trip จะต้องส่งเงินไปยังพันธมิตรที่พักตามจำนวนที่ชำระล่วงหน้าที่ผู้เข้าพักได้ชำระแล้ว (ยกเว้นในกรณีที่ Trip จำเป็นต้องชำระภาษีดังกล่าวโดยตรงไปยังหน่วยงานภาษีที่เกี่ยวข้อง) เมื่อผู้เข้าพักมาถึงที่พัก พันธมิตรที่พักจะไม่ได้รับอนุญาตให้เรียกเก็บค่าห้องพักจากผู้เข้าพักอีก

พันธมิตรที่พักสามารถเรียกเก็บเงินที่ชำระล่วงหน้าได้ด้วย VCC (บัตรเครดิตเสมือน)

  1. Trip จะให้ข้อมูล VCC และจำนวนเงินที่ชำระล่วงหน้า พร้อมกับการแจ้งเตือนการสำรองห้องพักแก่พันธมิตรที่พัก
  2. พันธมิตรที่พักจะชำระค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบัตรเครดิตเมื่อเรียกเก็บค่าห้องพักพันธมิตรที่พักจะเรียกเก็บเงินเป็นจำนวนและสกุลเงินเดียวกับที่ระบุไว้ในการสำรองห้องพักของผู้เข้าพักเท่านั้น Trip ขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกร้องจำนวนเงินใด ๆ ที่พันธมิตรที่พักเรียกเก็บเกินจำนวน
  3. หากพันธมิตรที่พักไม่เรียกเก็บเงินจาก VCC ที่เกี่ยวข้องตามข้อนี้สำหรับจำนวนเงินใด ๆ เพื่อการจองแบบชำระเงินล่วงหน้าภายใน 12 เดือนนับจากวันที่เช็คเอาท์ ยกเลิก หรือการไม่มาแสดงตน ทั้ง Trip และผู้เข้าพักจะไม่มีข้อผูกพันเพิ่มเติมใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจองดังกล่าว
  4. ในกรณีที่พันธมิตรที่พักต้องการความช่วยเหลือใด ๆ เพื่อให้ได้มาหรือเรียกเก็บเงินจาก VCC พันธมิตรที่พักสามารถติดต่อได้ที่ vcc@trip.com

4. ภาษี

คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะต้องแบกรับภาษีของตนเองและปฏิบัติตามข้อผูกพันในการปฏิบัติตามภาระภาษีของตนตามกฎหมายภาษีที่บังคับใช้ ในกรณีที่กฎหมายภาษีที่บังคับใช้มีการเปลี่ยนแปลง หรือกฎหมายภาษีใหม่มีผลบังคับใช้ หรือหากมีการเปลี่ยนแปลงการตีความหรือการบังคับใช้กฎหมายภาษีดังกล่าวในระหว่างระยะเวลาของข้อตกลงฉบับนี้ คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งจะต้องแจ้งให้อีกฝ่ายทราบ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะต้องทำการปรับเปลี่ยนอย่างเท่าเทียมกันต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวโดยสุจริต และหากมีการปรับเปลี่ยนใด ๆ ดังกล่าว คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะต้องตกลงกัน

5. อื่น ๆ

5.1 การปฏิบัติตามข้อกำหนดของข้อมูล

  1. คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายเป็นผู้ควบคุมข้อมูลอิสระที่ตัดสินใจวัตถุประสงค์และวิธีการประมวลผลข้อมูล และตกลงที่จะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่บังคับใช้ SiteMinder ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลโดยพันธมิตรที่พักเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในนามของพันธมิตรที่พักตามคำแนะนำ พันธมิตรที่พักจะต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้าพักและข้อมูลการจองที่ Trip แชร์ให้ ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดการการจองที่พักเท่านั้น
  2. ผู้เข้าพักอาจส่งเอกสาร ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงบัตรประจำตัวของตน การแจ้งเที่ยวบินล่าช้า/ยกเลิก รายงานการวินิจฉัย ฯลฯ เพื่อวัตถุประสงค์ในการยื่นขอยกเลิกการจองที่ถูกต้องโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เนื่องจากเอกสารดังกล่าวมีข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้าพัก พันธมิตรที่พักจะสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้เฉพาะในจดหมายจาก Trip ทางอีเมลเท่านั้น และจะไม่สามารถเข้าใช้งานได้หลังจากที่พันธมิตรที่พัก (ยกเลิก) อนุมัติใบสมัครของผู้เข้าพักแล้ว พันธมิตรที่พักจะต้องไม่คัดลอกหรือจัดเก็บเอกสารดังกล่าวโดยจับภาพหน้าจอ การถ่ายภาพ หรือวิธีการอื่นใดที่ไม่ได้แจกแจง นอกจากนี้ พันธมิตรที่พักยังมีภาระผูกพันในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้าพักที่รวมอยู่ในนั้น โดยการปฏิบัติตามมาตรฐานและกฎระเบียบที่ระบุไว้ในข้อตกลงฉบับนี้

5.2 การบอกเลิก: คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสิทธิ์ที่จะบอกเลิกข้อตกลงฉบับนี้โดยการส่งหนังสือบอกกล่าวล่วงหน้าสามสิบ (30) วันให้กับคู่สัญญาอีกฝ่าย การบอกเลิกข้อตกลงฉบับนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อสิทธิหรือข้อผูกพันใด ๆ ที่คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้รับไว้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เหนือสิ่งอื่นใด พันธมิตรที่พักมีภาระผูกพันในการดำเนินการจองที่มีอยู่ทั้งหมดให้เสร็จสิ้นก่อนการบอกเลิก เว้น Trip จะระบุไว้เป็นอย่างอื่นโดยชัดแจ้ง

5.3 เหตุสุดวิสัย: หากคู่สัญญาไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงฉบับนี้ได้อันเนื่องมาจากสงคราม แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ฟ้าผ่า อุทกภัย อัคคีภัย โรคระบาด โรคระบาดใหญ่ การนัดหยุดงานของสายการบิน การกระทำของรัฐบาล หรือเหตุการณ์จากเหตุสุดวิสัยอื่น ๆ การปฏิบัติตามข้อตกลงฉบับนี้จะถูกเลื่อนออกไป และคู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะไม่ต้องรับผิดชอบต่อค่าเสียหายที่เกิดจากการเลื่อนออกไปนั้น หากการเลื่อนออกไปที่มีสาเหตุมาจากเหตุสุดวิสัยเกินหนึ่งเดือน คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้คู่สัญญาอีกฝ่ายบอกเลิกข้อตกลงฉบับนี้ทันทีโดยไม่ต้องเริ่มความรับผิดจากการผิดสัญญา

5.4 การต่อต้านการให้สินบนเชิงพาณิชย์: คู่สัญญาจะต้องปฏิบัติตาม FCPA ภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ พันธมิตรที่พักจะไม่จ่ายค่าคอมมิชชั่นและค่าตอบแทน หรือจัดหาของกำนัลหรือการปฏิบัติใด ๆ ให้แก่พนักงานของ Trip ยกเว้นของขวัญเพื่อการโฆษณาที่มีมูลค่าเล็กน้อยตามแนวปฏิบัติทางธุรกิจ (โทรศัพท์เพื่อรายงานต่อ Trip: 8621-54261440 อีเมลเพื่อรายงานต่อ Trip: jubao@trip.com)

5.5 การรักษาความลับ: คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับต่อบุคคลที่สาม ข้อมูลที่เป็นความลับในข้อตกลงฉบับนี้ หมายถึงข้อมูลการไม่เปิดเผยข้อมูล รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงโปรแกรมเชิงพาณิชย์ รายชื่อลูกค้า ข้อมูลเทคโนโลยี การออกแบบผลิตภัณฑ์ แผนการพัฒนา รายชื่อพนักงาน คู่มือการปฏิบัติงาน เทคนิคการประมวลผล ทฤษฎีเทคโนโลยี สิ่งประดิษฐ์ เงื่อนไขทางการเงิน ข้อมูลบัตรเครดิต และวัสดุอื่น ๆ ที่ตกลงกันว่าเป็นความลับเมื่อส่งมอบ ในกรณีที่มีการละเมิดข้อผูกพันในการรักษาความลับ ฝ่ายที่กระทำผิดจะต้องรับผิดชอบทั้งหมด ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการชดเชยการสูญเสียที่เกิดขึ้นโดยตรง

5.6 ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ: หากมีข้อพิพาทเกิดขึ้นในระหว่างระยะเวลาของข้อตกลงนี้เกี่ยวกับข้อผูกพันในการชำระเงินภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะกระทำการร่วมกันโดยสุจริตเพื่อแก้ไขข้อพิพาทดังกล่าว และจนกว่าข้อพิพาทดังกล่าวจะได้รับการแก้ไขในลักษณะที่เป็นที่พึงพอใจของคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย พันธมิตรที่พักจะไม่ (1) นำการชำระเงินใด ๆ ที่ได้รับสำหรับการจองหรือใบแจ้งหนี้อื่นใดไปใช้กับการจองหรือใบแจ้งหนี้ที่มีข้อพิพาท (2) เรียกเก็บหรือพยายามเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากผู้เข้าพักโดยตรงสำหรับจำนวนเงินที่พิพาท (3) ปฏิเสธที่จะเคารพการจองของผู้เข้าพัก หรือ (4) ดำเนินการอื่นใดที่อาจรบกวนการเติมเต็มหรือความพึงพอใจในการจองของผู้เข้าพัก พันธมิตรที่พักจะต้องรับผิดชอบต่อการเปลี่ยนแปลงหรือบริการที่ผู้เข้าพักร้องขอโดยตรงจากที่พักของตน และพันธมิตรที่พักจะเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวที่จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมใด ๆ สำหรับการเปลี่ยนแปลงหรือบริการดังกล่าวจากผู้เข้าพัก

5.7 การปฏิบัติตามกฎระเบียบ: พันธมิตรจะต้องดำเนินธุรกิจตามมาตรฐานจริยธรรมทางธุรกิจและยืนยันว่าตนได้รับอนุญาต ใบอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ หรือใบอนุญาตที่จำเป็นทั้งหมดตามที่กฎหมายและหน่วยงานกำกับดูแลกำหนด เพื่อปฏิบัติตามสิทธิและข้อผูกพันภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ หากพันธมิตรไม่ปฏิบัติตามข้อนี้หรือหากมีข้อบ่งชี้ถึงการไม่ปฏิบัติตามข้อนี้ Trip มีสิทธิ์ที่จะดำเนินการทางกฎหมายต่าง ๆ ตามดุลยพินิจของตนแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการระงับข้อตกลง การนำที่พักออกจากเว็บไซต์ การระงับการชำระเงิน การขอค่าชดเชย การหักกลบลบหนี้ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใด ๆ กับเงินทุนใด ๆ ที่มีอยู่ในบัญชีของพันธมิตรกับ Trip หรือการยกเลิกข้อตกลงโดยทันที หากพันธมิตรไม่ปฏิบัติตามข้อนี้หรือหากมีข้อบ่งชี้ถึงการไม่ปฏิบัติตามข้อนี้ Trip มีสิทธิ์ที่จะดำเนินการทางกฎหมายต่าง ๆ ตามดุลยพินิจของตนแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการระงับข้อตกลง การนำที่พักออกจากเว็บไซต์ การระงับการชำระเงิน การขอค่าชดเชย การหักกลบลบหนี้ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใด ๆ กับเงินทุนใด ๆ ที่มีอยู่ในบัญชีของพันธมิตรกับ Trip หรือการยกเลิกข้อตกลงโดยทันที

5.8 การรับประกันเพิ่มเติม: หากมีการร้องขออย่างสมเหตุสมผลจากคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกี่ยวกับการตอบสนองต่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ หรือการสอบสวน หรือการดำเนินการตรวจสอบอิสระโดยหน่วยงานของรัฐ หรือการเตรียมการหรือการตรวจสอบงบการเงินของคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งจะร่วมมือกับคู่สัญญาฝ่ายที่ร้องขอเพื่อจัดเตรียมบุคคลและข้อมูลที่เหมาะสมเพื่อให้คู่สัญญาาฝ่ายที่ร้องขอความช่วยเหลือสามารถตอบคำถามหรือการดำเนินการดังกล่าว หรือเพื่อจัดเตรียมหรือตรวจสอบงบการเงินของตนได้ในเวลาที่เหมาะสม โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับต่อหน่วยงานของรัฐ ยกเว้นในขอบเขตที่กฎหมายกำหนด

5.9 กฎหมายที่ใช้บังคับและสถานที่พิจารณาข้อพิพาท: ข้อตกลงฉบับนี้และข้อพิพาทใด ๆ ภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้จะอยู่ภายใต้การกำกับควบคุมของกฎหมายของสิงคโปร์ และคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะส่งข้อพิพาทของตนไปยังศูนย์อนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศของสิงคโปร์ (SIAC)

5.10 การบอกกล่าวต่อคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย: การบอกกล่าวภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้จะต้องส่งทางอีเมลไปยังที่อยู่อีเมลของคู่สัญญาตามที่ระบุไว้ในแพลตฟอร์ม Channels Plus คู่สัญญาแต่ละฝ่ายสามารถเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการติดต่อของตนได้โดยการแจ้งให้คู่สัญญาอีกฝ่ายทราบ