Skip to main content

Average Length of Stay (ALOS) formula and how to calculate it

  โพสต์ใน แหล่งข้อมูล   ปรับปรุงล่าสุด 6/11/2024

ALOS คืออะไร?

ALOS (Average Length of Stay) คือจำนวนคืนเฉลี่ยที่แขกเข้าพักในโรงแรมของคุณในช่วงเวลาหนึ่ง

ตัวอย่างเช่น ถ้า ALOS ของคุณในไตรมาส 3 อยู่ที่ 4.5 หมายความว่าในช่วงนั้น แต่ละการจองมีการเข้าพักเฉลี่ย 4.5 วัน

ALOS มักเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งปี ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและรูปแบบการท่องเที่ยวในแต่ละช่วง

นอกจากนี้ยังแตกต่างกันตามประเภทของที่พัก ทำเลที่ตั้ง และกลุ่มเป้าหมาย รีสอร์ตที่มีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวเชิงพักผ่อนมักมี ALOS สูงกว่า ในขณะที่โรงแรมในเมืองที่เน้นกลุ่มนักธุรกิจมักมีจำนวนวันเข้าพักที่สั้นกว่า

บทความนี้จะบอกทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ ALOS และวิธีใช้ข้อมูลนี้เพื่อทำให้ผลประกอบการของโรงแรมคุณดีขึ้น

สารบัญ

ALOS ในอุตสาหกรรมโรงแรมเป็นอย่างไร?

ALOS เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ผู้ประกอบการโรงแรมทั่วโลกใช้วัดประสิทธิภาพและสุขภาพของธุรกิจ ALOS ที่สูงมักบ่งชี้ว่าแขกเลือกพักนานขึ้น ซึ่งหมายถึงรายได้ค่าห้องที่เพิ่มขึ้นและอาจรวมถึงความพึงพอใจของแขกที่สูงขึ้นด้วย สมการง่ายๆ คือ ยิ่งพักนาน รายได้ยิ่งเพิ่ม

อย่างไรก็ตาม แม้ ALOS สูงจะดูน่าสนใจ แต่ต้องพิจารณาตัวชี้วัดนี้อย่างรอบคอบ ไม่มี “ตัวเลขในฝัน” ที่เหมาะกับทุกโรงแรม ปัจจัยต่างๆ เช่น ระดับของโรงแรม (หรูหราหรือประหยัด) ทำเลที่ตั้ง ช่วงไฮซีซั่นและโลว์ซีซั่น และกลุ่มเป้าหมาย ล้วนส่งผลต่อจำนวนวันเข้าพักที่เหมาะสมของแต่ละโรงแรม

ยกตัวอย่างข้อมูลจากอุตสาหกรรม: Hotel Tech Report รายงานว่าจำนวนคืนเฉลี่ยต่อการเข้าพักของโรงแรมทั่วไปในสหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณ 1.8 คืน และจากข้อมูล Statista แสดงตัวเลขใกล้เคียงสำหรับโรงแรมในนิวซีแลนด์ที่ 1.7 คืน เมื่อวิเคราะห์ตัวเลขของนิวซีแลนด์ในรายละเอียด พบว่า: โมเต็ลและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์มี ALOS สูงกว่าที่ 2.1 คืน ส่วนโฮสเทลนำหน้าทั้งหมดด้วยค่าเฉลี่ย 3.15 คืน เกือบสองเท่าของโรงแรมทั่วไป!

ความแตกต่างนี้หมายความว่าโฮสเทลประสบความสำเร็จหรือทำกำไรได้มากกว่าโรงแรมทั่วไปหรือไม่? ไม่ใช่เลย โฮสเทลมีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ: นักท่องเที่ยวที่มักจะอายุน้อยกว่า ต้องการพักนานในราคาประหยัด ถ้าโรงแรมหรูพยายามปรับกลยุทธ์เพื่อให้ได้ ALOS แบบเดียวกัน อาจทำให้สูญเสียฐานลูกค้าเดิมและความน่าเชื่อถือของแบรนด์

วิธีคำนวณจำนวนวันเฉลี่ยต่อการเข้าพัก (ALOS)

การคำนวณ ALOS ทำได้ไม่ยาก ลองทำตามขั้นตอนนี้:

  • รวมจำนวนห้องพักคืนทั้งหมดที่มีการจองในช่วงเวลาที่ต้องการ (เช่น หนึ่งเดือน หนึ่งไตรมาส หรือช่วงเวลาที่คุณกำหนด)
  • รวมจำนวนการจองทั้งหมดในช่วงเวลาเดียวกัน
  • นำจำนวนห้องพักคืนหารด้วยจำนวนการจองทั้งหมด จะได้ค่า ALOS

สูตรคำนวณ ALOS

จำนวนวันเฉลี่ยต่อการเข้าพัก = จำนวนห้องพักคืนทั้งหมด / จำนวนการจองทั้งหมด

ยกตัวอย่างการคำนวณ

โรงแรม New Dawn ในไมอามี มี 30 ห้อง สามารถรับแขกได้สูงสุด 900 ห้องคืนในเดือนเมษายน ในเดือนนั้นมีการจองทั้งหมด 700 ห้องคืน จาก 350 การจอง

จำนวนวันเฉลี่ยต่อการเข้าพัก = 700 / 350 = เฉลี่ย 2 คืนต่อการจอง

ทำไมต้องวัดและดูจำนวนวันเฉลี่ยต่อการเข้าพักของโรงแรม? 

ALOS ช่วยให้เห็นรูปแบบการจองในแต่ละช่วงเทศกาลและอีเวนต์ต่างๆ ทำให้คุณสามารถวางกลยุทธ์ด้านราคาและการขายที่เหมาะสม เพื่อสร้างรายได้สูงสุดในช่วงที่มีความต้องการสูง และรักษายอดขายในช่วงโลว์ซีซั่น

และการรู้ว่า ALOS เปลี่ยนแปลงอย่างไรในแต่ละช่วงของปี ช่วยให้บริหารงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น วางแผนตารางทำความสะอาด งานซ่อมบำรุง และจัดการทีมพนักงานต้อนรับได้ดีขึ้น เพราะคุณสามารถคาดการณ์จำนวนแขกเช็คอินและเช็คเอาท์ได้

5 เคล็ดลับเพิ่มจำนวนวันเข้าพักและรายได้ของโรงแรม

อย่างที่รู้กันว่าการเข้าพักระยะยาวดีกว่าสำหรับผลกำไรของโรงแรม เพราะมีการเช็คอินและเช็คเอาท์น้อยลง ใช้เวลาทำความสะอาดห้องน้อยลง และใช้ทรัพยากรน้อยลงในการหาการจองใหม่ มาดูวิธีเพิ่มจำนวนวันเข้าพักกัน

1. กำหนดจำนวนคืนขั้นต่ำในการจอง

วิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มจำนวนวันเข้าพัก คือการกำหนดจำนวนคืนขั้นต่ำ วิธีนี้เหมาะกับช่วงไฮซีซั่น เช่น เทศกาลวันหยุด หรืองานแสดงสินค้าสำคัญ ที่แขกส่วนใหญ่พร้อมจะพักนานขึ้น

แต่ไม่ควรใช้เงื่อนไขนี้ทุกฤดูกาล เพราะอาจทำให้เสียโอกาสในการรับจองช่วงโลว์ซีซั่น

2. ดึงดูดการพักระยะยาวด้วยราคาพิเศษและแพ็กเกจ

การตั้งราคาตามจำนวนวันพักเป็นทางเลือกที่ยืดหยุ่นกว่าการกำหนดจำนวนคืนขั้นต่ำ โดยใช้วิธีคิดราคาตามวันเช็คอินและจำนวนวันพัก ทำให้แขกได้ราคาที่ดีกว่าเมื่อจองเพิ่มคืน 

หรือจะทำโปรโมชัน “จ่าย 3 พัก 4” หรือ “จ่าย 6 พัก 7” โดยเฉพาะในช่วงโลว์ซีซั่น เพราะส่วนลดจะจูงใจให้แขกอยากพักนานขึ้น

3. ดึงดูดให้แขกอยู่นานขึ้น

หากต้องการให้แขกพักนานขึ้น ต้องนำเสนอกิจกรรมและบริการที่น่าสนใจทั้งในโรงแรมและบริเวณใกล้เคียง เช่น โปรโมทสปา หรือแนะนำทริปท่องเที่ยวรอบๆ โรงแรม 

การมีตัวเลือกหลากหลายจะตอบโจทย์ความสนใจที่แตกต่างและทำให้แขกอยากอยู่ต่อ

4. ทำให้การขยายวันพักเป็นเรื่องง่าย

เมื่อแขกเข้าพักแล้ว คุณมีโอกาสชวนให้พักเพิ่ม 1-2 คืน โดยติดต่อแขกในวันก่อนเช็คเอาท์พร้อมข้อเสนอพิเศษ เช่น มื้อเย็นฟรี หรือส่วนลด 10% สำหรับการต่อวันพัก จะโทรไปที่ห้อง หรือส่งอีเมล SMS หรือข้อความโดยตรงก็ได้ 

วิธีนี้ทำให้แขกมีเวลาตัดสินใจ การส่งข้อความยังช่วยให้แนบลิงก์ให้แขกดูรายละเอียดและต่อวันพักได้ง่ายๆ ในไม่กี่คลิก ยิ่งทำให้ง่าย แขกยิ่งสนใจ

5. เจาะตลาดกลุ่มคนที่ทำงานนอกออฟฟิศด้วยข้อเสนอพิเศษ

การทำงานนอกออฟฟิศกำลังเป็นที่นิยม ลองเอาใจกลุ่มพนักงานที่ทำงานแบบยืดหยุ่น ด้วยแพ็กเกจที่มีสิ่งที่เขาต้องการ เช่น Wi-Fi ความเร็วสูง มุมทำงาน เครดิตอาหารและเครื่องดื่ม บริการซักรีด และสิทธิพิเศษอื่นๆ ทำให้โรงแรมคุณเป็นตัวเลือกแรกเมื่อเขาอยากเปลี่ยนบรรยากาศนั่งทำงาน

แค่เลือกใช้ไม่กี่เคล็ดลับก็ช่วยเพิ่มจำนวนวันเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมคุณได้ เมื่อเห็นข้อดีมากมายจากการที่แขกพักนานขึ้น การลงทุนเวลาและความพยายามนี้คุ้มค่าแน่นอน

ลองเลือกเคล็ดลับที่เหมาะกับโรงแรมของคุณ แล้วค่อยๆ นำไปใช้ทีละอย่าง เมื่อแขกเริ่มพักนานขึ้น คุณจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีต่อธุรกิจอย่างแน่นอน

โดย Dean Elphick

ดีนคือผู้เชี่ยวชาญการตลาดเนื้อหาซีเนียร์ของ SiteMinder, ผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำที่ส่งผลกำไรที่ไม่เคยมีให้แก่เจ้าของโรงแรม. ดีนมีความสนใจในการเขียนและสร้างเนื้อหามาเป็นที่รักในชีวิตอาชีพของเขาทั้งหมด, ซึ่งรวมถึงมากกว่าหกปีที่ SiteMinder. ผ่านทางเนื้อหา, ดีนมีเป้าหมายที่จะให้การศึกษา, แรงบันดาลใจ, ความช่วยเหลือ และค่าความพิเศษให้แก่ธุรกิจที่ให้บริการที่ต้องการปรับปรุงวิธีการทำงานและบรรลุเป้าหมายของพวกเขา.