ความสำเร็จของธุรกิจโรงแรมยุคใหม่เริ่มต้นจากสิ่งที่ลูกค้ามองเห็นและรับรู้จากทรัพยากรที่มีในโรงแรม: การวางผังห้องพักโรงแรม ก็เป็นส่วนสำคัญในการสร้างประสบการณ์การเข้าพักที่ดีให้กับแขก และยังมีผลเชิงรุกที่สามารถสร้างแรงกระตุ้นการรับรู้ตัวตนของโรงแรมต่อลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอีกด้วย
ไม่ว่าคุณจะจัดการโรงแรมโดยยึดตามมาตรฐานของแบรนด์หรือเปิดกว้างอย่างอิสระ การตัดสินใจ ณ จุดนี้ จะสร้างผลกระทบต่อประสบการณ์การเข้าพักของแขกผ่านรีวิวและบนโซเชียลมีเดียในระยะยาว รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ สามารถกลายเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อโรงแรมของคุณบนโลกออนไลน์ได้ ไม่ว่าจะสร้างความน่าสนใจด้วยการวางตำแหน่งอ่างอาบน้ำที่ไม่ธรรมดา หรือหากมองในเชิงบวก ก็ถือเป็นการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบความแปลกใหม่มาใช้บริการโดยที่ไม่ต้องคิดกลยุทธ์เพิ่มเติม
บล็อกของเราวันนี้ จะช่วยแนะนำวิธีวางผังและเคล็ดลับการออกแบบห้องพักโรงแรมที่มีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการรีโนเวทหรือสร้างใหม่ อย่าพลาดบทความดี ๆ ที่จะช่วยหาแรงบันดาลใจในการสร้างแนวทางของคุณพร้อมกับการออกแบบห้องพักโรงแรมที่ดีที่สุด
สารบัญ
การวางผังห้องพักโรงแรม: สิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐาน
การนอนบนเตียงแสนสบายเป็นสิ่งสำคัญเมื่อพักผ่อนในโรงแรมก็จริง แต่การออกแบบห้องพักโรงแรมที่ดีควรมีอย่างอื่นที่มากกว่าเตียงนุ่ม ๆ และสิ่งเหล่านั้นอาจมาจากความคาดหวังของแขก, พันธกิจของโรงแรม และข้อบังคับตามกฎหมาย
เรียกได้ว่าเป็นความต้องการหรือสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานที่มีอิทธิพลต่อการออกแบบห้องพัก และนี่คือ 3 คำถามที่จะช่วยให้คุณไม่หลงทางและมีจุดเริ่มต้นที่ดีในการออกแบบห้องพักโรงแรม
คุณแบ่งพื้นที่ในห้องพักอย่างไร?
ห้องพักโดยปกติจะมีพื้นที่สำหรับนอนหลับ, พื้นที่ทำงานหรือพื้นที่ที่สามารถใช้ทำงานได้เมื่อจำเป็น และห้องน้ำ หากคุณออกแบบโดยมุ่งเน้นการเข้าพักระยะยาว สิ่งจำเป็นในห้องพักอาจจะรวมถึงพื้นที่สำหรับประกอบอาหารและรับประทานอาหารด้วย
ใช้งานพื้นที่ภายในห้องพักอย่างไร?
การเดินไปยังห้องพักโรงแรมควรให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ เมื่อเข้าห้องพัก คนส่วนใหญ่จะมองดูองค์ประกอบสำคัญ ๆ โดยอัตโนมัติและมีการตอบสนองกลับ ดังนั้น เมื่อแขกเดินไปเดินมาภายในห้องพัก ควรมีพื้นที่ให้แขกสามารถเดินหรือเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก หากเป็นห้องพักบนเรือสำราญ อาจหมายถึงการเพิ่มพื้นที่โดยใช้เตียงพับลงเพื่อให้เดินไปยังระเบียงได้ง่ายขึ้น หากเป็นกรณีของห้องพักโรงแรม ก็อาจหมายถึงการมีพื้นว่างที่ประมาณโต๊ะข้างเตียง 2 อันหรือมากกว่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อวางแผนวิธีใช้งานพื้นที่ภายในห้องพัก จะต้องคำนึงถึงจำนวนผู้เข้าพักสูงสุด, การเชื่อมต่อกันของพื้นที่ และสามารถเข้าถึงง่ายด้วย ขั้นตอนของกระบวนการวางแผนนี้ ควรพิจารณาถึงจุดยืนของการสร้างรายได้และรวมถึงวางแผนให้ครอบคลุมสำหรับห้องพักประเภทอื่นด้วย ผลสุดท้ายแล้ว รูปแบบของห้องพักโรงแรมแต่ละประเภทจะถูกนำเข้าระบบ PMS ซึ่งจะมีผลต่อทีมขายของคุณและการ Upsell ด้วย
ข้อกำหนดทางกฎหมาย, แบรนด์ หรือความต้องการอื่นๆ เกี่ยวกับการออกแบบห้องพัก มีอะไรบ้าง?
มีข้อกำหนดเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย โดยขึ้นอยู่กับสถานที่ตั้งของโรงแรมและสัมพันธ์กับภาพลักษณ์ของแบรนด์หรือคอลเลกชัน ซึ่งถือว่ามีประโยชน์ต่อการสำรวจความต้องการของผู้ที่ให้บริการธุรกิจท่องเที่ยวต่าง ๆ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณด้วย หากเป็นองค์กรใหญ่ จะรวมคำถามที่เฉพาะเจาะจง อย่างเช่น เรื่องความปลอดภัยในใบข้อเสนอ (Request For Proposal) หากบริษัทท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จที่คุณตั้งเป้าหมายไว้ คุณควรทำความเข้าใจกับความต้องการของพวกเขาก่อนตัดสินใจเขียนผังหรือออกแบบห้องพัก
เมื่อคุณตอบคำถามด้านบนได้อย่างชัดเจนแล้ว ไอเดียและแนวทางการแก้ปัญหาจะเข้าที่เข้าทางมากขึ้น และคุณจะเริ่มแก้ปัญหาให้กับลูกค้าบางประเภทได้ดีขึ้นด้วย
สิ่งที่ควรทำเมื่อถึงเวลาที่จะยกระดับโรงแรมไปอีกขึ้น คือ การแบ่งสัดส่วนในห้องพักให้กว้างขึ้นพร้อมส่งเสริมการใช้งานพื้นที่อย่างราบรื่น ยกตัวอย่างเช่น การรับมือกับลูกค้า 2 กลุ่ม ระหว่างนักเดินทางเพื่อธุรกิจช่วงกลางสัปดาห์และกลุ่มครอบครัวที่เดินทางมาพักผ่อนช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ อาจตีความได้ว่า ห้องพักควรมีองค์ประกอบที่ยืดหยุ่นมากขึ้น รูปแบบพื้นห้องพักควรจะมีลักษณะที่คล้ายกันมากกว่าผนังหรือประตู เพราะเป็นเส้นทางที่แขกจะเดินผ่านโถงและมองเห็นได้ง่าย
หากคุณเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์โรงแรมเครือใหญ่ ๆ นี่ถือเป็นโอกาสทองในการตรวจสอบทรัพยากรที่มี รวมถึงซัพพลายเออร์และเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการ การตัดสินใจระหว่าง 2 ตัวเลือกขึ้นไป จะเป็นเรื่องง่ายหากคุณมีเป้าหมายและความต้องการที่ชัดเจน
ตัวอย่างการวางผังห้องพักในโรงแรม
ไม่ว่าคุณจะวางแผนก่อสร้างโรงแรมใหม่, เปลี่ยนออฟฟิศให้กลายเป็นห้องพัก, หรือรีโนเวทห้องเดิม อาจมีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อรูปแบบของห้องพัก เช่น คุณอาจจะเจอกับรูปแบบห้องพักขนาดเดียวกันหรือพื้นที่ที่มีลักษณะเฉพาะ
สิ่งที่น่าสนใจ คือ แปลนห้องพักโรงแรมหรูกับโรงแรมระดับกลางมีความคล้ายคลึงกันเมื่อพิจารณาสิ่งอื่นที่นอกเหนือจากพื้นที่ตารางฟุต
และนี่คือ 3 ตัวอย่างรูปแบบห้องพักในโรงแรมที่น่าสนใจสำหรับผู้เริ่มต้น:
1. ห้องธรรมดา/เตียงคู่/เตียงควีนไซส์/เตียงคิงไซส์
ผังห้องพักกลุ่มนี้จะถูกออกแบบภายในพื้นที่สี่เหลี่ยม มี 1 ห้องน้ำพร้อมประตู โดยจะแยกสัดส่วนพื้นที่นอนหลับและพื้นที่ทำงานด้วยโต๊ะติดวิวหน้าต่างและใช้วัสดุที่โดดเด่นบริเวณหัวเตียงในการตกแต่ง การใช้เก้าอี้หรือโซฟาจะช่วยเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายหรือความยืดหยุ่นในการเข้าพักได้มากขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่เป็นตารางฟุตด้วย
2. ห้องพรีเมียมหรือห้องซูพีเรีย
ผังห้องพักพรีเมียมและซูพีเรียจะเหมือนกับห้องพักธรรมดามากแต่มีคุณสมบัติที่โดดเด่นกว่า เช่น:
- พื้นที่มากกว่า
- มีระเบียง วิว หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องที่หรูหรากว่า เช่น อ่างอาบน้ำระบบเจ็ตส์
- เตียงขนาดใหญ่กว่า
ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เป็นไปได้ภายในผังของทรัพย์สินนั้น ๆ สิ่งนี้ถือเป็นโอกาสในการสร้างพื้นที่พรีเมียมที่สามารถ upsell ก่อนการเข้าพักหรือ ณ จุดเช็คอินได้ การรู้จักตลาดและลูกค้าของคุณจะช่วยให้คุณสามารถจัดองค์ประกอบที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายได้
3. ห้องสวีท 1 ห้องนอนหรือ 2 ห้องนอนขึ้นไป
แขกที่จองห้องพักแบบแยกห้องนอนจะคาดหวังกับการแบ่งพื้นที่อย่างชัดเจน เช่น พื้นที่สำหรับนอนและพื้นสำหรับทำงาน, นั่งเล่น, ใช้เวลากับครอบครัว หรือสำหรับประชุม หมายความว่า การมีประตูห้องนอนเป็นสิ่งจำเป็น ห้องสวีทที่มีห้องนอนแยกมักจะมีห้องครัว เพื่อเพิ่มความคล่องตัวไม่ว่าจะอยู่ในห้องแยกต่างหากหรือในพื้นที่อื่น ๆ
หากคุณกำหนดกลุ่มเป้าหมายไว้แล้ว คุณสามารถออกแบบพื้นที่ให้เหมาะสมกับความต้องการของพวกเขาได้ เช่น ประตูและม่านบังแสงเสียงรบกวนต่ำสำหรับลูกค้ากลุ่มครอบครัว หรือเสริมห้องน้ำขนาดเล็กสำหรับลูกค้านักธุรกิจที่อาจมีการนัดคุยงานกับบุคคลภายนอก ฟีเจอร์เหล่านี้เป็นสิ่งมาจากการคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าและเป็นไอเดียออกแบบห้องพักในโรงแรมใหม่ ๆ ที่ช่วยยกระดับชีวิตแขกให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
3 ไอเดียการออกแบบห้องพักในโรงแรม
ส่วนประกอบที่มีการออกแบบหลายฟังก์ชัน
เมื่อคุณผ่านสเต็ปการวางผังไปสู่การออกแบบห้องพัก คุณจะมีตัวเลือกที่มากขึ้น ส่วนประกอบที่มีการออกแบบหลายฟังก์ชัน จะให้โอกาสในการปรับแต่งพื้นที่ของแขกได้: เป็นธีมที่ Motto by Hilton นำมาใช้สร้างพื้นที่แบบยืดหยุ่นซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับห้องพักได้สูงสุดถึง 3 ห้อง
หากเป็นองค์ประกอบด้านโครงสร้างแบบนี้ จะต้องมีการวางแผนล่วงหน้าอย่างดีในเวลาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีวิธีอื่น ๆ เพื่อให้แขกสามารถใช้พื้นที่ระหว่างการเข้าพักได้อย่างอิสระเช่นกัน อย่างการออกแบบของเก้าอี้นวมแบบไม่มีพนักพิง สามารถเพิ่มที่นั่งในห้องพักได้โดยไม่กินพื้นที่มากเกินไป โต๊ะหมุนอเนกประสงค์ สามารถหมุนเก็บเพื่อเพิ่มพื้นที่และมีตัวเลือกมุมมองที่มากขึ้น หรือพื้นที่ครัวขนาดเล็กพร้อมเก้าอี้บาร์สูง ก็เป็นอีกทางเลือกในการเพิ่มพื้นที่ทำงาน
เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานพื้นที่ขนาดเล็ก
โรงแรมขนาดใหญ่และขนาดเล็กต่างก็เล็งเห็นการเพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่ขนาดเล็กให้เกิดประโยชน์สูงสุด: โรงแรม Marriott กำลังผลักดันการออกแบบให้มีฟังก์ชันหลากหลายในพื้นที่จำกัด ซึ่งวิธีเพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่ขนาดเล็กภายในโรงแรมของคุณ อาจเริ่มจากการใช้ฟีเจอร์ง่าย ๆ เช่น โต๊ะพับ, โต๊ะขนาดเล็กที่สามารถซ้อนกันได้, ราวแขวนผนังแบบเปิดแทนการใช้ตู้เสื้อผ้า และประตูบานเลื่อน เป็นต้น
ความสามารถในการปรับใช้งานได้หลากหลายเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพสิ่งเดิมที่มีอยู่ การเดินสายไฟใหม่เพื่อให้มีปลั๊กใกล้เตียงนอนมากขึ้น จะกลายเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นอีกต่อไปหากองค์ประกอบในห้องมีการออกแบบหลายฟังก์ชัน ยกตัวอย่างเช่น: โคมไฟข้างเตียงที่เสียบปลั๊กเพียง 1 เต้าปลั๊กไฟ แต่มีพอร์ทชาร์จ USB ถึง 4 ช่อง หรือกระจกและจานสีอ่อน สามารถหลอกสายตาให้ห้องพักดูมีพื้นที่มากขึ้นได้
สร้างจุดเชื่อมต่อภายในพื้นที่
เทรนด์ที่กำลังเติบโตในธุรกิจโรงแรมและการออกแบบภายใน คือ การใช้วัสดุในการเบลอจุดเชื่อมต่อระหว่างภายในกับภายนอก ซึ่งเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มประสิทธิภาพให้มองเห็นทัศนียภาพที่สวยงาม แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมีวิวสวย ๆ เพื่อให้แขกรู้สึกเชื่อมต่อกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวก็ได้ ลองพิจารณารูปภาพสถานที่ในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ภาพหัวเตียงที่แสดงวิวทิวทัศน์ภายในพื้นที่ ซึ่งเป็นจุดที่น่าสนใจและเป็นมุมถ่ายรูปที่แขกมักจะแชร์ลงบนโซเชียลมีเดีย ในขณะเดียวกันก็ช่วยสร้างชื่อเสียงทางออนไลน์และเพิ่มประสบการณ์การเข้าพักให้กับแขกได้