Skip to main content

เทคโนโลยีโรงแรม: คู่มือสำหรับผู้ประกอบการไทย | นวัตกรรมสมัยใหม่

  โพสต์ใน แหล่งข้อมูล   ปรับปรุงล่าสุด 22/08/2024

เทคโนโลยีโรงแรมคืออะไร?

เทคโนโลยีโรงแรมคือโซลูชันที่ช่วยให้โรงแรมบรรลุเป้าหมายสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานอัตโนมัติในชีวิตประจำวัน การเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายห้องพัก การกระตุ้นยอดจอง การสร้างรายได้ที่มั่นคง การวิเคราะห์ข้อมูล และการมอบประสบการณ์ที่ประทับใจให้แขก

โรงแรมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดมีจุดร่วมกันอย่างน้อยหนึ่งอย่าง นั่นคือการใช้เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์โรงแรมที่ล้ำสมัย

เทคโนโลยีโรงแรมเป็นแนวคิดที่เติบโตและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยเพิ่งเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมา ทำให้ยังมีโรงแรมอีกหลายพันแห่งทั่วโลกที่ยังไม่ได้นำกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีมาใช้อย่างครอบคลุม นี่จึงเป็นโอกาสอันดีสำหรับทั้งธุรกิจโรงแรมและผู้พัฒนาเทคโนโลยี

บทความนี้จะแนะนำทุกสิ่งที่ผู้ประกอบการโรงแรมควรรู้ ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหาเทคโนโลยีมาใช้เป็นครั้งแรก หรือต้องการอัพเกรดระบบปัจจุบันให้ทันสมัยยิ่งขึ้น

สารบัญ

ทำไมเทคโนโลยี Smart Hotel ถึงมีความสำคัญ?

เทคโนโลยี Smart Hotel กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีการพัฒนาก้าวกระโดดในช่วงหนึ่งถึงสองทศวรรษที่ผ่านมา เป็นนวัตกรรมในโรงแรมที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีศักยภาพสูงสำหรับผู้ประกอบการที่เล็งเห็นความจำเป็นในการใส่ใจรายละเอียดการบริหารจัดการธุรกิจที่พักในทุกๆ ด้าน

จากข้อมูลของ Statista เหตุผล 5 อันดับแรกที่ผู้ประกอบการโรงแรมทั่วโลกใช้นวัตกรรมการบริการ ได้แก่:

  1. ยกระดับประสบการณ์ของแขก (24%)
  2. เพิ่มผลกำไร (18%)
  3. เตรียมพร้อมธุรกิจสำหรับอนาคต (16%)
  4. สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน (15%)
  5. เพิ่มรายได้รวม (11%)

ในอดีต การเพิ่มอัตราการเข้าพักและการปรับราคาเป็นครั้งคราวอาจเป็นวิธีหลักในการเพิ่มรายได้ แต่ปัจจุบัน อัตราการเข้าพักไม่ใช่ตัวชี้วัดหลักของความสำเร็จอีกต่อไป นวัตกรรมธุรกิจโรงแรมได้เปลี่ยนแปลงวิธีการวัดผลความสำเร็จไปอย่างสิ้นเชิง

ผู้ประกอบการที่พักในปัจจุบันต้องให้ความสำคัญกับตัวชี้วัดหลากหลายด้านในทุกแผนกของโรงแรม และต้องคำนึงถึงนวัตกรรมที่ใช้ในโรงแรมเป็นอันดับแรกเมื่อวางกลยุทธ์ในด้านต่างๆ เช่น:

  • การกระจายห้องพักและการจัดการสินค้าคงคลัง
  • การบริหารรายได้และการกำหนดราคา
  • การจองโดยตรงจากลูกค้า
  • การบริหารจัดการทรัพย์สิน
  • ประสบการณ์ของแขก
  • ข้อมูลเชิงลึกทางการตลาด
  • ข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจและผลการดำเนินงาน
  • อัตราการเปลี่ยนผู้เข้าชมเว็บไซต์เป็นลูกค้า
  • การขายและการตลาด
  • ชื่อเสียงของแบรนด์
  • และอื่นๆ อีกมากมาย

ธุรกิจโรงแรมที่ยังคงใช้วิธีการบริหารจัดการแบบดั้งเดิมและใช้แรงงานคนเป็นหลักกำลังเสียเปรียบอย่างมาก โรงแรมชั้นนำตระหนักดีว่าเทคโนโลยี Smart Hotel ไม่ใช่เพียงกลยุทธ์การตลาดที่สิ้นเปลือง แต่เป็นนวัตกรรมที่สามารถแก้ไขความท้าทายในอุตสาหกรรมยุคปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแต่ทำให้การบริหารธุรกิจที่พักง่ายขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการปูทางสู่การเติบโตทางธุรกิจอย่างชัดเจน

จริงๆแล้ว เทคโนโลยี Smart Hotel คือกุญแจสำคัญที่ปลดล็อกเป้าหมายสูงสุดของโรงแรม นั่นก็คือการสร้างรายได้

การเพิ่มรายได้จำเป็นต้องอาศัยการเติบโตในหลายๆ ด้านของธุรกิจ ซึ่งมักเกิดขึ้นผ่านกระบวนการแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่เพียงแค่การปรับราคาห้องพักเท่านั้น

ตัวอย่างเช่น:

  • การเพิ่มรายได้อาจหมายถึงการปรับปรุงชื่อเสียงของแบรนด์
  • การปรับปรุงชื่อเสียงของแบรนด์หมายถึงการยกระดับประสบการณ์ของแขก
  • การยกระดับประสบการณ์ของแขกอาจหมายถึงการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางกายภาพของที่พัก
  • หรือการทำให้กระบวนการจองง่ายขึ้นและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
  • หรือการสื่อสารแบบส่วนตัวกับแขก
  • ซึ่งอาจหมายถึงการลงทุนในแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่มีฟีเจอร์ระบบการจองออนไลน์
  • ซึ่งนำไปสู่การเชื่อมต่อกับระบบเพิ่มเติมหรือระบบที่มีอยู่เดิม
  • และเปิดโอกาสในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจที่มีคุณค่า
  • เพื่อเปิดช่องทางการสร้างรายได้ใหม่ๆ

การเติบโตของธุรกิจโรงแรมขึ้นอยู่กับการเชื่อมโยงทุกส่วนของระบบที่ซับซ้อนนี้เข้าด้วยกัน ซึ่งมักเป็นจุดติดขัดสำหรับที่พักหลายแห่ง มีหลายสิ่งที่ต้องจัดการให้ถูกต้อง และมีข้อมูลมากมายที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้

นวัตกรรมในโรงแรมอย่างเทคโนโลยี Smart Hotel สามารถจัดการกับความท้าทายในการรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการทุกด้านของธุรกิจได้อย่างราบรื่น ตั้งแต่การจัดการห้องพัก การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับแขก ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเทคโนโลยีในโรงแรม

เทคโนโลยีอะไรบ้างที่ใช้ในโรงแรม?

โรงแรมใช้เทคโนโลยีหลากหลายรูปแบบ ทั้งเทคโนโลยีสำหรับพนักงานและเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ของแขก ส่วนใหญ่โรงแรมใช้เทคโนโลยีคลาวด์และอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (IoT) ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็ว ระบบอัตโนมัติ การบูรณาการ และความสะดวกในการใช้งาน

ตัวอย่างเช่น ระบบจัดการโรงแรม (PMS) ที่ผู้ประกอบการใช้บริหารธุรกิจประจำวัน หรืออุปกรณ์อัจฉริยะอย่างระบบควบคุมอุณหภูมิและแสงสว่างที่แขกสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ

ผลลัพธ์ของการใช้เทคโนโลยีในโรงแรมคืออะไร?

การใช้เทคโนโลยีในโรงแรมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน มอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้แขก และสร้างรายได้มากกว่าโรงแรมที่ยังใช้วิธีการบริหารจัดการแบบเก่าที่ต้องจัดการแบบแมนวล

เทคโนโลยีช่วยให้งานสำคัญหลายอย่างทำได้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น และแม่นยำมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น ซึ่งสามารถนำไปใช้ตัดสินใจเรื่องสำคัญ และปรับปรุงผลลัพธ์ของกลยุทธ์ต่างๆ ที่ใช้อยู่

ทำไมเทคโนโลยีโรงแรมจึงมีความสำคัญมากขึ้น?

เทคโนโลยีโรงแรมมีความสำคัญมากขึ้นเพราะการท่องเที่ยวกำลังเติบโต อุตสาหกรรมมีการแข่งขันสูงขึ้น และความคาดหวังของแขกกำลังเปลี่ยนแปลง

เมื่ออุตสาหกรรมขยายตัว โรงแรมจำเป็นต้องหาวิธีสร้างรายได้และคว้าโอกาส ส่วนผู้บริโภคก็เคยชินกับการพึ่งพาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความเร็วและความสะดวกสบายในชีวิต

เพื่อให้อยู่รอดในตลาดปัจจุบัน เทคโนโลยีโรงแรมจึงมีความจำเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากโรงแรมต้องการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย

อนาคตของเทคโนโลยีโรงแรมจะเป็นอย่างไร?

สำหรับเจ้าของและผู้จัดการโรงแรม เทคโนโลยีในอนาคตจะยังคงเน้นเรื่องการเพิ่มรายได้สูงสุดโดยอาศัยชุดข้อมูลและการวิเคราะห์ที่ซับซ้อน รวมถึงการให้ความสำคัญกับบริการส่วนบุคคลและกระบวนการอัตโนมัติมากขึ้น

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะมีบทบาทสำคัญทั้งเบื้องหลังและเบื้องหน้าที่ติดต่อกับแขก เนื่องจากความสามารถในการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากอย่างรวดเร็วและให้ผลลัพธ์ที่มีคุณค่า ซึ่งคาดว่าจะเหนือกว่าความสามารถของมนุษย์

สำหรับแขก เทคโนโลยีโรงแรมจะเกี่ยวข้องกับการตอบสนองและเกินความคาดหวัง เทคโนโลยีจะช่วยสร้างความประทับใจและความสะดวกสบายระดับสุดยอด โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงเท่ากับการพักในรีสอร์ทห้าดาว

ทำความรู้จักเทคโนโลยีสำหรับธุรกิจโรงแรมในปัจจุบัน

ระบบอัตโนมัติและการบูรณาการเป็นคำสำคัญสำหรับผู้ให้บริการเทคโนโลยีทุกราย เพราะเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจของโรงแรม

สำหรับโรงแรมที่ต้องการมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับแขก มีโซลูชันเทคโนโลยีหลากหลายที่สามารถนำมาใช้เพื่อส่งผลต่อทั้งกระบวนการเบื้องหลังและการดำเนินงานที่ติดต่อกับแขกโดยตรง

เทคโนโลยีโรงแรมที่คุณมักได้ยินบ่อยๆ ได้แก่:

เทคโนโลยีการกระจายห้องพักออนไลน์

เทคโนโลยีการกระจายห้องพักออนไลน์ช่วยให้คุณทำการตลาดและขายห้องพักได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่น channel manager ซึ่งใช้ระบบอัตโนมัติช่วยลงขายห้องพักบนช่องทางการจองต่างๆ และจัดการห้องพักให้เป็นระบบ

เทคโนโลยีการจองโดยตรง

เทคโนโลยีการจองโดยตรงช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงค่าคอมมิชชั่นของบรรดาเว็บจองออนไลน์ เช่น Agoda หรือ Booking.com โดยติดต่อกับลูกค้าโดยตรง ตัวอย่างเช่น ระบบการจองออนไลน์ที่ผสานรวมกับเว็บไซต์ของคุณ ช่วยให้แขกจองและชำระเงินกับธุรกิจของคุณโดยตรง

เทคโนโลยีการบริหารรายได้

เทคโนโลยีการบริหารรายได้ช่วยในการกำหนดกลยุทธ์ราคา ทบทวนและคาดการณ์ผลประกอบการ ตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มรายได้สูงสุด และอื่นๆ ตัวอย่างเช่น ระบบบริหารรายได้ที่สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลอัตโนมัติ รวมถึงให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์

เทคโนโลยีการจัดการโรงแรม

เทคโนโลยีการจัดการโรงแรมช่วยให้คุณควบคุมการดำเนินธุรกิจประจำวันได้ ตัวอย่างเช่น ระบบจัดการโรงแรม (PMS) ที่ช่วยจัดการเรื่องต่างๆ เช่น การจอง ปฏิทินการจอง ข้อมูลแขก แม่บ้าน การซ่อมบำรุง และอื่นๆ ผ่านหน้าจอเดียว

เทคโนโลยีด้านข้อมูลธุรกิจ

เทคโนโลยีด้านข้อมูลธุรกิจช่วยให้คุณทันต่อสภาวะตลาดและการแข่งขันในพื้นที่ ตัวอย่างเช่น SiteMinder Insights ที่ช่วยติดตามคู่แข่ง ดูและวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน และรักษาค Rate Parity หรือให้ราคาขายที่เท่ากันบนทุกช่องทาง

เทคโนโลยีเว็บไซต์และ SEO

เทคโนโลยีเว็บไซต์และ SEO ช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมและดึงดูดลูกค้าที่มีศักยภาพมาสู่แบรนด์ของคุณ ตัวอย่างเช่น เครื่องมือสร้างเว็บไซต์โรงแรมที่ช่วยให้คุณมีเว็บไซต์ที่เหมาะสมกับ SEO และมือถืออย่างรวดเร็ว ช่วยให้คุณแข่งขันบน Google และสร้างคอนเทนต์ที่มีประโยชน์สำหรับนักท่องเที่ยว

เทคโนโลยีสำหรับแขก

เทคโนโลยีสำหรับแขกหรือในห้องพักส่งผลโดยตรงต่อประสบการณ์ของแขกที่โรงแรม มีผลิตภัณฑ์มากมายให้โรงแรมเลือกใช้ตามงบประมาณและประเภทของที่พัก หลายอย่าง เช่น Wi-Fi ฟรี หรือบริการสตรีมมิ่งและความบันเทิง อาจถือเป็นสิ่งจำเป็นในมุมมองของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน

เทคโนโลยีการตลาด

เทคโนโลยีการตลาดมีประโยชน์ในการเพิ่มการรับรู้แบรนด์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้จองกับคุณ และสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้า ตัวอย่างเช่น เครื่องมือสร้างความผูกพันกับแขก ที่ช่วยให้การสื่อสารกับแขกและการปรับแต่งข้อเสนอหรือประสบการณ์ระหว่างเข้าพักเป็นไปอย่างง่ายดาย

เทคโนโลยีในโรงแรม: การดำเนินงานบนระบบคลาวด์

ปัจจุบันเทคโนโลยีคลาวด์เป็นกำลังหลักในการกระจายห้องพักออนไลน์ นอกจากช่วยเพิ่มยอดจองแล้ว ยังสามารถปรับปรุงการดำเนินธุรกิจโรงแรมได้แทบทุกด้าน

เทคโนโลยีคลาวด์เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์และคุ้มค่าโดยเฉพาะสำหรับผู้ประกอบการโรงแรมอิสระที่มีงบประมาณจำกัด

ต่อไปนี้คือ 6 ประโยชน์ของการใช้เทคโนโลยีคลาวด์ในโรงแรมของคุณ:

1. เทคโนโลยีคลาวด์คุ้มค่าคุ้มราคา

ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นต่ำเพราะคุณจ่ายเฉพาะสิ่งที่ต้องการในด้านพื้นที่จัดเก็บข้อมูลและประสิทธิภาพการประมวลผล ค่าใช้จ่ายด้านฮาร์ดแวร์ พลังงาน และการดำเนินงานลดลง เนื่องจากผู้ให้บริการเป็นผู้รับผิดชอบโครงสร้างพื้นฐาน ไม่มีค่าบำรุงรักษาเพราะหากอุปกรณ์ของคุณเสีย เพียงเข้าสู่ระบบด้วยอุปกรณ์อื่นก็สามารถทำงานต่อได้ทันที

2. เทคโนโลยีคลาวด์ประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพ

การประมวลผลบนคลาวด์เร็วกว่า และกระบวนการอัตโนมัติช่วยให้โรงแรมทำงานได้มากขึ้นในเวลาสั้นลง สามารถทำงานอัตโนมัติได้ทั้งการจอง อีเมล การอัปเดตห้องพัก การชำระเงิน และแม้แต่งานแม่บ้าน ความยืดหยุ่นของคลาวด์ยังช่วยให้คุณจัดการระบบได้จากทุกที่ เพียงมีอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์

3. เทคโนโลยีคลาวด์ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ

ข้อมูลถูกเก็บอย่างปลอดภัยบนระบบทางไกล ไม่ใช่ในสถานที่จริง ลดความเสี่ยงที่ข้อมูลและบันทึกจะถูกโจรกรรมหรือสูญหาย ใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ เพราะการอัปเดตหรือแอปพลิเคชันทำได้ในซอฟต์แวร์ ควรเลือกผู้ให้บริการที่ได้มาตรฐาน PCI DSS

4. เทคโนโลยีคลาวด์มีประสิทธิภาพการประมวลผลสูง

การประมวลผลบนคลาวด์เร็วกว่าเพราะใช้ความสามารถเชื่อมต่อที่ไม่เคยทำได้บนคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว ทำให้ติดตาม รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลการจองได้ง่ายขึ้น

5. เทคโนโลยีคลาวด์ปรับปรุงการทำงานร่วมกันของพนักงาน

ระบบโรงแรมบนคลาวด์ช่วยให้พนักงานตอบสนองได้เร็วขึ้น ไม่ต้องอยู่แค่ที่เคาน์เตอร์ สามารถให้บริการที่รวดเร็วและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ลดเวลาสูญเปล่า ทำให้แขกพึงพอใจและอยากกลับมาพักอีก

6. เทคโนโลยีคลาวด์ช่วยพัฒนาและดำเนินกลยุทธ์ธุรกิจ

เทคโนโลยีนี้ช่วยรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลแขกจำนวนมาก ทำให้พัฒนาโปรแกรมสมาชิกและแผนราคาที่เหมาะสมได้ง่าย เพิ่มทั้งการได้ลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าเก่า ยิ่งรู้จักแขกมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำการตลาดโรงแรมได้แม่นยำมากขึ้นเท่านั้น

เทคโนโลยีแบบเปิดสำหรับโรงแรม (Open hotel technology) คืออะไร และสำคัญอย่างไร?

เทคโนโลยีแบบเปิดสำหรับโรงแรม หมายถึงระบบที่ ‘เปิด’ ให้บุคคลที่สามเข้าถึงและมีปฏิสัมพันธ์ได้ ลักษณะการเปิดนี้เกิดขึ้นจากการเผยแพร่ Application Programming Interfaces (APIs) ซึ่งอนุญาตให้มีการเข้าถึงจากภายนอก

ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มแบบเปิดสามารถเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้าสู่ระบบได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ขยายระบบนิเวศ (เช่น แอปพลิเคชันสำหรับโรงแรมของบุคคลที่สาม) และปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้

ซึ่งต่างจากระบบ ‘ปิด’ ที่มักจำกัดการเข้าถึงและการเชื่อมต่อกับบริการและเทคโนโลยีเฉพาะที่กำหนดไว้ ผู้ประกอบการโรงแรมที่ใช้ระบบปิดจะมีอิสระและความยืดหยุ่นน้อยกว่า และมีโอกาสเติบโตจำกัด

การเชื่อมต่อกับระบบนิเวศแบบเปิดที่พัฒนาอยู่เสมอมีความสำคัญอย่างยิ่งในการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงและรับมือความท้าทายด้วยโซลูชันที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ‘เปิด’ ในที่นี้หมายถึงการเข้าถึงและการเชื่อมต่อ ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้ ข้อมูลจะอยู่ในรูปแบบเปิด แต่เฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงได้

ประโยชน์ของแพลตฟอร์ม open technology สำหรับโรงแรมของคุณ

ปัจจุบันผู้ประกอบการโรงแรมเผชิญความท้าทายมากมาย ทั้งการขาดแคลนพนักงาน รายได้ที่ไม่แน่นอน การจัดการผู้ให้บริการหลายราย การเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายและการขาย การรับประกันความพึงพอใจของแขก การจัดการซ่อมบำรุงและงานธุรการ รวมถึงการบริหารธุรกิจให้มีกำไร

เทคโนโลยีแบบเปิดช่วยให้ผู้ประกอบการโรงแรมมั่นใจได้ว่าเลือกเส้นทางที่ถูกต้องและปรับตัวตามความต้องการของแขกและการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน แทนที่จะถูกคู่แข่งทิ้งห่างอย่างรวดเร็ว แพลตฟอร์มแบบเปิดเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน ช่วยให้คุณเชื่อมต่อโซลูชันของบุคคลที่สามเข้ากับระบบเทคโนโลยีที่มีอยู่ได้อย่างราบรื่น

สิ่งนี้เพิ่มความสามารถในการใช้กลยุทธ์และบริการที่ช่วยเพิ่มรายได้และประสิทธิภาพของโรงแรมคุณอย่างมาก

นอกจากนี้ยังช่วยลดอุปสรรคด้านค่าใช้จ่ายที่มักเกิดขึ้นเมื่อต้องการปรับแต่งหรือเพิ่มเทคโนโลยี เทคโนโลยีแบบเปิดช่วยลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายโดยให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์ ‘plug and play’ ที่ใช้งานได้ตามความต้องการของคุณ

แพลตฟอร์มแบบเปิดยังเป็นประโยชน์ต่อโรงแรมของคุณโดย:

  • พัฒนาฟังก์ชันและบริการเฉพาะสำหรับโรงแรมของคุณ เพื่อปรับปรุงการทำงานทั้งเบื้องหลังและส่วนที่ติดต่อกับลูกค้า
  • รวมศูนย์แหล่งข้อมูลเพื่อช่วยในการวิเคราะห์และตัดสินใจอย่างมีข้อมูล
  • เพิ่มความยืดหยุ่นและอิสระในการดำเนินงานผ่านการเชื่อมต่อที่มากขึ้น
  • ร่วมมือและเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญและมืออาชีพในอุตสาหกรรม
  • นำโซลูชันเทคโนโลยีมาใช้ได้เร็วขึ้นและมีค่าใช้จ่ายน้อยลง
  • แก้ปัญหาการสื่อสาร ทั้งภายในองค์กรและระหว่างคุณกับแขก ด้วยการผสานรวมที่ราบรื่น
  • มองเห็นภาพรวมของธุรกิจ ช่วยให้ระบุปัญหา ช่องว่าง และโอกาสในการเติบโต
  • ขายบริการเสริมให้แขกและเพิ่มรายได้ต่อแขก
  • เข้าถึงโซลูชันที่มีความหมายโดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไปหรือขั้นตอนที่ยุ่งยาก

ไม่ว่าคุณจะต้องการทำให้การทำงานประจำวันง่ายขึ้น ขายห้องพักได้มากขึ้น เพิ่มรายได้ ยกระดับประสบการณ์ของแขก หรือทั้งหมดที่กล่าวมา แพลตฟอร์มแบบเปิดคือวิธีที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้อย่างปราศจากความเครียดและมีค่าใช้จ่ายต่ำ

การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในธุรกิจโรงแรม

เมื่อพิจารณาทุกด้านแล้ว เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) มีความสำคัญต่อโรงแรมของคุณไม่แพ้เตียงนอน มินิบาร์ หรือบริการห้องพัก เมื่อการดำเนินงานของโรงแรมราบรื่นแล้ว คุณจึงจะสามารถมุ่งเน้นไปที่การยกระดับประสบการณ์ของแขกได้อย่างเต็มที่

ต่อไปนี้คือตัวอย่างวิธีที่ IT ช่วยปรับปรุงอุตสาหกรรมโรงแรมและการท่องเที่ยว:

การขายแบรนด์ของคุณ

ประสบการณ์แรกของนักท่องเที่ยวกับโรงแรมของคุณมักเริ่มจากการเยี่ยมชมเว็บไซต์ จากนั้นจะเข้าดูรูปภาพและรีวิว พร้อมกับอัตราค่าห้องพักและเนื้อหาอื่นๆ ที่คุณแสดงอย่างโดดเด่น การใช้การโฆษณาออนไลน์ สื่อสังคมออนไลน์ บล็อก และโปรโมชันอย่างมีประสิทธิภาพจึงสำคัญมากในการโน้มน้าวและอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า

ระบบภายใน

ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยให้การสื่อสารเร็วขึ้น ง่ายขึ้น และครอบคลุมมากขึ้น ทำให้เครือโรงแรมสามารถจัดการที่พักในหลายๆ สถานที่ได้ง่ายขึ้น ยังช่วยให้พนักงานทำงานประสานกัน และเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดยรวมคำขอของแขก ข้อมูลแม่บ้าน และการจองไว้ในที่เดียวกัน เมื่อระบบเบื้องหลังทำงานได้ดี คุณก็มีเวลามากขึ้นในการพัฒนาส่วนหน้าที่แขกมองเห็น

ฟังก์ชันการใช้งานบนมือถือ

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจำนวนมากค้นหาและจัดการการเดินทางผ่านอุปกรณ์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะขนาดใหญ่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมอีกต่อไป โรงแรมจึงต้องตอบสนองความต้องการนี้บนเว็บไซต์ของตน นอกจากนี้ ระบบ IT ยังช่วยให้ผู้ประกอบการโรงแรมสามารถจัดการที่พักผ่านอุปกรณ์มือถือได้อีกด้วย

ผลกระทบที่สำคัญที่สุดของเทคโนโลยีสารสนเทศคือความเร็วและความแม่นยำ การเร่งความเร็วในการจัดการโรงแรมและบริการจุดขายช่วยลดต้นทุนแรงงานและสร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นให้กับลูกค้า

บทบาทของ IT ในอุตสาหกรรมโรงแรมคืออะไร?

IT มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและรักษาความสามารถในการแข่งขันภายในอุตสาหกรรม เนื่องจากความสำเร็จส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับความสามารถในการเข้าถึงและวิเคราะห์ข้อมูลล่าสุด และนำไปใช้ ระบบ IT จึงเป็นตัวแปรสำคัญ

IT ช่วยตอบสนองความต้องการข้อมูลที่ทันสมัยและแม่นยำของทั้งลูกค้าและผู้จัดการโรงแรม เป็นตัวช่วยที่สำคัญมาก ดังจะเห็นได้จากแนวโน้มของอุตสาหกรรมที่ใช้ระบบ IT ที่ทำงานร่วมกันเพื่อช่วยผู้จัดการให้บริการที่มีคุณภาพแก่ลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และควบคุมต้นทุน

หากโรงแรมไม่สามารถใช้ระบบ IT ที่เหมาะสมได้ จะมีปัญหาในการจัดการและใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีอยู่ การลงทุนด้าน IT จึงกลายเป็นส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้ในกลยุทธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวและการโรงแรม

ด้านที่ IT ส่งผลกระทบต่อวงการโรงแรม:

  • ระบบการจอง
  • การสื่อสารผ่านมือถือ
  • เทคโนโลยีในห้องพัก
  • การจัดการองค์กร
  • การประสานงาน
  • ระบบการจองห้องพัก

สถิติเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่า IT มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมมากเพียงใด

  1. สองในสามของแขกต้องการเช็คอินผ่านสมาร์ทโฟน
    แขกต้องการให้การเช็คอินสะดวกที่สุด โดยเฉพาะหลังการเดินทางไกลหรือจากต่างประเทศ พวกเขาไม่อยากรอนานเพื่อเข้าห้องพัก การเช็คอินผ่านมือถือยังช่วยลดความแออัดในล็อบบี้โรงแรม
  2. มากกว่าครึ่งของโรงแรมวางแผนเพิ่มการลงทุนด้าน IT
    คู่แข่งจำนวนมากกำลังลงทุนอย่างชาญฉลาดในเทคโนโลยี ซึ่งหมายความว่าคุณไม่ควรละเลยการพัฒนาด้านนี้ เพราะแขกมีความคาดหวังสูงในเรื่องนวัตกรรมและบริการที่ทันสมัย การไม่ก้าวตามอาจทำให้คุณเสียเปรียบในการแข่งขันและไม่สามารถตอบสนองความต้องการของแขกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. สามในสี่ของแขกต้องการข้อเสนอส่วนตัวหรือโปรแกรมสมาชิก
    ระบบ IT ช่วยสร้างโปรไฟล์แขก บันทึกความชอบ และทำข้อเสนอเฉพาะบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณสามารถจดบันทึกคำขอพิเศษ รายการสั่งอาหารในห้องพัก และข้อมูลอื่นๆ เมื่อแขกกลับมาพักอีกครั้ง คุณสามารถสร้างความประทับใจด้วยการบริการที่ใส่ใจ เช่น จัดเตรียมสิ่งที่แขกชอบไว้ในห้องล่วงหน้า หรือเสนอโปรโมชันที่ตรงใจ ทำให้แขกรู้สึกพิเศษและอยากกลับมาพักซ้ำ
  4. มากกว่าครึ่งของโรงแรมทั้งหมดใช้งานบนคลาวด์
    แนวโน้มนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นการปรับเปลี่ยนวิธีการเก่าอย่างการใช้สมุดบันทึกและสเปรดชีต การใช้ระบบอย่าง Channel Manager กำลังกลายเป็นมาตรฐานการดำเนินงาน รงแรมที่ยังไม่ได้ปรับตัวอาจพบว่าตนเองกำลังล้าหลังและเสียเปรียบในการแข่งขัน
  5. ครึ่งหนึ่งของนักเดินทางเพื่อธุรกิจใช้ Wi-Fi ฟรีเป็นปัจจัยในการตัดสินใจจอง
    Wi-Fi ฟรีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักธุรกิจ หากไม่มีบริการนี้ถือว่าเป็นข้อบกพร่องที่ยอมรับไม่ได้ แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากไม่มีให้ อาจสร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับแขก ปัญหานี้แก้ไขได้ง่าย แต่หากละเลย อาจส่งผลกระทบต่อรีวิวออนไลน์และชื่อเสียงของโรงแรมคุณได้

โรงแรมของคุณควรนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้เมื่อไหร่และอย่างไร?

การรู้ว่าเทคโนโลยีใดคุ้มค่าแก่การลงทุน และอะไรเป็นเพียงกิมมิคที่สิ้นเปลืองงบประมาณของโรงแรม เป็นเรื่องสำคัญมาก

เทคโนโลยีนั้นจะช่วยดึงดูดแขกและเพิ่มยอดจองได้หรือไม่? หรือราคาห้องพักที่สูงขึ้นจะทำให้อุปกรณ์ไฮเทคเหล่านั้นไม่น่าสนใจ?

บางโรงแรมทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อมอบความสะดวกสบายสูงสุดให้แขก โดยหวังว่าประสบการณ์ระดับ ‘ห้าดาว’ จะช่วยโน้มน้าวนักท่องเที่ยวให้จอง ในขณะที่บางแห่งมีความระมัดระวังมากกว่า โดยเลือกใช้ระบบเทคโนโลยีที่พิสูจน์แล้วและวัดผลได้ชัดเจน ท้ายที่สุด หากคุณไม่มีกลยุทธ์การกระจายห้องพักที่ดีพอให้นักท่องเที่ยวค้นพบโรงแรมของคุณ การมีหุ่นยนต์ในโรงแรมจะมีประโยชน์อะไร?

เรามาดูตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีที่น่าประทับใจในโรงแรมปัจจุบัน และพิจารณาคุณค่าของแต่ละอย่างกัน ก่อนจะดูเทคโนโลยีที่รับประกันการเพิ่มรายได้

เทคโนโลยีโรงแรมที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก

การเปิดประตูแบบไร้กุญแจ

เทคโนโลยีนี้ช่วยให้พนักงานโรงแรมใช้ NFC, RFID หรือบลูทูธจับคู่โทรศัพท์ของแขกกับล็อคประตูอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ไม่ต้องใช้กุญแจแบบเดิม

แม้จะสะดวก แต่ก็มีราคาแพงและยังไม่เป็นมาตรฐานในอุตสาหกรรม อีกทั้งยังมีข้อเสียบางประการ เช่น หากแขกลืมที่ชาร์จโทรศัพท์และแบตเตอรี่หมด จะทำอย่างไร? หรือถ้าเดินทางมาเป็นกลุ่ม จะส่งกุญแจไปยังโทรศัพท์ทุกเครื่องหรือไม่?

ท้ายที่สุด เทคโนโลยีนี้อาจไม่ใช่แรงจูงใจสำคัญให้แขกจองห้องพัก อย่างน้อยก็ในตอนนี้ เมื่อคำนึงถึงต้นทุนที่สูงขึ้นสำหรับผู้ประกอบการโรงแรม

หุ่นยนต์

มีตัวอย่างมากมายของหุ่นยนต์ในโรงแรมที่สามารถต้อนรับและเช็คอินแขก จัดการกระเป๋าเดินทาง ให้ข้อมูล และทำหน้าที่ Concierge ได้

ข้อดีของหุ่นยนต์คือเป็นสิ่งแปลกใหม่และอาจเป็นแรงผลักดันให้เกิดการจอง อีกทั้งไม่ต้องจ่ายค่าแรง ทำให้โรงแรมสามารถนำเงินไปใช้ในการยกระดับประสบการณ์ของแขกได้มากขึ้น ข้อเสียคือหากเกิดปัญหา อาจต้องใช้เวลาและเงินมากในการแก้ไข และสร้างความไม่สะดวกให้แขกที่ต้องรอคนจริงๆ มาช่วย นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่จะทำให้แขกบางคนรู้สึกแปลกแยก เพราะนักท่องเที่ยวจำนวนมากยังต้องการการบริการจากพนักงานที่เป็นคนจริงๆ

ประสิทธิภาพและการใช้งานของหุ่นยนต์จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลา ด้วยความก้าวหน้าของปัญญาประดิษฐ์ โรงแรมควรพิจารณาลงทุนในเทคโนโลยีนี้อย่างจริงจัง แต่ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ควรระมัดระวังในการนำมาใช้

การระบุตำแหน่ง

โรงแรมบางแห่งใช้แอปพลิเคชันระบุตำแหน่งเพื่อติดตามแขกในทุกส่วนของโรงแรม เช่น หากแขกอยู่ใกล้ฟิตเนส อาจได้รับข้อความเสนอบริการพิเศษหรือส่วนลด หรือถ้ากำลังพักผ่อนใกล้บาร์ริมสระว่ายน้ำ ก็จะได้รับข้อเสนอที่เกี่ยวข้อง

แม้จะดูเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดและทันสมัย แต่แขกอาจรู้สึกว่าเป็นการรุกล้ำความเป็นส่วนตัวและน่ารำคาญ นอกจากนี้ การสร้างและดูแลแอปเหล่านี้มีราคาแพงและไม่ได้เพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจมากนัก จึงไม่น่าจะเป็นแรงจูงใจสำคัญในการจอง

เทคโนโลยีในห้องพัก ต่อไปนี้คือ 5 ตัวอย่างของเทคโนโลยีในห้องพักที่แขกจะชื่นชอบ:

1. อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสำหรับแขกของโรงแรม
หลายคนอาจคิดว่านี่เป็นเรื่องพื้นฐาน แต่ความจริงคือโรงแรมบางแห่งยังไม่ให้บริการตามที่แขกต้องการ แขกใช้เวลาในห้องพักมากเพื่อค้นหาร้านอาหาร การแสดง สถานที่ท่องเที่ยว และทำการจองต่างๆ หากอินเทอร์เน็ตช้า พวกเขาจะหงุดหงิดและโรงแรมจะต้องรับมือกับข้อร้องเรียนมากมาย แขกคาดหวังความเร็วที่ใกล้เคียงกับที่ใช้ที่บ้าน

สิ่งสำคัญคือต้องให้บริการ Wi-Fi ฟรี การคิดค่าบริการอินเทอร์เน็ตมักเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวเลือกโรงแรมหนึ่งมากกว่าอีกแห่ง
2. คำนึงถึงอุปกรณ์เทคโนโลยีเพื่อยกระดับประสบการณ์ในห้องพัก
นอกจากอินเทอร์เน็ตเร็วแล้ว การมีจุดชาร์จอุปกรณ์ที่เพียงพอก็สำคัญไม่แพ้กัน แขกต้องการจุดชาร์จสำหรับอุปกรณ์หลายเครื่อง พื้นที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ และแท่นวางโทรศัพท์หรือเครื่องเล่นเพลงเพื่อความบันเทิงส่วนตัว

จุดชาร์จ โต๊ะขนาดเล็ก และแท่นวางอุปกรณ์ เป็นสิ่งที่ติดตั้งง่ายและแขกจะรู้สึกประทับใจมาก
3. Netflix และ YouTube สำหรับความบันเทิงของแขก
ความสามารถในการเชื่อมต่อและส่งภาพจากอุปกรณ์ต่างๆ เช่น มือถือ แล็ปท็อป และแท็บเล็ต ไปยังจอขนาดใหญ่ในห้องพักเป็นสิ่งสำคัญ โรงแรมควรรองรับการใช้งานแอปพลิเคชันยอดนิยม เช่น Netflix, YouTube, Spotify หรือแม้แต่การท่องเว็บผ่านเบราว์เซอร์บนหน้าจอใหญ่

แขกอาจต้องการใช้ฟีเจอร์นี้เพื่อความบันเทิงหรือเพื่อทำงานผ่านทีวีดังนั้นควรจัดเตรียมไว้ให้พร้อม
4. เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อความสะดวกสบายและความหรูหรา
ในส่วนนี้ โรงแรมสามารถลงทุนในเทคโนโลยีที่ซับซ้อนขึ้นได้ เทคโนโลยีอัจฉริยะที่เหมาะสมจะมอบความสะดวกสบายและความรู้สึกหรูหราให้แขก

เทอร์โมสตัทอัจฉริยะช่วยให้แขกใช้แอปปรับอุณหภูมิห้องได้ สามารถควบคุมไฟอัจฉริยะ หรี่หรือเพิ่มแสงสว่างจากโทรศัพท์ได้ รวมถึงปรับตำแหน่งเตียงหรือเปิดปิดม่านได้อีกด้วย

กุญแจประตูบนมือถือเป็นเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาให้สมบูรณ์แบบ เมื่อใช้ร่วมกับการเช็คอินผ่านมือถือ จะช่วยให้การเข้าพักของแขกสะดวกยิ่งขึ้น
5. บริการส่งข้อความสำหรับ concierge และบริการต่างๆของโรงแรม
การให้แขกใช้การส่งข้อความหรือแอปแชทสื่อสารกับโรงแรม เป็นการตอบสนองความต้องการการดูแลเอาใจใส่ คาดว่าภายในปี 2021 จำนวนผู้ใช้แอปส่งข้อความเพื่อสื่อสารจะเพิ่มขึ้นถึง 2.5 พันล้านคน

เพียงปลายนิ้ว แขกสามารถขอข้อมูลจาก concierge สั่งรูมเซอร์วิส จองสิ่งอำนวยความสะดวก แสดงความคิดเห็น หรือแจ้งปัญหากับพนักงานได้ โดยไม่ต้องออกจากห้องหรือรอสายโทรศัพท์

โรงแรมหลายแห่งติดตั้งแท็บเล็ตหรือ iPad ในห้องพักให้แขกปรับอุณหภูมิ สั่งรูมเซอร์วิส ขอบริการแม่บ้าน ปรับไฟ ควบคุมทีวี และอื่นๆ

นี่อาจเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการจองมากที่สุดเมื่อพูดถึงเทคโนโลยีที่แขกควบคุมเองในโรงแรม ทั้งหมดนี้มีราคาไม่แพงมากและให้ความสะดวกที่แขกชื่นชอบระหว่างการเข้าพัก

เทคโนโลยีสำหรับพนักงานโรงแรม

การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานส่งผลดีต่อธุรกิจโดยรวม ช่วยประหยัดทั้งเวลาและเงิน รวมถึงอาจเพิ่มโอกาสการจองซ้ำ การใช้อุปกรณ์พกพา เช่น iPod Touch ช่วยให้พนักงานตอบสนองความต้องการของแขกและโรงแรมได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

แม้จะมีราคาไม่แพงมากนัก แต่เทคโนโลยีนี้สามารถส่งผลดีต่อผลกำไรของโรงแรมในระยะยาว โรงแรมทุกแห่งจึงควรพิจารณานำมาใช้

เทคโนโลยีเป็นกิมมิค

เทคโนโลยีบางอย่างอาจดูทันสมัยเกินไปจนกลายเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย ตัวอย่างเช่น:

  • รถรับส่งหรู: แม้แขกบางคนอาจยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อนั่งรถ Tesla ไปสนามบิน แต่ส่วนใหญ่ไม่สนใจ ค่าใช้จ่ายและการบำรุงรักษารถราคาแพงไม่ช่วยเพิ่มผลกำไรให้โรงแรม
  • ทีวีในห้องน้ำ: การติดตั้งยุ่งยาก และการซ่อนจอแบนหลังกระจกดูไม่สะดวกในการใช้งาน
  • ปุ่มอัจฉริยะ: เช่น ปุ่มเปลี่ยนกระจกห้องอาบน้ำจากใสเป็นฝ้า ดูเหมือนไม่จำเป็นและอาจทำให้ราคาห้องแพงขึ้นโดยไม่จำเป็น
  • เซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อน: ใช้แจ้งเตือนพนักงานว่าห้องว่างหรือไม่ แต่ป้าย “ห้ามรบกวน” และการเคาะประตูก็ยังใช้ได้ดี โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงงบประมาณ

โรงแรมควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่าปัญหาใดที่ต้องแก้ไขและต้องการผลลัพธ์อะไรจากการลงทุนด้านเทคโนโลยี

เป้าหมายเฉพาะของแต่ละโรงแรมจะเป็นตัวกำหนดการตัดสินใจ แต่โดยทั่วไป ควรพิจารณาประเด็นสำคัญต่อไปนี้…
1. เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้โรงแรมเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกได้หรือไม่?
แขกจะจองห้องพักไม่ได้หากไม่พบโรงแรมของคุณ ดังนั้น สิ่งแรกที่ควรถามผู้ให้บริการเทคโนโลยีคือ พวกเขาสามารถทำให้โรงแรมของคุณถูกเข้าถึงได้ในระดับโลกหรือไม่

โดยทั่วไป วิธีหลักในการเพิ่มการรับรู้มีสองวิธี คือการเชื่อมต่อกับ OTA (Online Travel Agencies) และ GDS (Global Distribution Systems)
2. เทคโนโลยีนี้จะช่วยลดต้นทุนการได้มาซึ่งลูกค้าได้หรือไม่?
เทคโนโลยีที่คุณลงทุนควรช่วยประหยัดเวลาอย่างแน่นอน ทั้งลดเวลาการป้อนข้อมูลแบบแมนวลและลดการทำงานซ้ำซ้อน

สิ่งสำคัญคือ ผู้ให้บริการเทคโนโลยีของคุณควรสามารถเชื่อมต่อกับระบบเทคโนโลยีโรงแรมชั้นนำได้อย่างราบรื่น เช่น ระบบสำรองห้องพักส่วนกลาง (CRS) ระบบจัดการโรงแรม (PMS) และระบบบริหารรายได้ (RMS)
3. เทคโนโลยีจะช่วยเพิ่มรายได้ให้โรงแรมได้หรือไม่?
OTA ช่วยเพิ่มอัตราการเข้าพักและรายได้ของคุณ แต่คุณต้องมี Channel Manager ที่ใช้ระบบ Pooled Inventory แทน Allocated Inventory

Pooled Inventory ช่วยให้ทุกช่องทาง รวมถึงเว็บไซต์ของคุณเอง เข้าถึงห้องพักทั้งหมดพร้อมกัน เมื่อมีการจอง จำนวนห้องว่างจะลดลงอัตโนมัติในทุกช่องทาง

Allocated Inventory จะกำหนดจำนวนห้องให้แต่ละช่องทาง เมื่อจองหมด จะไม่สามารถดึงห้องเพิ่มได้ และจำนวนห้องว่างจะไม่อัปเดตในช่องทางอื่น ทำให้เสี่ยงต่อการจองเกิน
4. เทคโนโลยีจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรได้หรือไม่?
วิธีหนึ่งในการเพิ่มกำไรคือการส่งเสริมการจองผ่านเว็บไซต์โรงแรมโดยตรง เพื่อลดค่าคอมมิชชันจาก OTA หรือช่องทางอื่น

เว็บไซต์ของคุณควรได้รับการปรับแต่ง SEO มีการออกแบบที่ดึงดูด โหลดเร็ว รองรับมือถือและโซเชียลมีเดีย และมีระบบจองที่ใช้งานง่าย

ระบบจองควรปรับแต่งให้เข้ากับแบรนด์โรงแรมและเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ เช่น PMS การจองโดยตรงไม่เพียงเพิ่มกำไร แต่ยังอาจส่งเสริมการจองซ้ำ เพราะลูกค้าคุ้นเคยกับแบรนด์ของคุณ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ระบบจองต้องใช้งานง่ายและจองได้ในไม่กี่คลิก

เทคโนโลยีโรงแรมที่ดีที่สุดคืออะไร?

การบอกว่าเทคโนโลยีโรงแรมแบบไหนดีที่สุดนั้นไม่ง่าย เพราะแต่ละโรงแรมมีความต้องการไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะธุรกิจ แต่มีระบบและเครื่องมือสำคัญหลายอย่างที่โรงแรมควรใช้ การเลือกว่าจะใช้ของเจ้าไหนนั้น ต้องศึกษาและเปรียบเทียบให้ดี

แต่สิ่งหนึ่งที่พูดได้คือ เทคโนโลยีโรงแรมแบบครบวงจร ที่รวมทุกฟังก์ชันที่ต้องการไว้ในที่เดียว เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

วิธีนี้ช่วยให้บริหารโรงแรมง่ายขึ้น แต่ก็ยังมีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้ควบคุมได้ดีและเห็นภาพรวมชัดเจนขึ้น

ฟังก์ชันบางอย่างของแพลตฟอร์มแบบครบวงจรอาจรวมถึง:

ระบบจัดการช่องทางขาย (Channel Management)

ปัญหาหลักที่โรงแรมเจอเมื่อไม่มีเทคโนโลยีการกระจายห้องพัก เช่น Channel Manager คือการจองเกิน

หากโรงแรมมีอัตราการเข้าพักสูงและได้รับข้อมูลการจองจำนวนมาก การป้อนข้อมูลด้วยมืออาจทำไม่ทันก่อนที่ลูกค้าอีกรายจะจองห้องเดียวกัน

การใช้ Channel Manager ที่เชื่อมต่อกับระบบจัดการโรงแรม (PMS) จะบันทึกการจองและอัปเดตห้องว่างโดยอัตโนมัติ ทำให้พนักงานโรงแรมไม่ต้องกังวลหรือเสียเวลากับการจัดการด้วยตนเอง

เครื่องมือ Channel Management ยังช่วยให้ผู้จัดการโรงแรมเห็นภาพรวมการจองทั้งหมดในที่เดียวได้ง่าย ช่วยให้โรงแรมเพิ่มช่องทางขายออนไลน์ได้มากขึ้น เช่น OTA อย่าง Agoda แทนที่จะมีเพียง 5 ช่องทาง อาจเพิ่มเป็น 15-20 ช่องทางได้

Channel Manager ที่ดีใช้ระบบ Pooled Inventory และช่วยจัดการ OTA ที่เชื่อมต่อได้อัตโนมัติ สามารถอัปเดตห้องว่าง ราคา และจำนวนห้องแบบทันที ช่วยลดความเสี่ยงการจองเกิน ประหยัดเวลาในการจัดการและบันทึกข้อมูลด้วยตนเอง

เทคโนโลยีระบบการจอง

เมื่อโรงแรมขายห้องผ่าน OTA แต่ละการจองจะมีค่าคอมมิชชันให้กับช่องทางนั้นๆ

แม้จะดูยุติธรรม แต่ค่าคอมฯ อาจสูงถึง 15% ซึ่งกระทบกำไรของโรงแรมอย่างมาก จึงไม่แปลกที่โรงแรมต้องการให้ลูกค้าจองผ่านเว็บไซต์ตัวเองให้มากที่สุด สิ่งที่จำเป็นคือระบบจองที่เชื่อถือได้ ใช้งานง่าย และเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ ได้

ระบบจองออนไลน์ที่ใช้งานง่ายและรวดเร็วเพียงสองขั้นตอน จะช่วยเพิ่มยอดจองผ่านเว็บไซต์โรงแรมและ Google Hotel Ads ได้อย่างมาก อีกทั้งยังช่วยประหยัดเวลาทำงานของพนักงานด้วย

นอกจากนี้ยังช่วยให้โรงแรมบริหารราคาได้ดีขึ้น ด้วยระบบจองสมัยใหม่ โรงแรมสามารถจัดโปรโมชัน สร้างแพ็คเกจ ปรับราคานาทีสุดท้าย และใช้เทคนิคกระตุ้นการตัดสินใจเพื่อดึงดูดลูกค้าเพิ่มเติม

ระบบจองที่ดีที่สุดต้องให้ประสบการณ์ออนไลน์ที่ราบรื่น จองได้ภายในไม่กี่วินาทีหรือคลิกเดียว ไม่ว่าจะจองจากที่ไหนในโลก

ระบบจองควรเชื่อมต่อกับเว็บไซต์และแบรนด์ของคุณ รวมถึงระบบอื่นๆ เช่น Channel Manager, PMS, CRS และระบบชำระเงิน เพื่อความสะดวกทั้งคุณและแขก

ระบบจองที่ดีไม่เพียงช่วยประหยัดค่าคอมฯ แต่ยังช่วยดูแลลูกค้าตลอดทริป ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังเข้าพัก คุณสามารถส่งอีเมลแจ้งเตือน เสนอบริการเสริมและโปรโมชัน รวมถึงเชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดียและมือถือได้

เทคโนโลยีเว็บไซต์สำหรับโรงแรม

โรงแรมทุกแห่งจำเป็นต้องมีเว็บไซต์ที่สวยงาม ใช้งานง่าย และปรับให้เหมาะกับมือถือและ SEO เพื่อให้แขกสามารถค้นหาเว็บไซต์ของคุณได้ง่าย และอยู่ในเว็บไซต์นานพอที่จะทำการจองห้องพัก แทนที่จะไปมองหาโรงแรมอื่น หากเว็บไซต์ของคุณออกแบบไม่ดี โหลดช้า และไม่รองรับทุกอุปกรณ์ ผู้ใช้จะรีบออกไปหาเว็บอื่นทันที อย่างไรก็ตาม การจ้างนักออกแบบหรือสร้างเว็บไซต์เองนั้นใช้เวลาและค่าใช้จ่ายสูง ไม่เพียงแค่ตอนเริ่มต้น แต่ทุกครั้งที่ต้องอัปเดตด้วย

นี่คือเหตุผลที่คุณต้องใช้เทคโนโลยีอย่างโปรแกรมสร้างและแก้ไขเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย ซึ่งจะช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์โรงแรมได้ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง และอัปเดตได้ทันทีตามต้องการ

ประโยชน์ของการใช้โปรแกรมสร้างเว็บไซต์มีมากมาย เช่น ธีมและเทมเพลตที่ปรับแต่งได้ จัดการ SEO ให้โดยอัตโนมัติ ปรับให้เหมาะกับมือถือ เชื่อมต่อกับระบบจองห้องพักออนไลน์ได้อย่างราบรื่น ใช้เป็นระบบจัดการคอนเทนต์ (CMS) สำหรับบทความบนหน้าเว็บและรูปภาพ และรองรับหลายภาษา

เทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจ

ระบบวิเคราะห์ราคาแบบเรียลไทม์จะช่วยให้คุณติดตามและวิเคราะห์คู่แข่งได้ ทำให้คุณตัดสินใจเรื่องราคาห้องพักได้อย่างชาญฉลาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารรายได้ของโรงแรม การบริหารรายได้ของโรงแรมนั้นซับซ้อน โดยเฉพาะในตลาดที่มีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากจำนวนโรงแรมและช่องทางการจองที่เพิ่มขึ้น การเข้าถึงข้อมูลการบริหารรายได้แบบเรียลไทม์จึงมีค่ามหาศาลสำหรับกลยุทธ์การตั้งราคาห้องพักของคุณ

ด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม คุณจะสามารถติดตามคู่แข่งได้ และที่สำคัญกว่านั้น คือการเข้าถึงกฎและการแจ้งเตือนต่างๆ เพื่อให้คุณไม่พลาดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในตลาดการท่องเที่ยวและโรงแรม นอกจากนี้ คุณยังสามารถดึงรายงานและคาดการณ์ความต้องการเพื่อตัดสินใจเรื่องกลยุทธ์ราคาห้องพักได้อย่างดีที่สุด

ด้วยเครื่องมือที่ยืดหยุ่นและฉลาด คุณจะสามารถมองเห็นราคาในตลาดและบรรลุเป้าหมายรายได้ของโรงแรมคุณได้ โดยใช้ซอฟต์แวร์บริหารรายได้ที่มีราคาย่อมเยา

เทคโนโลยีการกระจายข้อมูลทั่วโลก

การเชื่อมต่อกับระบบการกระจายข้อมูลทั่วโลก (GDS) จะทำให้โรงแรมของคุณปรากฏบน ‘แผนที่’ การจองที่หลากหลายและกว้างขวางมากขึ้น เพิ่มโอกาสให้โรงแรมของคุณถูกค้นพบโดยผู้คนจำนวนมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ GDS ช่วยให้คุณเข้าถึงตลาดเสมือน (virtual marketplace) เพื่อนำเสนอบริการของคุณแก่ Travel Agent นับแสนรายทั่วโลก

GDS เปิดโอกาสให้คุณเสนอแพ็กเกจร่วมกับสายการบินและบริการเช่ารถ เพื่อจูงใจตัวแทนให้โฆษณาโรงแรมของคุณและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้จองกับคุณมากขึ้น

นอกจากนี้ GDS ยังสามารถอัปเดตแบบเรียลไทม์และทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่น่าเชื่อถือ ช่วยประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากให้คุณ

เมื่อใช้ GDS คุณต้องแน่ใจว่าได้รับความคุ้มค่า คำถามสำคัญที่ควรพิจารณา ได้แก่ คุณได้เข้าถึงเครือข่ายที่ใหญ่เพียงพอหรือไม่? GDS สามารถเชื่อมต่อกับระบบโรงแรมทั่วไปอื่นๆ ได้หรือไม่? มีค่าคอมมิชชั่นหรือไม่ และข้อตกลงในสัญญาเป็นอย่างไร?

การทำการตลาดอัตโนมัติ

แพลตฟอร์มการตลาดอัตโนมัติช่วยทำให้กระบวนการจากลูกค้าที่สนใจจนถึงการขายเป็นไปโดยอัตโนมัติ สำหรับผู้ประกอบการโรงแรม นี่หมายถึงการสื่อสารแบบ 1:1 กับแขกที่อาจเข้าพักเพื่อให้ข้อมูล สร้างความสนใจ และทำการจอง เมื่อเชื่อมต่อกับระบบ CRM ของคุณ ฝ่ายขายและการตลาดจะทำงานสอดคล้องกัน ด้วยการอนุญาตให้คุณสร้างแคมเปญ อีเมลการตลาด และหน้าแลนดิ้งเพจทั้งหมดในที่เดียว พร้อมเนื้อหาที่เกี่ยวข้องและเป็นส่วนตัวผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ซอฟต์แวร์การตลาดอัตโนมัติจึงเป็นตัวเชื่อมที่ขาดหายไปในกลยุทธ์การตลาดทางอีเมลของคุณ

ประโยชน์หลักของการใช้แพลตฟอร์มการตลาดอัตโนมัติ ได้แก่:

  • ความสามารถในการสร้างและทดลองใช้อีเมลและหน้าแลนดิ้งเพจต่างๆ เพื่อปรับปรุง CTA และการสร้างลูกค้าที่สนใจ
  • ความสามารถในการดูแลลูกค้าที่สนใจ (แขก) โดยการทำแคมเปญอัตโนมัติเพื่อดูแลลูกค้าด้วยการสื่อสารหลายช่องทางเพื่อเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนเป็นลูกค้า
  • โมเดลการให้คะแนนลูกค้าที่สนใจ ซึ่งช่วยให้คุณจับคู่บริการของโรงแรมกับเกณฑ์เฉพาะของแขกและลูกค้าที่คาดหวัง ซึ่งจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของแขกมากขึ้น เพื่อสร้างการสื่อสารและโปรโมชั่นที่ตรงเป้าหมายมากขึ้น
  • รายงานละเอียดที่แสดงประสิทธิภาพของอีเมล อัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้า และผลตอบแทนการลงทุน (ROI) แยกตามแคมเปญ

การติดตามและรายงานของแพลตฟอร์มการตลาดอัตโนมัติเป็นทรัพยากรที่มีค่ามหาศาลในการช่วยปรับแต่งประสิทธิภาพของอีเมลและแคมเปญการดูแลลูกค้า เพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้าและการจอง รวมถึงปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจโดยรวมของคุณ

นอกเหนือจากนี้ คุณควรให้ความสนใจกับ:

  • แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
  • เครื่องมือสำหรับอีเมล
  • แอพที่มุ่งเน้นข้อเสนอโปรโมชั่น
  • ระบบเพื่อปรับปรุงการสื่อสารกับลูกค้า

ทั้งหมดนี้ควรทำก่อนที่คุณจะคิดถึงการซื้อระบบล็อคประตูไร้กุญแจแบบหรูหราหรือติดตั้งสมาร์ททีวีในห้องพัก จัดการพื้นฐานให้ถูกต้องก่อน แล้วจึงประเมินงบประมาณเพื่อมอบประสบการณ์การเข้าพักที่แขกต้องการจริงๆ ความคิดเห็นของแขกมีความสำคัญมาก – ฟังสิ่งที่แขกของคุณบอก หากคุณไม่เคยได้รับข้อร้องเรียนเกี่ยวกับห้องน้ำ บางทีคุณอาจไม่จำเป็นต้องใช้เงินกับพื้นที่มีระบบทำความร้อน แต่คุณอาจปรับปรุงระบบความบันเทิงที่แขกบางคนบอกว่าดูล้าสมัยไปหน่อย

 

Thanks for sharing

Sign up to our blog and receive regular updates on the content you're into

Send this to a friend