Skip to main content

สรุป Online Travel Agency (OTA): สำหรับธุรกิจโรงแรม

  โพสต์ใน แหล่งข้อมูล   ปรับปรุงล่าสุด 30/10/2024

Online Travel Agency คืออะไร ?

เว็บจองออนไลน์ หรือที่รู้จักในชื่อ OTA (Online Travel Agency) เป็นเว็บไซต์ที่นักท่องเที่ยวใช้จองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน รถเช่า หรือแม้แต่แพ็คเกจท่องเที่ยวทั้งหมด ตัวอย่าง OTA ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Booking.com, Expedia และ Airbnb และอื่นๆอีกมากมาย

สำหรับผู้ประกอบการโรงแรม OTA เปรียบเสมือนช่องทางออนไลน์ที่คุณสามารถประชาสัมพันธ์ห้องพักของคุณได้ตลอดเวลา ทำให้นักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาที่พักในพื้นที่ของคุณสามารถเห็นและจองห้องพักได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหนของปี

แม้ว่าการใช้ OTA จะช่วยให้โรงแรมเพิ่มยอดจองได้มาก แต่การพึ่งพาช่องทางนี้มากเกินไปก็อาจเป็นดาบสองคม ยังมีโรงแรมอีกมากที่ไม่มีเว็บไซต์และระบบจองของตัวเองที่รองรับการใช้งานบนมือถือ และหลายแห่งยังคงใช้วิธีจัดการธุรกิจแบบเดิมๆ แทนที่จะใช้ระบบจัดการโรงแรม (PMS)

การจับมือกับเว็บจองออนไลน์ไม่เพียงแต่ช่วยให้โรงแรมของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่ยังช่วยรักษาอัตราการเข้าพักให้คงที่อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่โรงแรมของคุณจะติดอันดับต้นๆ ในผลการค้นหาของ Google ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่ไม่ควรมองข้าม แต่ค่าคอมมิชชั่นที่ต้องจ่ายให้เว็บจองโรงแรมออนไลน์ก็อาจรู้สึกเหมือนเป็น “ยาขม” ที่จำเป็นหากโรงแรมต้องการประสบความสำเร็จ

บทความนี้จะแนะนำข้อมูลสำคัญที่จะช่วยคุณเลือก Online Travel Agency (OTA) ที่เหมาะกับธุรกิจที่พักของคุณ เพื่อให้คุณสร้างรายได้เพิ่มขึ้น โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากเกินไป

สารบัญ

ทำไม OTA จึงสำคัญสำหรับโรงแรม?

ปัจจุบัน เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าเว็บจองออนไลน์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการรับจองของโรงแรม ทั้งในแง่ของการตลาดและช่องทางการขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการจองที่พักออนไลน์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

การใช้ OTA เป็นวิธีที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชื่นชอบในการจองทริปและที่พัก เว็บเหล่านี้เป็นศูนย์กลางของตลาดออนไลน์ที่เฟื่องฟู ซึ่งนำเสนอตัวเลือกที่หลากหลาย ความสะดวก ความรวดเร็ว คุณค่า และความปลอดภัย

ความโดดเด่นของเว็บจองโรงแรมออนไลน์อย่าง Expedia และ Booking.com ยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และพิสูจน์แล้วว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่นักท่องเที่ยวใช้ค้นหาที่พักหลากหลายรูปแบบในราคาที่ดีที่สุด

ประเภทของแพลตฟอร์ม OTA ต่างๆ

แพลตฟอร์ม OTA ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการวางแผนและจองการเดินทางของเรา เว็บจองเหล่านี้ให้บริการแบบครบวงจรสำหรับนักท่องเที่ยว โดยเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยในการเปรียบเทียบและจองเที่ยวบิน โรงแรม ที่พักให้เช่า และบริการอื่นๆ อีกมากมาย มีหลายประเภทของแพลตฟอร์ม Online Travel Agency (OTA) แต่ละประเภทตอบสนองความต้องการเฉพาะของนักท่องเที่ยว

เว็บจองโรงแรมโดยเฉพาะ (Hotel OTA)

OTA ประเภทนี้เน้นให้บริการตัวเลือกโรงแรมที่หลากหลายแก่นักท่องเที่ยว โดยมีจุดเด่นคือช่วยให้ผู้ใช้เปรียบเทียบราคา สิ่งอำนวยความสะดวก ทำเล และรีวิวของโรงแรมต่างๆ ได้ง่าย มักมีข้อเสนอและส่วนลดพิเศษ ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ใส่ใจเรื่องงบประมาณ ช่วยให้นักท่องเที่ยวหาที่พักที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทริปได้ง่ายขึ้น

เว็บจองที่พักให้เช่า (OTA Vacation Rental)

เว็บจองประเภทนี้เช่น Airbnb, Vrbo, HomeAway ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ให้บริการที่พักที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น อพาร์ตเมนต์ วิลล่า หรือแม้แต่บ้านต้นไม้ มอบประสบการณ์เหมือนอยู่บ้าน (home-away-from-home) เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักระยะยาวหรือมองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบท้องถิ่นและเข้าถึงได้อย่างแท้จริง

เว็บเปรียบเทียบราคา (Metasearch)

OTA Metasearch อย่าง Google Travel, Trivago, Kayak และ Skyscanner เป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมข้อมูลจากทั้ง Online Travel Agency (OTA) ต่างๆ และเว็บไซต์จองโดยตรง จุดเด่นของแพลตฟอร์มเหล่านี้คือช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปรียบเทียบราคาและข้อเสนอจากหลายแหล่งได้ในที่เดียว ช่วยประหยัดเวลาและแรงงานที่ต้องเสียไปกับการเข้าชมแต่ละเว็บไซต์ ทั้งนี้ เมื่อผู้ใช้เลือกข้อเสนอที่ต้องการแล้ว แพลตฟอร์มจะนำพาผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ต้นทางเพื่อทำการจองให้เสร็จสมบูรณ์

เว็บจองตั๋วเครื่องบิน

แพลตฟอร์มเว็บจองตั๋วเครื่องบินเช่น Skyscanner, Kayak, และ CheapOair เชี่ยวชาญในการช่วยนักท่องเที่ยวค้นหาและจองเที่ยวบิน ช่วยแสดงภาพรวมของตัวเลือกเที่ยวบินจากสายการบินต่างๆช่วยให้ผู้ใช้เปรียบเทียบราคา เวลา และเส้นทางได้ หลายแพลตฟอร์มยังมีบริการเสริม เช่น การเช่ารถและการจองโรงแรม ทำให้สะดวกในการวางแผนทริป

โรงแรมทำงานร่วมกับ Online Travel Agency อย่างไร

โดยทั่วไป Online Travel Agency (OTA) จะมีหน้าแสดงข้อมูลโรงแรมของคุณอย่างละเอียด เพื่อให้นักท่องเที่ยวประเมินได้ ยิ่งคุณใส่ข้อมูลและรูปภาพมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีเท่านั้น

ข้อมูลที่ควรมีอาจรวมถึง สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการของโรงแรม สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง รีวิวจากลูกค้า รูปภาพห้องพัก แผนที่ ประเภทห้องพักและราคาสำหรับช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวต้องการ

การร่วมมือกับ Online Travel Agency (OTA) ไม่ว่าจะเป็นหนึ่งหรือหลายแห่ง สามารถช่วยเพิ่มโอกาสให้โรงแรมของคุณเป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์ได้อย่างมาก ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มยอดจองและรายได้

ข้อดีคือ OTA จะรับผิดชอบด้านการตลาดทั้งหมด คุณเพียงแค่ต้องนำเสนอข้อมูลโรงแรมให้น่าสนใจ และมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับแขกที่เข้าพัก

แน่นอนว่าบริการนี้มาพร้อมค่าใช้จ่าย โดยคุณจะต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับ OTA สำหรับทุกการจองที่พวกเขานำมาให้ ซึ่งโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 15% ของยอดจอง

ด้วยเหตุนี้ การรักษาสมดุลระหว่างการรับจองผ่าน OTA และการรับจองโดยตรงผ่านเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของคุณเอง โดยใช้ระบบจองออนไลน์ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึง

วิธีเลือก Online Travel Agency ที่ใช่สำหรับโรงแรมคุณ

การเลือก Online Travel Agency (OTA) ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับโรงแรมของคุณขึ้นอยู่กับสถานการณ์เฉพาะและเป้าหมายที่คุณตั้งไว้ ปัจจัยที่ควรพิจารณามีดังนี้:

  • ตลาดในพื้นที่ของคุณ: มักจะมี OTA บางเจ้าที่เชี่ยวชาญในการนำการจองมาสู่ประเทศหรือจุดหมายปลายทางของคุณ เช่น Traveloka สำหรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • กลุ่มเป้าหมายในอุดมคติของคุณ: OTA บางเจ้าจะช่วยให้คุณได้รับการจองจากนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงที่มาเที่ยวในพื้นที่ของคุณบ่อยๆ เช่น Agoda สำหรับนักท่องเที่ยวจากเอเชีย
  • ประเภทของที่พักคุณ: ตัวอย่างเช่น OTA บางเจ้าให้บริการเฉพาะที่พักระดับหรู
  • บริการที่คุณนำเสนอ: คุณสามารถหา OTA ที่เหมาะสำหรับการโปรโมทแพ็คเกจ การจองนาทีสุดท้าย ฯลฯ เช่น Klook สำหรับกิจกรรมและทัวร์
  • กลยุทธ์ของคุณ: คุณต้องการให้มีการจองผ่าน OTA มากน้อยแค่ไหน เมื่อเทียบกับช่องทางตรงของคุณ เช่น เว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย?

จะเห็นได้ว่า ไม่มีวิธีการเลือก OTA แบบสำเร็จรูปที่เหมาะกับทุกโรงแรม คุณจำเป็นต้อง:

  • วางแผนให้ชัดเจน
  • วิเคราะห์ตัวเลือกอย่างละเอียด
  • เลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาช่วย

ยิ่งใช้ OTA หลายเจ้า ระบบจัดการโรงแรม (PMS) และระบบจัดการช่องทางขาย (Channel Manager) ก็ยิ่งสำคัญ การนำระบบเหล่านี้มาใช้จะช่วยให้ข้อมูลการจองถูกต้อง อัพเดทอัตโนมัติ และทำให้คุณวัดผลการทำงานของแต่ละช่องทางได้ง่ายขึ้น

ตัวอย่างเช่น ช่วงสงกรานต์ คุณอาจเน้น OTA ที่เข้าถึงคนไทย ส่วนหน้าหนาวอาจหันไปหา OTA ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยากหนีหนาว

จำไว้ว่า การเลือก OTA ที่เหมาะสมนั้นเป็นกระบวนการที่ต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ดังนั้นควรทบทวนกลยุทธ์อยู่เสมอเพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังใช้ช่องทางที่ให้ผลลัพธ์ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ

รวม Online Travel Agency ชื่อดัง

จากที่กล่าวมาข้างต้น มี Online Travel Agency (OTA) หลายแห่งที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกใช้วางแผนและจองการเดินทาง

มีเว็บไซต์ท่องเที่ยวออนไลน์หลายร้อยแห่งที่นักท่องเที่ยวสามารถจองโรงแรมและบริการท่องเที่ยวอื่นๆ ได้ ดังนั้นการรู้จัก OTA รายใหญ่จึงเป็นเรื่องสำคัญ

อย่างไรก็ตาม การรู้จัก OTA เฉพาะทางที่เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวเฉพาะ หรือ OTA ที่เน้นตลาดในภูมิภาคของคุณก็มีประโยชน์เช่นกัน ตัวอย่างเช่น Mr & Mrs Smith ที่เน้นโรงแรมบูทีคและโรงแรมหรู

มาดูกันว่า OTA ไหนบ้างที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้:

  • Booking.com – ถือเป็นผู้นำระดับโลกของ OTA เป็นช่องทางการจองยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มและทุกภูมิภาคทั่วโลก
  • Expedia – อีกหนึ่ง OTA รายใหญ่ โดดเด่นในการให้บริการจองแพ็คเกจท่องเที่ยว
  • Agoda – ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในตลาดเอเชีย รวมถึงประเทศไทย
  • Mr & Mrs Smith – เน้นโรงแรมบูทีคและโรงแรมหรู
  • Airbnb – เชี่ยวชาญด้านที่พักขนาดเล็กหรือที่พักที่ไม่เหมือนใคร มอบประสบการณ์ “บ้านหลังที่สอง” สำหรับนักท่องเที่ยว
  • Lastminute.com – เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจองที่พักนาทีสุดท้าย โดยเฉพาะในยุโรป
  • Orbitz – OTA รายใหญ่สำหรับตลาดอเมริกา
  • Skyscanner – ตัวเลือกยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวงบประมาณจำกัด
  • Hotels.com – มีระบบสะสมคะแนนที่ดึงดูดนักเดินทางประจำ
  • Priceline.com – อีกหนึ่งตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการท่องเที่ยวแบบประหยัด
  • HRS.com – เน้นกลุ่มนักเดินทางธุรกิจเป็นหลัก
  • Trip.com – OTA ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่
  • Travelocity – มีรางวัลพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวที่ทำกิจกรรมอาสาสมัคร
  • Kayak – เว็บไซต์ค้นหาการท่องเที่ยวชั้นนำ ที่มีตัวเลือกที่พักมากมายสำหรับนักเดินทาง
  • HotelTonight – สำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาดีลดีๆ สำหรับการจองนาทีสุดท้าย
  • Wotif – เชี่ยวชาญในตลาดออสเตรเลีย
  • TripAdvisor – รวบรวมรีวิวสำหรับโรงแรม ร้านอาหาร และกิจกรรมท่องเที่ยว
  • VRBO – ย่อมาจาก Vacation Rentals by Owners คล้ายกับ Airbnb เน้นที่พักที่มีเอกลักษณ์ โดยเจ้าของบ้านสามารถลงประกาศให้เช่าได้

นี่เป็นเพียงบางส่วนของ OTA ยอดนิยมที่เราสามารถรวบรวมได้ แต่ในความเป็นจริงมี OTA อีกหลายร้อยแห่ง บางแห่งอาจเหมาะกับที่พักของคุณมากกว่า

ตัวอย่างเช่น Travelocity เป็นช่องทางที่ให้รางวัลแก่นักท่องเที่ยวที่ทำภารกิจอาสาสมัคร ในขณะที่ Intrepid เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวแนวผจญภัยและร่วมมือกับโฮสเทลและที่พักสำหรับแบ็คแพ็คเกอร์

Traveliko: Online Travel Agency แนวใหม่

Traveliko โดย iko.travel คือ Online Travel Agency รูปแบบใหม่ที่น่าสนใจ ให้บริการคล้ายกับ OTA ทั่วไป แต่ใช้โมเดลธุรกิจที่ไม่เรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น

iko.travel พยายามกำจัด ‘คนกลาง’ โดยสัญญาว่าโรงแรมจะมีอำนาจเต็มในการควบคุมรายการห้องพัก โปรโมชั่น แพ็คเกจ และราคา

ซึ่ง OTA ส่วนใหญ่อาจเสนอการเป็นสมาชิกแบบเสียค่าบริการ Traveliko ให้ผู้ประกอบการโรงแรมลงรายการห้องพักฟรี พร้อมการเชื่อมต่อกับ Channel Manager เช่น SiteMinder โดยไม่กำหนดจำนวนห้องขั้นต่ำ และรองรับการจองสูงสุด 100 ครั้งต่อเดือน (หรือมูลค่าการจองไม่เกิน 35,000 บาท)

ผู้ประกอบการโรงแรมที่ใช้ Traveliko สามารถใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ที่คุ้นเคยจาก Online Travel Agency ทั่วไป เช่น การสร้างแพ็คเกจเสริม อัปโหลดวิดีโอ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ร้านอาหาร สปา และกิจกรรมต่างๆ

ด้วยเหตุนี้ Traveliko จึงเป็นแพลตฟอร์มที่มีความหลากหลายด้านคอนเทนต์ และเปิดโอกาสให้โรงแรมสร้างความประทับใจกับลูกค้า ผ่านการนำเสนอสิทธิประโยชน์พิเศษและอัตราค่าบริการสำหรับสมาชิก Traveliko ที่น่าสนใจ

ตัวอย่างของ Traveliko แสดงให้เห็นถึงทางเลือกมากมายสำหรับผู้ประกอบการโรงแรมที่ต้องการขายห้องพักออนไลน์ แต่ละโรงแรมควรมีกลยุทธ์การใช้ Online Travel Agency ที่เหมาะสมกับตนเอง โดยเริ่มจากการทำความเข้าใจตัวเลือกที่มี

แบรนด์อย่าง TripAdvisor, Hotels.com, Booking.com และ Expedia ได้รับความสนใจมากเนื่องจากมีงบประมาณการตลาดสูง แต่นักท่องเที่ยวก็ฉลาดขึ้นเรื่อยๆ และยินดีใช้เวลาค้นหาข้อเสนอที่ดีที่สุดไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ดังนั้น การเชื่อมต่อกับ Online Travel Agency หลากหลายช่องทางจึงเป็นสิ่งสำคัญ

คุณสามารถดาวน์โหลดรายงานของ SiteMinder เพื่อดูรายละเอียดและการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ในแต่ละตลาด

รีวิวบน OTA: เคล็ดลับสำหรับนักการตลาดโรงแรม

ดูผิวเผินแล้ว Online Travel Agency (OTA) อาจดูเหมือนเป็นคู่แข่งตัวฉกาจของโรงแรมอิสระ แต่ในความเป็นจริงแล้ว OTA มักกลับกลายเป็นพันธมิตรที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง

โรงแรมอิสระต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้ OTA เมื่อมีการจองห้องพัก แต่ต้องยอมรับว่าโรงแรมจะไม่เป็นที่รู้จักมากนักหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจาก OTA ที่มีการเข้าถึงผู้ใช้อย่างกว้างขวาง

OTA มีงบประมาณการตลาดมหาศาล และมักครองอันดับต้นๆ ในผลการค้นหาของ Google สำหรับคำค้นที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว คุณไม่สามารถเอาชนะ OTA ในเกมการตลาดออนไลน์ได้ ดังนั้นคุณจึงต้องร่วมมือกับพวกเขาในฐานะพันธมิตรแทน

แล้วจะทำอย่างไรให้โรงแรมของคุณติดอันดับต้นๆ บน OTA? การปรับแต่งโปรไฟล์เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเราจะพูดถึงในภายหลัง แต่ปัจจัยสำคัญอีกอย่างคือรีวิว ยิ่งคุณมีรีวิวเชิงบวกมากเท่าไหร่ โอกาสที่นักท่องเที่ยวจะเจอโปรไฟล์โรงแรมของคุณก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

วิธีปรับปรุงรีวิว:

  1. เชิญชวนให้แขกแสดงความคิดเห็นระหว่างที่ยังพักอยู่
  2. ส่งอีเมลขอรีวิวหลังจากแขกเช็คเอาท์
  3. ตอบกลับทุกความคิดเห็นอย่างสม่ำเสมอ
  4. ใส่ใจทุกข้อติชม ไม่ปล่อยไว้โดยไม่จัดการ
  5. รักษาท่าทีเป็นมิตร ไม่ปกป้องตัวเองมากเกินไป
  6. มอบหมายทีมเฉพาะในการดูแลการตอบรีวิว

แม้ว่าคุณจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ที่แขกได้รับก่อนเขียนรีวิวได้ แต่คุณสามารถรับรู้ปัญหาและดำเนินการแก้ไข หรือแสดงความขอบคุณสำหรับคำชม

คุณสามารถเพิ่มจำนวนรีวิวเชิงบวกได้โดยมีระบบรับฟังความคิดเห็นแบบเรียลไทม์ขณะที่แขกยังพักอยู่ที่โรงแรม หากคุณแก้ไขปัญหาได้ทันที โอกาสที่จะได้รับรีวิวเชิงลบก็จะน้อยลง

อย่ามองว่ารีวิวเชิงลบเป็นเรื่องร้ายแรงเสมอไป วิธีที่คุณรับมือกับข้อร้องเรียนหรือคำแนะนำ อาจเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จและสร้างความประทับใจให้กับแขกในอนาคตได้

การจองโรงแรมผ่าน OTA: วิธีดึงดูดลูกค้า

การดึงดูดลูกค้าให้จองห้องพักผ่าน OTA ก็เหมือนกับการดึงดูดลูกค้าให้จองตรงกับโรงแรม – ความประทับใจแรกสำคัญที่สุด!

ความประทับใจแรกที่สำคัญที่สุดคือรูปภาพของโรงแรมและห้องพัก นักท่องเที่ยวอยากเห็นสิ่งที่พวกเขาจะจ่ายเงินซื้อ ถ้าพวกเขาเห็นรูปที่ไม่ชัด เบลอ หรือจัดองค์ประกอบไม่ดี ลูกค้าจะไม่รีบควักกระเป๋าจ่ายเงินแน่นอน

ถ้าคุณถ่ายรูปคุณภาพสูงเองไม่ได้ การจ้างช่างภาพมืออาชีพถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว คุณควรอัพเดทรูปภาพทุก 2-3 ปี และทุกครั้งที่มีการปรับปรุงหรือตกแต่งใหม่ ควรเตรียมรูปภาพให้พร้อมก่อนที่จะเริ่มลงรายการบน OTA

1. ประเมินว่าโรงแรมของคุณควรทำงานร่วมกับ OTA อย่างไร

โดยปกติแล้ว การเชื่อมต่อกับ OTA หลายๆ ช่องทางถือเป็นเรื่องดี แต่คุณควรเลือกพันธมิตรอย่างชาญฉลาด ขั้นแรก ลองสำรวจตลาดของคุณและดูว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายนิยมใช้ช่องทางไหนกันบ้าง อย่าจำกัดตัวเองแค่ OTA ยอดนิยม 4-5 อันดับแรก แต่ให้มองหาพันธมิตรที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายของคุณอย่างแท้จริง

ลองนึกภาพว่า โรงแรมของคุณตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวแนวผจญภัย อย่างเช่นที่ควีนส์ทาวน์ในนิวซีแลนด์ ในกรณีนี้ คุณอาจอยากจับมือกับ OTA เฉพาะทางอย่าง STA Travel ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยววัยรุ่นที่ชื่นชอบกิจกรรมผาดโผน หรือถ้าแขกส่วนใหญ่ของคุณเป็นชาวจีน ก็น่าจะเป็นไอเดียดีที่จะร่วมงานกับ Trip.com เพื่อเพิ่มโอกาสในการดึงดูดการจองจากกลุ่มนี้

2. ใช้ประโยชน์จาก Billboard Effect ที่เกิดจากช่องทางออนไลน์

แม้ว่านักท่องเที่ยวอาจเจอโรงแรมคุณใน OTA แต่ไม่ได้แปลว่าเขาจะจองผ่านช่องทางนั้นเสมอไป หลายคนมักจะแวะเข้ามาดูเว็บไซต์โรงแรมโดยตรงหลังจากเห็นใน OTA ซึ่งเราเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า Billboard Effect นี่แหละคือโอกาสทองที่คุณจะดึงรายได้กลับมาได้

พอนักท่องเที่ยวเข้ามาที่เว็บไซต์คุณแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องทำให้การจองที่นี่น่าสนใจที่สุด เพื่อไม่ให้เขาย้อนกลับไปจองที่ OTA หรือไปดูโรงแรมอื่น ถ้าเขาหาข้อมูลไม่เจอ เช่น ประเภทห้อง ชื่อห้อง รูปภาพ หรือนโยบายที่ตรงกับที่เห็นใน OTA เขาอาจจะงงและไม่พอใจได้

คุณสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ด้วยรูปภาพ วิดิโอที่น่าสนใจ แพ็คเกจสุดคุ้ม และโปรโมชั่นสุดพิเศษ ลองใช้บล็อกเพื่อแชร์ข้อมูลที่มีประโยชน์ อัพเดทข่าวสาร และเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และอย่าลืมติดตั้งระบบจองออนไลน์บนเว็บไซต์ด้วย เพื่อให้คุณสามารถนำเสนอแพ็คเกจและราคาพิเศษได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณดึงดูดลูกค้าให้จองโดยตรงได้มากขึ้นแน่นอน

3. ใช้ข้อมูลเพื่อทำการตลาดให้ดีขึ้น

ข้อมูลคือสมบัติล้ำค่าสำหรับผู้ประกอบการโรงแรม โดยเฉพาะข้อมูลของลูกค้าที่มีแนวโน้มจะเข้าพัก

การเพิ่มยอดจองให้โรงแรมนั้นสำคัญ แต่การทำตลาดแบบไร้ทิศทางไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง สิ่งสำคัญคือต้องรู้ก่อนว่าใครคือกลุ่มเป้าหมายของคุณ และจะเข้าถึงพวกเขาได้อย่างไร

กลุ่มเป้าหมายอาจเปลี่ยนไปตามฤดูกาล หรือพฤติกรรมนักท่องเที่ยวอาจแปรผัน นี่คือเหตุผลที่คุณต้องมีข้อมูลที่เชื่อถือได้และวิเคราะห์อย่างสม่ำเสมอ

คุณสามารถหาข้อมูลเหล่านี้ได้จากหลายแหล่ง รวมถึงจาก OTA ที่มักเผยแพร่แนวทางการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เพื่อเพิ่มอัตราการเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมเป็นลูกค้าและยอดจอง

วิธีใช้ประโยชน์จาก OTA ให้คุ้มค่าที่สุด

เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจาก OTA และเข้าถึงลูกค้าของพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้เพื่อทำให้โปรไฟล์โรงแรมของคุณโดดเด่นที่สุด

โรงแรมของคุณเป็นแบรนด์หนึ่ง ดังนั้นการทำการตลาดควรเป็นไปในทิศทางเดียวกันทุกช่องทาง อย่าเก็บรูปสวยๆ หรือเนื้อหาดีๆ ไว้แค่บนเว็บไซต์ของคุณเอง ต้องมั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้ปรากฏบนเว็บไซต์ OTA ด้วยเช่นกัน

เช่นเดียวกับ Google, OTA ก็มีอัลกอริทึมในการจัดอันดับโรงแรมเหมือนกัน นี่คือ 6 ขั้นตอนง่ายๆ ที่จะช่วยให้โปรไฟล์โรงแรมของคุณโดดเด่นบน OTA:

1. จัดการจำนวนห้องพักให้แม่นยำ

เนื่องจากจำนวนห้องว่างของคุณจะเปลี่ยนแปลงตามช่วงไฮซีซั่นหรือการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล คุณต้องรักษาความแม่นยำของจำนวนห้องพักในทุก OTA เพื่อรักษาอัตราการเข้าพักให้สูง

การใช้ Channel Manager ที่มีระบบ pooled inventory เป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะจะป้องกันปัญหาการจองซ้ำหรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งจะสร้างความไม่พอใจให้กับนักท่องเที่ยว

2. จัดการราคาและโปรโมชั่นอย่างชาญฉลาด

นักท่องเที่ยวไม่ได้ใช้ OTA เพียงเพื่อดูตัวเลือกที่พักที่หลากหลายเท่านั้น แต่ยังใช้เพื่อหาไอเดียการเดินทางและจองห้องพักนาทีสุดท้ายในราคาพิเศษด้วย

การลงโปรโมชั่นระยะสั้นบน OTA จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายห้องพักที่เหลืออยู่ได้มากขึ้น

ไม่ยากเลยที่จะปรับแต่งข้อมูลบน OTA เพื่อเน้นอัตราค่าห้องพักพิเศษ หรือใช้ประโยชน์จากเทศกาลต่างๆ เช่น สงกรานต์หรือลอยกระทง เพื่อดึงดูดแขกให้มาพักที่โรงแรมของคุณ

3. ตอบรีวิวอย่างระมัดระวัง

ปัจจุบันมีเพียง 14% ของผู้บริโภคที่เชื่อถือโฆษณาแบบดั้งเดิม แต่มีถึง 92% ที่ให้ความสำคัญกับรีวิวบนเว็บไซต์อย่าง TripAdvisor รีวิวบน OTA มักจะน่าเชื่อถือเพราะแขกสามารถโพสต์รีวิวได้หลังจากที่เข้าพักจริงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มีเพียง 36% ของผู้ประกอบการโรงแรมที่ตอบรีวิวบนเว็บไซต์ OTA การจัดการรีวิวออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพเป็นเรื่องสำคัญมาก

4. ลองลงโฆษณาแบบจ่ายเงิน

โรงแรมทุกขนาดสามารถใช้ประโยชน์จากการโฆษณาแบบจ่ายเงินได้ ไม่ใช่แค่โรงแรมใหญ่ๆ เท่านั้น โดยเฉพาะการโฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก (Pay-per-click) ซึ่งเหมาะกับโรงแรมอิสระด้วย แม้ว่าวิธีนี้จะไม่รับประกันว่าจะเพิ่มยอดจองได้แน่นอน แต่ก็ช่วยสร้างการรับรู้ให้กับโรงแรมของคุณ ถ้าคุณมีรูปภาพหรือวิดิโอที่น่าดึงดูด นอกจากจะช่วยเพิ่มรายได้แล้ว ยังอาจส่งผลให้อันดับของคุณใน OTA ดีขึ้นด้วย

5. มุ่งเน้นตลาดเฉพาะกลุ่ม

แม้การมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าเฉพาะอาจทำให้คุณเข้าถึงคนได้น้อยลง แต่โอกาสที่จะได้ยอดจองตามเป้าก็มีมากขึ้น คุณสามารถใช้กลยุทธ์ต่างๆ เช่น การจัดโปรโมชันในช่วงเวลาพิเศษ เทศกาลสำคัญ การเจาะตลาดในพื้นที่เฉพาะ หรือวิธีอื่นๆ เพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณได้อย่างตรงจุด

6. ทำความเข้าใจคู่แข่ง

การรู้จักคู่แข่งในตลาดที่คล้ายคลึงกับคุณนั้นสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้คุณตั้งราคาห้องพักได้เหมาะสม ไม่ต่ำหรือสูงจนเกินไป ซึ่งจะทำให้คุณแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การติดตามความเคลื่อนไหวของคู่แข่งยังอาจเปิดโอกาสให้คุณเพิ่มยอดจองได้อีกด้วย เช่น การสังเกตการเปลี่ยนแปลงราคาของคู่แข่งอาจบ่งบอกถึงอัตราการเข้าพักหรือโปรโมชั่นที่คุณสามารถนำมาปรับใช้ได้ ทั้งนี้ โรงแรมสามารถใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูลพิเศษเพื่อติดตามกลยุทธ์ของคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การทำให้โปรไฟล์ OTA ของคุณดีที่สุด ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มยอดจองจากช่องทาง OTA เท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณโดยตรงด้วย ซึ่งจะช่วยชดเชยค่าคอมมิชชั่นที่คุณต้องจ่ายให้ OTA

วิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มยอดจองผ่าน OTA สำหรับโรงแรมของคุณ

การเลือกช่องทาง OTA ที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนแรกในการเพิ่มยอดจอง แต่ยังมีอีกหลายวิธีที่จะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จของคุณ

นี่คือวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้คุณดึงดูดลูกค้าในช่องทางการจองของคุณ:

  • ทำงานร่วมกับผู้จัดการตลาดของ OTA: วิธีนี้จะช่วยให้คุณได้ประโยชน์จากแคมเปญต่างๆ ที่ OTA จัดขึ้น
  • ใช้หลายช่องทาง: พฤติกรรม แรงจูงใจ และความชอบของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การมีช่องทางที่หลากหลายจะช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากที่สุด
  • แสดงจุดยืนของแบรนด์ให้ชัดเจน: ลูกค้าอยากรู้ว่าคุณยืนหยัดในเรื่องอะไร และเชื่อในอะไร เช่น ปัจจุบันลูกค้าสนใจโรงแรมที่มีนโยบายและการปฏิบัติด้านความยั่งยืนมากขึ้น
  • สร้างภาพลักษณ์และส่งเสริมการขาย: นักท่องเที่ยวนิยมใช้ OTA เพราะเป็นแหล่งรวมข้อมูลที่พักครบวงจร ทั้งเปรียบเทียบราคา หาโปรโมชั่น และอ่านรีวิวได้ในที่เดียว คุณจึงต้องให้ความสำคัญกับการปรับปรุงทุกด้านของการนำเสนอธุรกิจคุณบนช่องทางออนไลน์ให้โดดเด่นที่สุด
  • ใช้ Channel Manager: หากไม่มี Channel Manager การจัดการการเชื่อมต่อกับ OTA หลายๆ แห่งพร้อมกันจะเป็นไปได้ยาก และอาจเกิดข้อผิดพลาดของข้อมูลหรือการจองซ้ำซ้อนได้

เพิ่มยอดจองและรายได้ด้วยระบบ OTA channel manager

การใช้ OTA channel manager เพิ่มเม็ดเงินอาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา! แต่จะเลือกระบบไหนดีล่ะ? มาดูกันว่าอะไรบ้างที่คุณควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ:

  • ความหลากหลายของช่องทางการขาย
  • ความสะดวกในการใช้งานและฟีเจอร์ที่มี
  • ความสามารถในการเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ
  • รีวิวและชื่อเสียง
  • การฝึกอบรมและบริการหลังการขาย
  • ระยะเวลาทดลองใช้ฟรี

SiteMinder ไม่ใช่แค่ระบบจัดการช่องทางการขายธรรมดา แต่เป็นระบบ hotel channel manager ที่ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพสูงสุดในโลกมาหลายปี ด้วยจุดเด่นทั้งเรื่องการเชื่อมต่อ การบูรณาการ ฟังก์ชันการทำงาน และความปลอดภัย

ปัจจุบัน SiteMinder ได้พัฒนาเป็นแพลตฟอร์มบริหารจัดการโรงแรมแบบครบวงจร พร้อมพาโรงแรมของคุณไปสู่ความสำเร็จ

  • เพิ่มรายได้สูงสุด: SiteMinder ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยช่วยคุณจัดการราคาและจำนวนห้องว่างบนทุกช่องทางการขายแบบทันที ไม่เพียงแค่ช่วยให้คุณขายห้องได้เต็มที่ แต่ยังช่วยคว้าโอกาสรับจองนาทีสุดท้ายที่มักมีราคาดี ทำให้รายได้ของคุณพุ่งสูงสุด
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน:SiteMinder ช่วยให้คุณทำงานอัตโนมัติได้หลายอย่าง ตั้งแต่การจัดการ OTA ไปจนถึงการรับจองตรงจากลูกค้า วิธีนี้ไม่เพียงแต่ลดความเสี่ยงในการรับจองเกิน (overbooking) แต่ยังช่วยให้คุณมีเวลามากขึ้นในการดูแลลูกค้าให้ประทับใจ
  • เพิ่มยอดจองตรง: SiteMinder มีระบบจองออนไลน์ที่เชื่อมต่อกับเว็บไซต์ของคุณได้อย่างราบรื่น ทำให้แขกสามารถจองห้องพักกับคุณโดยตรงได้อย่างสะดวก นอกจากจะทำให้ลูกค้าจองง่ายขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มกำไรให้คุณด้วย เพราะไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้ OTA

ไม่ต้องปล่อยให้ห้องพักว่างอีกต่อไป! ใช้ SiteMinder ยกระดับกลยุทธ์การขายโรงแรมของคุณตั้งแต่วันนี้ เริ่มใช้งาน SiteMinder แล้วคุณจะเห็นผลลัพธ์ที่เพิ่มยอดจองพุ่งทะยานอย่างน่าทึ่ง