Skip to main content

คู่มือสรุปวิธีเพิ่มยอดจองโรงแรม

  โพสต์ใน Revenue Management   ปรับปรุงล่าสุด 6/11/2024

ทำไมการเพิ่มยอดจองโรงแรมถึงสำคัญ?

การเพิ่มยอดจองโรงแรมมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มรายได้แล้ว ยังช่วยสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนให้กับธุรกิจโรงแรมของคุณอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม หลายคนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการเพิ่มยอดจอง ผู้ประกอบการโรงแรมหลายรายอาจคิดว่าการลดราคาห้องพักอย่างมากจะช่วยดึงดูดแขกให้เข้าพักมากขึ้น แม้วิธีนี้อาจดูเหมือนได้ผลในตอนแรก แต่ความจริงแล้วมักไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด การลดราคาห้องพักอาจช่วยให้ขายห้องได้มากขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ได้มากพอที่จะชดเชยรายได้ต่อห้องที่ลดลง

สิ่งสำคัญที่ควรเข้าใจคือ การลดราคาห้องพักไม่ได้ช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวหรือสร้างเหตุผลใหม่ๆ ให้คนมาพักโรงแรมของคุณ แต่กลับอาจส่งผลเสียในระยะยาว เมื่อแขกเห็นราคาห้องพักที่ถูกลงมากผิดปกติ อาจเกิดความสงสัยและคิดในแง่ลบ

ในคู่มือนี้ เราจะแนะนำคุณเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ ข้อควรพิจารณา สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ความต้องการของลูกค้า และกลยุทธ์ที่คุณควรรู้ เพื่อช่วยเพิ่มยอดจองโรงแรมของคุณอย่างก้าวกระโดด

สารบัญ

ศาสตร์และศิลป์แห่งการเพิ่มยอดจองโรงแรม

การเพิ่มยอดจองโรงแรมนั้นเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่ต้องอาศัยความสมดุล ยกตัวอย่างเช่น การตั้งราคาห้องพักที่ต่ำอยู่เสมออาจทำลายความน่าเชื่อถือด้านราคาของโรงแรมคุณ เมื่อแขกคุ้นเคยกับราคาที่ต่ำ การขึ้นราคาในอนาคตก็จะทำได้ยาก สิ่งนี้อาจนำไปสู่วงจรของการลดราคาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลเสียต่อผลกำไรและความยั่งยืนของธุรกิจโรงแรมของคุณ

แทนที่จะลดราคาแบบฮวบฮาบ กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าคือการเพิ่มคุณค่าให้กับการเข้าพักของแขก เช่น การนำเสนอแพ็คเกจพิเศษ ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร หรือบริการเสริมต่างๆ การเพิ่มคุณค่าช่วยดึงดูดแขกโดยไม่ต้องลดราคาห้องพัก วิธีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มยอดจอง แต่ยังช่วยยกระดับความพึงพอใจของแขก นำไปสู่รีวิวที่ดีและการกลับมาใช้บริการซ้ำ

ตัวอย่างเช่น แทนที่จะลดราคาห้องพักจาก 2,000 บาทเหลือ 1,500 บาท คุณอาจจะคงราคาไว้ที่ 2,000 บาท แต่เพิ่มบริการรับ-ส่งสนามบินฟรี หรือมื้อเช้าสำหรับสองท่าน วิธีนี้ช่วยรักษาภาพลักษณ์ของโรงแรมและยังเพิ่มความคุ้มค่าให้แขกด้วย

การเพิ่มการมองเห็นของโรงแรมคุณบนช่องทางการจองชั้นนำก็เป็นส่วนสำคัญของสมการนี้ ยิ่งโรงแรมของคุณเป็นที่รู้จักมากเท่าไหร่ โอกาสที่แขกจะพบและจองห้องพักก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น คุณสามารถทำได้โดยการทำการตลาดออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ ร่วมมือกับเว็บจองท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) และใช้ซอฟต์แวร์บริหารจัดการโรงแรมที่ทันสมัย

15 วิธีเพิ่มยอดจองโรงแรมที่เห็นผลจริง

ในโลกของธุรกิจโรงแรมที่แข่งขันสูง การโดดเด่นและดึงดูดแขกไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยการเติบโตของ OTA และความชอบของนักเดินทางที่เปลี่ยนแปลงไป โรงแรมจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์อยู่เสมอเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาด

ต่อไปนี้คือ 15 กลยุทธ์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์แขกหลากหลายกลุ่ม ทั้งนักธุรกิจ นักท่องเที่ยวพักผ่อน และคนท้องถิ่นที่มองหาประสบการณ์ “สเตย์เคชั่น” ที่แปลกใหม่

การนำกลยุทธ์เหล่านี้ไปใช้จะช่วยเพิ่มการมองเห็นของโรงแรม ดึงดูดแขกให้มากขึ้น และสุดท้ายคือเพิ่มยอดจองของคุณ

1. สร้างและโปรโมทแพ็คเกจพิเศษ

การจัดแพ็คเกจช่วยให้คุณซ่อนราคาห้องพักจริงไว้ในบริการเสริมที่เพิ่มคุณค่าให้กับการเข้าพัก หากโรงแรมของคุณมีบริการเพิ่มเติม เช่น คลาสออกกำลังกายหรือสปา ลองรวมบริการเหล่านี้เข้ากับห้องพักเป็นดีลสุดคุ้ม วิธีนี้จะกระตุ้นให้แขกใช้บริการที่พวกเขาอาจไม่เคยคิดจะใช้มาก่อน

2. เน้นจุดเด่นของสถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่น

ในด้านการตลาด ให้คิดถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสมาพักในวันธรรมดา และคำนึงถึงว่าพวกเขาอยู่ในพื้นที่ไหน มุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าในรัศมีประมาณ 2-3 ชั่วโมงโดยรถยนต์ สำหรับแพ็คเกจพัก 2 คืนกลางสัปดาห์

ลองร่วมมือกับสถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่น และส่งโฆษณาหรือบทความไปยังหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ในเมืองใหญ่ๆ ใกล้เคียง โดยนำเสนอแพ็คเกจพักกลางสัปดาห์ที่รวมกิจกรรมน่าสนใจ เช่น ทัวร์ชมเมือง ทริปชิมไวน์ หรือการชมคอนเสิร์ต

3. สร้างรายชื่อลูกค้าสำหรับส่งอีเมล

สร้างรายชื่อลูกค้าที่มาพักช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และติดต่อลูกค้าด้วยอีเมลประจำเดือน แจ้งโปรโมชั่นและข้อเสนอพิเศษสำหรับวันธรรมดา

แนะนำให้ลูกค้าทราบว่าวันธรรมดาเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวชมร้านค้าและสถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่น เพราะไม่แออัดเหมือนวันหยุดสุดสัปดาห์ อย่าลืมส่งคูปองส่วนลดสำหรับวันธรรมดาไปด้วย

4. จัดกิจกรรมพิเศษแบบวันเดียว

ใช้ความคิดสร้างสรรค์จัดงานพิเศษในวันธรรมดา เช่น เวิร์คช็อป กิจกรรมเพื่อสุขภาพ นิทรรศการศิลปะ หรืองานด้านวัฒนธรรมอื่นๆ

กิจกรรมเหล่านี้ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนอายุ 50-60 ปี ซึ่งมักมีกำลังซื้อสูง นอกจากนี้ ยังอาจจัดแสดงผลงานของนักเรียนนักศึกษาร่วมกับโรงเรียนและวิทยาลัยในท้องถิ่น

5. เปิดพื้นที่ให้ภาคธุรกิจ

ประชาสัมพันธ์พื้นที่ของคุณให้บริษัทในท้องถิ่นสำหรับการประชุมและงานสังสรรค์ เลือกกลุ่มเป้าหมายอย่างชาญฉลาด โดยมุ่งเน้นบริษัทที่มีสาขาหรือสำนักงานในที่อื่น เพราะอาจมีพนักงานหรือแขกที่ต้องการที่พัก

6. ทำโปรโมชั่นอาหาร ‘ซื้อ 1 แถม 1’

ในธุรกิจโรงแรม การมีโปรโมชั่นที่แปลกใหม่สามารถดึงดูดแขกและกระตุ้นให้พวกเขาใช้จ่ายมากขึ้น หากโรงแรมของคุณมีร้านอาหาร คาเฟ่ บริการอาหารเช้า หรือร้านอาหารอื่นๆ การมีโปรโมชั่น ‘ซื้อ 1 แถม 1’ เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มยอดจองและรายได้โดยรวมได้

คอนเซปของโปรโมชั่น ‘ซื้อ 1 แถม 1’ นั้นก็ตรงตัวเลย: แขกจะได้รับอาหาร 2 ที่ในราคาของ 1 ที่ คุณสามารถปรับโปรโมชั่นนี้ให้เหมาะกับความต้องการของโรงแรม เช่น จำกัดเฉพาะมื้ออาหารบางมื้อหรือเฉพาะวันธรรมดา การเสนอโปรโมชั่นนี้ในช่วงกลางสัปดาห์เป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มยอดจองวันธรรมดา หรือคุณอาจเสนอเฉพาะมื้อกลางวันทุกวันเพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าในช่วงเวลาที่มักจะเงียบเหงา

หากคุณร่วมมือกับร้านอาหารในท้องถิ่น คุณสามารถนำโปรโมชั่นนี้ไปใช้ในกลยุทธ์การตลาดร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับทั้งสองธุรกิจ

7. โปรโมทการจัดงานแต่งงานกลางสัปดาห์

ด้วยคนทำงานฟรีแลนซ์หรือมีเวลาทำงานยืดหยุ่นมากขึ้น งานแต่งงานกลางสัปดาห์กำลังได้รับความนิยม โดยเฉพาะสำหรับคู่แต่งงานครั้งที่สองหรือคู่สูงวัยที่ชื่นชอบบรรยากาศเงียบสงบและเป็นส่วนตัว

ควรระวังไม่ให้ตรงกับงานองค์กรหรือกิจกรรมอื่นๆ ที่อาจรบกวนบรรยากาศงานแต่ง

8. ชวนให้แขกพักนานขึ้น

กระตุ้นให้แขกที่พักช่วงสุดสัปดาห์ขยายเวลาพักผ่อนให้นานขึ้น โดยเสนอส่วนลดพิเศษและแจ้งให้แขกทราบล่วงหน้า ทั้งในอีเมลก่อนเข้าพักและตอนเช็คอิน

9. ติดต่อร้านอาหารใหญ่ๆ ในเมือง

ควรทำในเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายน โดยเสนอราคาพิเศษสำหรับกลุ่มที่มีแผนจัดงานเลี้ยงคริสต์มาสกลางสัปดาห์ที่ร้านอาหารเหล่านั้น

10. ร่วมมือกับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์

สร้างความสัมพันธ์กับผู้เล่นหลักในวงการอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่น ทั้งด้านที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ เพราะในแต่ละวันมีคนจำนวนมากเดินทางมาดูบ้านใหม่หรือสำรวจพื้นที่สำนักงาน ซึ่งพวกเขาต้องการที่พักระหว่างอยู่ในเมือง

อาจเสนอเรทพิเศษให้กับนายหน้าหรือตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ ให้พื้นที่โฆษณาฟรีในแผ่นพับข้อมูลห้องพัก

11. แจกแพ็กเกจพักกลางสัปดาห์เป็นของรางวัล

โซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ Facebook เป็นช่องทางพิเศษให้โรงแรมสร้างปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายและโปรโมทบริการต่างๆ วิธีที่น่าสนใจคือการจัดแคมเปญแจกแพ็กเกจพักกลางสัปดาห์เป็นของรางวัลบนเฟซบุ๊ก

แคมเปญแบบนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับกลุ่มเป้าหมาย เพิ่มผู้ติดตามเพจ และกระตุ้นการมีส่วนร่วม ทั้งยังเป็นโอกาสแนะนำจุดเด่นของโรงแรม ตั้งแต่ห้องพักหรูไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกระดับท็อป นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งข้อมูลลูกค้าสำหรับการตลาดในอนาคต ที่สำคัญ ต้นทุนจริงๆ ของการจัดแคมเปญแบบนี้ต่ำมาก แค่สละห้องพักหรูสักหนึ่งหรือสองคืนในช่วงกลางสัปดาห์ซึ่งปกติก็เงียบอยู่แล้ว ผลตอบแทนที่ได้คุ้มค่าเสมอ

การจัดแคมเปญบนเฟซบุ๊กให้ประสบความสำเร็จ ต้องกำหนดกติกาให้ชัดเจนและเข้าใจง่าย โปรโมทแคมเปญผ่านทุกช่องทางการตลาด และตอบคอมเมนต์หรือข้อความของผู้ร่วมกิจกรรมอย่างกระตือรือร้น เมื่อจบแคมเปญ ให้ประกาศผู้ชนะบนเพจเฟซบุ๊กเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมเพิ่มเติม

อย่าลืมว่าเฟซบุ๊กมีกฎเกณฑ์เข้มงวดเกี่ยวกับการจัดแคมเปญ ดังนั้นควรศึกษาให้ละเอียดก่อนเริ่มแคมเปญจริง

12. ใช้เสน่ห์ของฤดูกาลให้เป็นประโยชน์

ไม่ว่าโรงแรมของคุณจะตั้งอยู่ที่ไหน แต่ละฤดูกาลก็มีเสน่ห์เฉพาะตัว ลองพิจารณาดูว่าอะไรคือจุดดึงดูดที่จะทำให้แขกอยากมาพักที่โรงแรมของคุณ ถ้าอยู่ติดทะเล กิจกรรมดำน้ำ ชมปะการัง ถ้าอยู่บนดอย ชมทะเลหมอก สัมผัสอากาศเย็นสบาย หรือเก็บสตรอว์เบอร์รี่ ถ้าอยู่ในเมือง ทัวร์วัดเก่าแก่ ช้อปปิ้งตลาดกลางคืน หรือเวิร์คช็อปทำอาหารไทย

ใช้จุดเด่นเหล่านี้ในการสื่อสารการตลาด ให้ลูกค้าเห็นภาพและรู้สึกถึงประสบการณ์ที่พวกเขาจะได้รับ กระตุ้นให้พวกเขาอยากมาสัมผัสบรรยากาศและกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นที่โรงแรมของคุณ

13. กิจกรรมวันหยุด

ลองจับมือกับผู้ให้บริการในท้องถิ่นเพื่อสร้างแพ็กเกจกิจกรรมหลากหลาย ที่สามารถเสนอให้แขกในราคาพิเศษช่วงวันหยุด

การสร้างแพ็กเกจที่ตอบโจทย์ความต้องการของแขก จะช่วยเพิ่มยอดจองในวันหยุดช่วงไฮซีซั่น และสร้างชื่อเสียงที่ดีให้กับโรงแรมไปพร้อมกัน

ที่สำคัญ ไม่มีอะไรเทียบได้กับการพักผ่อนวันหยุดที่ยอดเยี่ยม แขกจะอยากบอกต่อเรื่องราวดีๆ ที่ได้สัมผัสให้คนอื่นรู้อย่างแน่นอน

14. จัดงานตามธีม

ช่วงวันหยุดเทศกาลทำให้คนไทยอยากออกไปฉลอง ทำไมไม่ลองจัดปาร์ตี้สนุกๆ ให้แขกของคุณล่ะ คุณอาจทำแพ็กเกจสุดคุ้มช่วงสุดสัปดาห์ รวมห้องพัก 2 คืนพร้อมบัตรเข้าร่วมปาร์ตี้สุดพิเศษ

อย่าลืมเลือกธีมปาร์ตี้ให้เข้ากับที่ตั้งของโรงแรมและสิ่งที่แขกอยากสัมผัสในช่วงวันหยุด โรงแรมในเมืองร้อนอย่างพัทยาหรือภูเก็ต ลองจัดปาร์ตี้ริมหาดหรือข้างสระ มีบาร์สไตล์ทรอปิคอล ค็อกเทลผลไม้ และโชว์รำไทย ส่วนโรงแรมในที่หนาวๆ อย่างเชียงใหม่หรือเขาค้อ อาจตกแต่งด้วยไฟประดับสวยๆ และเสิร์ฟอาหารเมนูร้อนๆ อย่างต้มยำหรือชาบู

ไอเดียเพิ่มเติม… จัดประชันฝีมือระหว่างเชฟในท้องถิ่นทำเมนูแกงเผ็ดที่อร่อยที่สุด (แน่นอนว่าต้องให้แขกได้ชิมทุกเมนู!) หรือจัดแข่งขันทำเครื่องดื่มอุ่นๆ สไตล์ไทย เช่น ชาไทย กาแฟโบราณ น้ำขิง หรือน้ำเก๊กฮวย ปล่อยให้จินตนาการของคุณโลดแล่นได้เต็มที่!

15. อย่าลืมลูกค้าในพื้นที่

ในช่วงวันหยุดสั้นๆ โรงแรมมักจะมีลูกค้าในท้องถิ่นมาใช้บริการมากขึ้น เพราะพวกเขากำลังมองหาการพักผ่อนแบบ ‘สเตย์เคชั่น’ ในบ้านเกิดของตัวเอง

ลองทำโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคนในพื้นที่ เช่น ส่วนลดค่าห้องพัก แพ็กเกจพิเศษที่รวมบริการเสริม จองโต๊ะให้ที่ร้านอาหารดังๆ ที่ปกติคิวยาว หาบัตรคอนเสิร์ตหรือละครที่ขายหมดแล้วมาแถม (ถ้าทำได้)

แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยสร้างความประทับใจให้ลูกค้าในท้องถิ่นได้ เช่น ทักทายด้วยภาษาถิ่น หรือแค่กล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ วิธีนี้ใช้ได้ผลดีทั้งกับลูกค้าในประเทศและต่างชาติ

อย่าลืมว่า ลูกค้าที่ประทับใจมักจะกลับมาใช้บริการซ้ำ และยังช่วยบอกต่อให้เพื่อนฝูงหรือครอบครัวมาพักที่โรงแรมของคุณด้วย

วิธีเพิ่มยอดจองโรงแรมผ่านการจองผ่านโทรศัพท์

ท่ามกลางกระแสเทคโนโลยีใหม่ๆ การจองผ่านมือถือ และช่องทางการจองอื่นๆ ที่เข้ามามากมาย โรงแรมหลายแห่งเลิกสนใจสายโทรศัพท์ที่เข้ามาและการจองผ่านทางนี้ไปแล้ว เหตุผลหนึ่งคือพวกเขาคิดว่าลูกค้าส่วนใหญ่ก็ชอบใช้แอพและสมาร์ทโฟนในการจองเหมือนกัน หลายคนอาจคิดว่ามีแต่คนสูงวัยเท่านั้นที่ยังโทรจองโรงแรม แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย

การไม่วัดผลหรือติดตามการจองทางโทรศัพท์อาจส่งผลเสียต่อรายได้และกลยุทธ์การตลาดของโรงแรมคุณได้

แม้การจองผ่านมือถือและการเข้าชมเว็บไซต์จะเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ฟีเจอร์ ‘คลิกเพื่อโทร’ บนสมาร์ทโฟนก็ทำให้ปริมาณสายที่เข้ามาที่โรงแรมเพิ่มขึ้นเช่นกัน

นี่คือ 4 เหตุผลที่คุณควรให้ความสำคัญกับสายโทรศัพท์จากลูกค้า:

1. การจองทางโทรศัพท์ส่งผลต่อแคมเปญของคุณ

เมื่อโรงแรมทำการตลาดออนไลน์ มักจะวัดผลเฉพาะยอดจองผ่านช่องทางดิจิทัลเท่านั้น ทำให้อาจเข้าใจผิดว่าบางช่องทาง เช่น อีเมลมาร์เก็ตติ้ง ไม่ได้ผลและไม่สร้างรายได้

แต่ความจริงแล้ว การจองทางโทรศัพท์จำนวนมากอาจมาจากอีเมลที่คุณส่งไป ไม่ใช่การจองผ่านเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น งานวิจัยที่โรงแรมแห่งหนึ่งในฟลอริดาพบว่า 41% ของการจองที่มาจากแคมเปญการตลาดออนไลน์ เป็นการจองผ่านโทรศัพท์ ถ้าไม่นับยอดนี้ โรงแรมอาจคิดผิดๆ ว่าแคมเปญล้มเหลว

การรู้ที่มาของการจองทางโทรศัพท์สำคัญไม่แพ้การรู้ที่มาของการจองออนไลน์ มันจะช่วยให้คุณเห็นว่าการตลาดแบบไหนได้ผล และช่วยวางแผนสร้างรายได้ในอนาคตได้ดีขึ้น

เมื่อลูกค้าโทรมาจอง คุณควรถามว่าพวกเขารู้จักโรงแรมจากช่องทางไหน เช่น กูเกิล อีเมล โฆษณาออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย เป็นต้น

2. การจองทางโทรศัพท์ยังคงสำคัญมาก

แม้ว่าแบบสอบถาม รีวิว และแบบฟอร์มความคิดเห็นจะมีประโยชน์ แต่การรับสายโทรศัพท์ก็ช่วยให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าที่อาจเข้าพักในอนาคตได้เช่นกัน ข้อมูลที่ได้จากการพูดคุยอาจมีค่ามากกว่า เพราะเป็นการสื่อสารแบบเปิดกว้าง คุณจะได้ยินความกังวลและคำถามของลูกค้าจากน้ำเสียงและคำพูดจริงๆ ทำให้เห็นภาพชัดเจนว่าโรงแรมของคุณกำลังเผชิญปัญหาอะไรเกี่ยวกับประสบการณ์ของแขก

นอกจากนี้ คุณยังจะรู้ว่าพนักงานของคุณให้บริการลูกค้าได้ดีแค่ไหน พวกเขาปิดการขายได้ไหม ขายบริการเสริมได้ดีหรือเปล่า หรือให้ข้อมูลครบถ้วนหรือไม่

การวิเคราะห์ข้อมูลทั้งสองส่วนนี้จะช่วยให้คุณเพิ่มอัตราการเปลี่ยนผู้สนใจเป็นลูกค้าได้

3. การจองทางโทรศัพท์อาจกลับมาได้รับความนิยมมากกว่าที่คิด

หลายคนอาจคิดว่าการจองผ่านโทรศัพท์จะหายไปเมื่อมีช่องทางจองใหม่ๆ และโรงแรมที่ทันสมัยขึ้น แต่ความจริงอาจตรงกันข้าม

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวมีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับที่พัก วิธีการเข้าพัก และสิ่งที่อยากทำระหว่างพักผ่อน ข้อมูลที่มากเกินไปอาจทำให้สับสนหรือตัดสินใจยาก ทำให้คนอยากโทรหาโรงแรมหรือตัวแทนท่องเที่ยวมากขึ้น

ถ้าการติดต่อทางโทรศัพท์จะเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจ คุณควรให้ความสำคัญกับช่องทางนี้เท่าๆ กับช่องทางอื่นๆ เช่น การขายออนไลน์

4. การจองทางโทรศัพท์ช่วยลดต้นทุนให้โรงแรม

ยิ่งมีการจองทางโทรศัพท์มากเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะคุณไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับ Online Travel Agent (OTA) หรือช่องทางอื่นๆ และคุณไม่จำเป็นต้องทำการตลาดแยกสำหรับการจองทางโทรศัพท์ แคมเปญที่คุณทำเพื่อเพิ่มการจองออนไลน์ก็จะช่วยเพิ่มสายโทรศัพท์เข้ามาด้วย

การคุยกับลูกค้าทางโทรศัพท์ยังช่วยลดการยกเลิกการจอง เพราะคุณสามารถเข้าใจปัญหาของลูกค้าและหาทางแก้ไขได้ทันที

ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ไม่ซับซ้อนสำหรับโรงแรมที่ต้องการติดตามสายโทรศัพท์และฟังบันทึกเสียงการสนทนา คุณยังสามารถใช้เบอร์โทรศัพท์เฉพาะสำหรับแต่ละแคมเปญ เพื่อดูว่าแคมเปญไหนสร้างการโทรเข้ามากที่สุด อย่าลืมว่าเว็บไซต์ของคุณควรมีเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองด้วย เพื่อดูว่ามีสายโทรเข้ามาจากเว็บไซต์เท่าไหร่

วิธีเพิ่มยอดจองโรงแรมผ่านการจองห้องประชุม

หากมีนักเดินทางเพื่อธุรกิจมาที่เมืองคุณ แสดงว่ามีความต้องการใช้ห้องประชุมแน่นอน แต่ในโรงแรมส่วนใหญ่ ห้องประชุมมักถูกใช้งานไม่เต็มศักยภาพ เพื่อให้คุ้มค่ากับการลงทุนในสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับลูกค้าองค์กรและห้องประชุม คุณต้องดึงดูดให้แขกที่มาทำธุรกิจเลือกพักที่โรงแรมของคุณให้มากขึ้น

ใช้ 5 เคล็ดลับต่อไปนี้เพื่อเพิ่มรายได้จากการจัดประชุมและกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งปี

1. หาคนที่ใช่และเทคโนโลยีที่เหมาะสม

ไม่ว่าจะเป็นการประชุมเล็กๆ หรืองานใหญ่ ลูกค้าต้องการประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและราบรื่น ถ้าคุณทำได้ตามที่สัญญา ลูกค้าจะกลับมาจองอีกและแนะนำธุรกิจอื่นๆ มาหาคุณ จ้างมืออาชีพด้านอีเวนต์ที่รู้วิธีจัดงานประชุมให้สำเร็จ และจัดหาเครื่องมือเทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อให้โรงแรมของคุณจัดงานประชุมได้อย่างยอดเยี่ยม

2. สร้างพันธมิตรทางธุรกิจ

การมีเครือข่ายพันธมิตรที่ดีช่วยเพิ่มโอกาสในการจองห้องประชุมของคุณ ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้ ติดต่อบริษัททัวร์ ผู้จัดงานประชุม และมืออาชีพด้านอีเวนต์ในพื้นที่ แนะนำให้รู้จักห้องประชุมและบริการของโรงแรมคุณ เตรียมข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมด เช่น ขนาดห้อง อุปกรณ์ที่มี และแพ็กเกจราคา เพื่อให้พันธมิตรแนะนำลูกค้าองค์กรมาหาคุณได้ง่าย พิจารณาให้ค่าคอมมิชชั่นหรือสิทธิพิเศษแก่พันธมิตรที่ส่งลูกค้ามาให้

ที่สำคัญ อย่าลืมว่าการสร้างเครือข่ายพันธมิตรเป็นเรื่องของการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ลองหาวิธีที่คุณจะช่วยธุรกิจของพันธมิตรได้บ้าง เช่น แนะนำลูกค้าให้พวกเขา หรือร่วมจัดโปรโมชั่นพิเศษด้วยกัน เมื่อคุณช่วยเหลือพันธมิตรของคุณ พวกเขาก็จะตอบแทนด้วยการส่งลูกค้ามาให้คุณเช่นกัน

3. แสดงสิ่งอำนวยความสะดวกทางธุรกิจบนเว็บไซต์

ก่อนที่ลูกค้าใหม่จะจองห้องจัดงานของคุณ พวกเขาจะเข้าเว็บไซต์เพื่อดูสิ่งอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ เมื่อคุณมีเว็บไซต์ที่สมบูรณ์ พร้อมรูปภาพล่าสุด รายการสิ่งอำนวยความสะดวก และแพ็กเกจประชุมองค์กร คุณจะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่สนใจได้

เพื่อดึงดูดลูกค้าให้หลากหลายที่สุด ให้แบ่งสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการประชุมเป็นแพ็กเกจที่รองรับงานทุกขนาด นอกจากจะช่วยให้คุณได้ลูกค้าองค์กรมากขึ้นแล้ว คุณยังอาจจัดงานขนาดเล็กหลายงานพร้อมกันได้ ซึ่งจะเพิ่มรายได้จากการประชุมแบบทวีคูณ

4. ให้ลูกค้าจองออนไลน์หรือส่งแบบฟอร์มติดต่อ

การไม่ติดตามลูกค้าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้โรงแรมเสียโอกาสในการจัดประชุมและอีเวนต์ ทำให้ง่ายสำหรับลูกค้าในการจองห้อง โดยเพิ่มฟังก์ชันการจองออนไลน์ มีแบบฟอร์มติดต่อ หรือทั้งสองอย่าง

การรับจองออนไลน์ช่วยประหยัดเวลาให้ผู้วางแผนการประชุม แต่อาจไม่เหมาะกับทุกสถานที่ หากคุณไม่รับจองออนไลน์สำหรับห้องประชุม ควรมีขั้นตอนการติดตามลูกค้า

แนวปฏิบัติที่ดีคือติดตามทางอีเมลหรือโทรศัพท์ภายใน 24 ชั่วโมง เพียงแค่ทำตามขั้นตอนนี้ จะช่วยเพิ่มจำนวนการจองประชุมได้อย่างมาก ลองคิดดูว่า นายหน้าจัดประชุมรายหนึ่งบ่นว่า 46% ของลูกค้าไม่เคยได้รับการติดต่อกลับจากโรงแรมที่พวกเขาสอบถามเรื่องการประชุม หรือได้รับการติดต่อกลับช้าเกินไป

5. ทดลองนำเสนอบริการแบบใหม่ๆ

หากห้องประชุมของคุณยังไม่มีคนจอง อาจถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนวิธีการ เนื่องจากปัจจุบันมีคนทำงานนอกออฟฟิศหรือทำงานออนไลน์มากขึ้น จึงมีความต้องการห้องเช่าขนาดเล็กแบบรายชั่วโมง คุณอาจจัดการประชุมเล็กๆ หลายงานพร้อมกัน แต่ละงานมีผู้เข้าร่วม 50 คนหรือน้อยกว่า และเพิ่มบริการอาหารและเครื่องดื่มด้วย

มองห้องประชุมของคุณในมุมมองทางธุรกิจ การนำเสนอทุกสิ่งที่บริษัทต่างๆ ต้องการเพื่อจัดประชุมได้อย่างราบรื่น จะช่วยเพิ่มการจองและรายได้ของคุณ

ใช้เทคโนโลยีเพิ่มยอดจองและรายได้ให้โรงแรม

เทคโนโลยีคือวิธีที่ดีที่สุดในการทำให้โรงแรมของคุณเป็นที่รู้จักออนไลน์ในช่วงไฮซีซั่นท่องเที่ยว การนำโรงแรมไปลงในเว็บไซต์จองที่พักออนไลน์ (OTA) ให้มากที่สุด จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คนเห็นและจองโรงแรมของคุณมากขึ้น

แต่การจัดการช่องทางออนไลน์หลายที่พร้อมกันนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย นี่คือจุดที่เทคโนโลยีจัดการช่องทางการขาย (Channel Management) เข้ามาช่วย

การเชื่อมต่อแบบสองทางและเรียลไทม์ระหว่างระบบจองของโรงแรมและ/หรือระบบจัดการโรงแรม (PMS) กับระบบจัดจำหน่ายทั่วโลก (GDS) จะช่วยให้ทีมบริหารช่องทางการขายและพนักงานรับจอง และจัดการการจองใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น

เพราะการจองออนไลน์จะอัพเดทในระบบจองของโรงแรมโดยอัตโนมัติ จึงไม่มีการจองที่ตกหล่นหรือสูญหาย การเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์ยังช่วยอัพเดทจำนวนห้องว่างในระบบจองของโรงแรมโดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยป้องกันการจองเกิน

SiteMinder มอบประโยชน์เหล่านี้และอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยแพลตฟอร์มการจัดการธุรกิจโรงแรมอัจฉริยะที่ครบวงจรและบูรณาการ คุณจะใช้เวลากับงานบริหารโรงแรมน้อยลง และมีเวลาโฟกัสกับการพัฒนาธุรกิจมากขึ้น SiteMinder ออกแบบมาเฉพาะสำหรับโรงแรมขนาดกลางถึงใหญ่ เข้ามาแก้ปัญหางานจำเจในแต่ละวัน และช่วยให้คุณคว้าโอกาสทางธุรกิจที่อาจพลาดไปได้