ต้นทุนโรงแรมคืออะไร?
สำหรับคนทำธุรกิจโรงแรม ต้นทุนไม่ได้มีแค่ค่าก่อสร้าง ค่าประกัน แต่ยังรวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มต้น บริหาร จนถึงขยายกิจการ
ผู้จัดการโรงแรมหลายคนมองว่าต้นทุนเป็นปัญหาที่ไม่มีวันจบ ต้องคอยตรวจสอบและประเมินใหม่อยู่เรื่อยๆ เพื่อไม่ให้กำไรรั่วไหลโดยไม่จำเป็น ดังนั้น การเข้าใจต้นทุนทั้งที่มองเห็นได้ชัดและที่ซ่อนอยู่ จึงสำคัญมากสำหรับความสำเร็จในธุรกิจที่ต้องแข่งกันทำงานให้ได้มากขึ้นด้วยต้นทุนที่น้อยลง
บทความนี้จะพาคุณสำรวจต้นทุนต่างๆ ในโรงแรมที่ผู้ประกอบการทุกคนควรรู้ พร้อมแนะนำเทคนิคและวิธีการลดต้นทุนเหล่านี้ เพื่อไม่ให้มากินกำไรและเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของโรงแรมคุณ
สารบัญ
ต้นทุนในธุรกิจโรงแรมมีอะไรบ้าง
ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างยันการบริหารจัดการรายวัน แต่ละขั้นตอนในวงจรธุรกิจโรงแรมล้วนมีค่าใช้จ่ายเฉพาะตัว การแยกแยะต้นทุนเหล่านี้ช่วยให้ผู้ประกอบการตัดสินใจได้ดีขึ้น จัดสรรทรัพยากรได้คุ้มค่า และทำให้ธุรกิจอยู่รอดในระยะยาว
1. ต้นทุนการก่อสร้างโรงแรม
จุดเริ่มต้นของทุกโรงแรมคือการก่อสร้าง ต้นทุนส่วนนี้ครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่ซื้อที่ดิน ออกแบบ ขอใบอนุญาต ไปจนถึงวัสดุก่อสร้าง ค่าแรง และการตกแต่งภายใน ไม่ใช่แค่สร้างตัวอาคารขึ้นมา แต่ต้องออกแบบให้ตอบโจทย์ภาพลักษณ์แบรนด์และความต้องการของลูกค้า ปัจจัยอย่างทำเลที่ตั้ง ขนาด และระดับความหรูหราของโรงแรมล้วนส่งผลต่อต้นทุน นอกจากนี้ การเลือกใช้วัสดุรักษ์โลกหรือก่อสร้างแบบยั่งยืนอาจทำให้ลงทุนเพิ่มตอนแรก แต่ช่วยประหยัดได้ในระยะยาว
2. ต้นทุนประกันภัยโรงแรม
โรงแรมจำเป็นต้องมีประกันภัยเพื่อคุ้มครองทั้งทรัพย์สิน พนักงาน และแขกที่มาพัก โดยประกันภัยมีหลายแบบ ทั้งประกันทรัพย์สิน ประกันความรับผิด ประกันเงินทดแทนพนักงาน และประกันธุรกิจหยุดชะงัก แต่ละแบบช่วยคุ้มครองโรงแรมจากความเสี่ยงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ อุบัติเหตุของแขก หรือการหยุดชะงักทางธุรกิจที่คาดไม่ถึง เบี้ยประกันจะขึ้นอยู่กับขนาดโรงแรม ทำเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้บริการ
3. ต้นทุนการดำเนินงานโรงแรม
ต้นทุนการดำเนินงานครอบคลุมค่าใช้จ่ายหลายอย่าง ตั้งแต่เงินเดือนพนักงาน ค่าสาธารณูปโภค ค่าบำรุงรักษา ไปจนถึงค่าการตลาด สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับแขก และวัตถุดิบอาหารและเครื่องดื่ม ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นประจำเหล่านี้สำคัญต่อการดำเนินงานที่ราบรื่นและการสร้างความพึงพอใจให้แขก การจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น มาตรการประหยัดพลังงาน หรือการจับมือกับซัพพลายเออร์เชิงกลยุทธ์ สามารถส่งผลอย่างมากต่อผลกำไรของโรงแรม
ทำความเข้าใจและควบคุมต้นทุนการดำเนินงานโรงแรมอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
แม้ว่าทุกคนมักจะให้ความสำคัญกับการสร้างรายได้ แต่การเข้าใจและควบคุมต้นทุนการดำเนินงานก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะต้นทุนพวกนี้มีผลโดยตรงต่อกำไรของโรงแรม การเข้าใจค่าใช้จ่ายอย่างถ่องแท้ไม่เพียงแต่ช่วยให้การเงินมั่นคง แต่ยังช่วยชี้ให้เห็นว่าเราจะประหยัดหรือเพิ่มประสิทธิภาพตรงไหนได้บ้าง
การควบคุมต้นทุนไม่ได้หมายถึงการตัดค่าใช้จ่ายแบบลวกๆ หรือลดคุณภาพการบริการลง แต่เป็นเรื่องของการบริหารจัดการอย่างชาญฉลาด ทั้งการจัดสรรทรัพยากรให้คุ้มค่า การนำเทคโนโลยีมาช่วยทำงานอัตโนมัติ และการติดตามผลอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับเปลี่ยนตามปัจจัยภายในและภายนอก
การจับตาดูต้นทุนอย่างใกล้ชิดและเข้าใจในรายละเอียด จะช่วยให้ผู้ประกอบการสร้างสมดุลระหว่างการมอบประสบการณ์ที่ดีให้แขก และการรักษาระดับผลกำไรให้ดี ในธุรกิจที่กำไรค่อนข้างบางอย่างโรงแรม การเชี่ยวชาญด้านการควบคุมต้นทุนอาจเป็นตัวชี้ขาดว่าธุรกิจจะรุ่งหรือจะร่วง
รายการค่าใช้จ่ายที่พบบ่อยในการดำเนินงานโรงแรม
การบริหารการเงินของโรงแรมต้องเข้าใจทั้งแหล่งที่มาของรายได้และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน แม้หลายคนมักจะโฟกัสที่การเพิ่มรายได้ แต่การเข้าใจต้นทุนต่างๆ ในการบริหารโรงแรมก็สำคัญพอๆ กันสำหรับการทำกำไร มาดูรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่พบบ่อยกัน:
ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร
หนึ่งในค่าใช้จ่ายที่สูงที่สุดของโรงแรมคือค่าแรง ซึ่งรวมทั้งเงินเดือน สวัสดิการ การฝึกอบรม และค่าใช้จ่ายในการรับพนักงานใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานต้อนรับ แม่บ้าน หรือทีมผู้บริหาร การให้ค่าตอบแทนที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะรักษาคุณภาพบริการและความพึงพอใจของแขก
ค่าสาธารณูปโภค
ค่าน้ำค่าไฟของโรงแรมค่อนข้างสูง โดยเฉพาะโรงแรมขนาดใหญ่ ทั้งค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าทำความร้อน และค่าแอร์ เนื่องจากโรงแรมต้องเปิดบริการ 24 ชั่วโมง ทำให้ค่าสาธารณูปโภคสูงกว่าธุรกิจอื่นๆ โรงแรมจึงต้องหาวิธีประหยัดพลังงานอยู่เสมอ
ต้นทุนแผนกแม่บ้าน
นอกจากของใช้พื้นฐานในห้องพัก ยังมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นประจำในงานแม่บ้าน เช่น น้ำยาทำความสะอาด ผ้าปูที่นอน ของใช้ในห้องน้ำ และอื่นๆ โดยเฉพาะค่าซักรีดที่มักจะเป็นต้นทุนสูงมาก หากเป็นโรงแรมที่ต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้แขกทุกวัน
การซ่อมบำรุง
โรงแรมต้องรักษาสภาพให้ดีอยู่เสมอเพื่อความพึงพอใจของแขก นั่นหมายถึงการตรวจเช็คและซ่อมแซมทันทีเมื่อมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นก๊อกน้ำรั่วในห้องพัก หรือปัญหาโครงสร้างที่ใหญ่กว่านั้น ค่าซ่อมบำรุงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราสามารถจัดการได้ดีขึ้นด้วยการตรวจเช็คสม่ำเสมอและมีมาตรการป้องกันที่ดี
นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในห้องพักยังรวมถึงต้นทุนอื่นๆ ตั้งแต่ระบบความบันเทิงในห้อง ไปจนถึงการเติมมินิบาร์ การจับตาดูค่าใช้จ่ายแต่ละหมวดและเข้าใจผลกระทบต่องบประมาณโดยรวม จะช่วยให้ผู้ประกอบการตัดสินใจได้ดีขึ้น ทั้งในแง่การรักษาความพึงพอใจของแขกและสุขภาพทางการเงินของโรงแรม
10 วิธีลดต้นทุนและเพิ่มกำไรให้โรงแรม
หลายคนคงเคยได้ยินว่า การปรับปรุงเล็กๆ น้อยๆ หลายอย่างรวมกัน สามารถช่วยให้กลยุทธ์ใหญ่ราบรื่นและสร้างผลลัพธ์ที่ดีได้ สำหรับโรงแรมของคุณ ไม่จำเป็นต้องคิดแผนใหญ่ๆ ตลอดเวลาเพื่อสร้างรายได้และเพิ่มกำไร
สิ่งแรกที่ควรทำเพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จมากขึ้น คือการทำให้การดำเนินงานปัจจุบันมีประสิทธิภาพสูงสุด และใช้ประโยชน์จากทุกพื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุด
นี่คือ 10 จุดที่คุณควรให้ความสำคัญเพื่อลดต้นทุนและสร้างกำไรให้ง่ายขึ้น:
1. เลือกระบบจัดการโรงแรม (PMS) ที่ดีที่สุดในตลาด
ถ้าระบบจัดการโรงแรม (PMS) ของคุณยังไม่ได้อยู่บนคลาวด์ คุณกำลังพลาดประโยชน์มหาศาล ระบบคลาวด์อัตโนมัติช่วยให้คุณไม่ต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญไอทีมาดูแลหรือจัดการระบบ ประหยัดเวลาได้เยอะ โดยเฉพาะเมื่อเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ และยังช่วยลดต้นทุนเริ่มต้นเพราะไม่ต้องลงทุนอุปกรณ์
2. ทำให้ PMS ใช้งานผ่านมือถือได้เป็นอันดับแรก
ช่วยให้พนักงานทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น แม่บ้านสามารถสื่อสารกับระบบหน้าเคาน์เตอร์ผ่านมือถือได้โดยตรง เช็คได้ว่าห้องไหนต้องทำความสะอาดหรือให้บริการ และห้องไหนมีแขกพักอยู่
3. ยืดหยุ่นเรื่องชั่วโมงทำงานของพนักงาน
การจัดตารางเวลาทำงานแบบตายตัวอาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจ บางช่วงอาจมีพนักงานล้นมือ แต่บางช่วงกลับขาดคน ลองปรับมาใช้ระบบจัดเวลางานที่ยืดหยุ่นกว่านี้ จะได้จัดสรรคนให้เหมาะกับช่วงเวลาและงานที่ต้องการจริงๆ
4. กำหนดหน้าที่ให้เหมาะสม
เรื่องนี้เกี่ยวกับประสิทธิภาพอีกครั้ง ควรกำหนดให้ชัดเจนว่าแม่บ้านต้องทำอะไรบ้าง ห้องที่แขกแค่แวะพักคืนเดียวไม่จำเป็นต้องใช้เวลาทำความสะอาดหรือจัดเตรียมนานเท่าห้องที่แขกพักหนึ่งสัปดาห์ หลักการเดียวกันนี้ใช้ได้กับจำนวนแขกในห้องด้วย การตั้งมาตรฐานแบบนี้ช่วยให้พนักงานทำงานได้มากขึ้นในเวลาที่น้อยลง
5. ลดต้นทุนการตลาด
การลงโฆษณาแบบเสียเงินไม่ได้รับประกันว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเสมอไป ลองมาตรวจสอบวิธีการทำตลาดของคุณ แล้วทุ่มเทกับช่องทางฟรีและการสร้างทราฟฟิกแบบออร์แกนิกดูบ้าง สร้างคอนเทนต์ดีๆ และสร้างฐานผู้ติดตามในโซเชียลมีเดียให้มากที่สุดโดยไม่ต้องใช้งบประมาณมาก เพราะเราสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีบน Facebook, Instagram และ Google ได้โดยไม่ต้องเสียเงิน
6. ใส่ใจรายละเอียดในการบริหารโรงแรม
การให้ความสำคัญกับการประหยัดพลังงานสามารถสร้างประโยชน์ระยะยาวให้โรงแรมคุณได้อย่างมาก ลองพิจารณาติดตั้งระบบทำความเย็นและความร้อนที่ทำงานตามการใช้งานจริง ที่จะปรับตัวตามการมีคนอยู่ในห้อง หลอดไฟประหยัดพลังงานอย่าง LED ก็เป็นตัวเลือกที่ดี รวมถึงไฟที่ทำงานด้วยเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหว การประหยัดค่าไฟเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ช่วยเพิ่มกำไรได้ชัดเจน
7. ใช้ประโยชน์จากแผนกอาหารและเครื่องดื่มให้คุ้มค่า
แผนกนี้เป็นหนึ่งในโอกาสหลักที่จะประหยัดเงินและสร้างรายได้เพิ่ม อันดับแรก สังเกตว่าคุณต้องการอาหารจริงๆ แค่ไหน ถ้าจานอาหารถูกส่งคืนมาพร้อมอาหารเหลือเป็นประจำ และไม่ใช่เพราะคุณภาพไม่ดี นั่นอาจหมายความว่าเราควรลดขนาดเสิร์ฟลง และค่อยๆ สั่งวัตถุดิบน้อยลง การมีเมนูไม่เยอะเกินไปก็ช่วยได้ เน้นคุณภาพดีกว่าปริมาณเสมอ
8. ประหยัดเรื่องเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่ง
ซัพพลายเออร์หลายรายมีแพ็กเกจและดีลสำหรับการซื้อจำนวนมากที่คุณสามารถใช้ประโยชน์ได้ แม้จะน่าลองสั่งทำดีไซน์พิเศษเฉพาะตัว แต่ต้นทุนอาจสูงเกินคุ้ม เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาให้ดีและอาจขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายของคุณ อย่างนักธุรกิจที่มาพัก อาจไม่ได้สนใจเรื่องดีไซน์แปลกๆ หรือพิเศษของโรงแรมมากนัก
9. หาประโยชน์จากพื้นที่ที่ยังใช้งานไม่คุ้มค่า
มีพื้นที่ว่างๆ ในโรงแรมที่ปล่อยทิ้งไว้เฉยๆหรือเปล่า ลองหาทางสร้างรายได้จากพื้นที่พวกนี้ดู ไม่จำเป็นต้องทำอะไรถาวร แค่จัดกิจกรรมชั่วคราวก็ได้ เช่น เปิดร้านนวด จัดคลาสโยคะ หรือสอนทำอาหาร แค่นี้ก็ช่วยให้แขกจ่ายเงินเพิ่มโดยไม่รู้ตัว ทั้งคุณและแขกก็ได้ประโยชน์ แขกได้กิจกรรมสนุกๆ ทำ ส่วนคุณก็ได้รายได้เสริม
10. จัดงานอีเวนต์หรืองานประชุมต่างๆ
เช่นเดียวกับข้อที่แล้ว ถ้าโรงแรมคุณมีห้องประชุมหรือพื้นที่จัดงานอีเวนต์ ก็ควรใช้ให้เกิดประโยชน์ ลองติดต่อหาพาร์ทเนอร์มาจัดงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานสัมมนา เวิร์กช็อป งานแต่ง หรืองานอื่นๆ ที่เหมาะกับสถานที่ของคุณ นี่เป็นอีกช่องทางสร้างรายได้นอกเหนือจากค่าห้องพัก และยังช่วยดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เข้ามาด้วย
เทคนิคลดค่าใช้จ่ายออนไลน์สำหรับโรงแรม
ในยุคที่ OTA พวกเว็บจองรายใหญ่มีอิทธิพลสูง และการตลาดดิจิทัลเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ผู้ประกอบการโรงแรมมักเจอปัญหาค่าใช้จ่ายด้านช่องทางขายที่พุ่งสูงขึ้น การสร้างสมดุลระหว่างการเพิ่มการมองเห็นออนไลน์กับการควบคุมค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต่อไปนี้คือเทคนิคที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายออนไลน์ของโรงแรมคุณ โดยไม่กระทบต่อการเข้าถึงลูกค้าหรือชื่อเสียง
1. อย่าพึ่งช่องทางเดียว
สถิติจาก HSMAI ชี้ว่า 76% ของการจองห้องพักโรงแรมอิสระมาจาก OTA ทำให้โรงแรมต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นเป็นพันล้านทุกปี
ถ้าอยากเพิ่มการจองตรง โรงแรมต้องคิดถึงการมีตัวตนบนโลกออนไลน์แบบครบวงจร ไม่ใช่แค่อยู่บน OTA พอ ลองติดตั้งระบบจองห้องพัก (IBE) บนเว็บไซต์แบรนด์ตัวเอง และลงทุนกับเทคโนโลยีโซเชียลและมือถือเพื่อกระตุ้นยอดขาย จะช่วยลดค่าคอมมิชชั่นที่ต้องจ่ายให้คนกลางได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณควรใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์พื้นฐานของแพลตฟอร์มมือถือและโซเชียลในการสื่อสารกับลูกค้า ให้ข้อมูล และรับการจอง ไม่ใช่แค่โปรโมทดีลนาทีสุดท้าย
ในสภาพการแข่งขันปัจจุบัน เราคาดได้ว่าค่าใช้จ่ายในแต่ละช่องทางจะสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นสำคัญมากที่จะต้องลงทุนกับช่องทางที่เราควบคุมการตลาดและการสื่อสารได้มากที่สุด
กุญแจสำคัญคือการทำให้ช่องทางต่างๆ มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งการค้นหา โซเชียล มือถือ รีทาร์เก็ตติ้ง อีเมล และการโทร เพื่อดึงดูดและรักษาลูกค้า
2. เพิ่มฐานข้อมูลลูกค้า
การสร้างและดูแลฐานข้อมูลลูกค้าเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าและสร้างการพูดคุยที่ตรงใจ
ตัวอย่างเช่น ระบบ CRM ของโรงแรม เมื่อใช้ร่วมกับระบบ PMS หรือ CRS จะช่วยเพิ่มกำไรได้ ด้วยการรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากโปรไฟล์โซเชียลมีเดีย และส่งข้อมูลและโปรโมชั่นที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย
นอกจากนี้ยังช่วยสร้างข้อเสนอที่เข้ากับพฤติกรรมลูกค้า และให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่า ซึ่งช่วยวัดประสิทธิภาพแคมเปญการตลาดของโรงแรมได้
3. เช็คดูว่าคุณทำได้ดีแค่ไหน
คุณได้ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) คุ้มค่าแล้วหรือยัง? การเปรียบเทียบตำแหน่งของคุณในตลาดจะช่วยให้เห็นภาพชัดขึ้นว่าคุณทำได้ดีแค่ไหน ลองดูตัวอย่างเช่น:
- รายได้และต้นทุนของคุณเทียบกับคู่แข่งเป็นยังไง?
- คุณจ่ายค่าการตลาดในแต่ละช่องทางเท่าไร?
- ต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่สูงหรือต่ำ?
ในการติดตามต้นทุนการหาลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าเก่า ข้อมูลและการวิเคราะห์เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้คุณเห็น ROI ของช่องทางดิจิทัล และค้นพบช่องทางการขายที่ดีที่สุดสำหรับกลุ่มเป้าหมายของคุณ
4. หาจุดแข็งที่เหนือคู่แข่ง
ในยุคที่ช่องทางการขายเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โรงแรมต้องพยายามปรับปรุงตำแหน่งในตลาดอย่างต่อเนื่อง โรงแรมสามารถใช้หลายช่องทาง (โซเชียล มือถือ เว็บไซต์ อีเมล และการค้นหา) เพื่อเข้าถึงลูกค้าด้วยโปรโมชั่นพิเศษ ส่วนลด แพ็กเกจเพิ่มมูลค่า และสิทธิพิเศษอื่นๆ เช่น อัพเกรดห้องฟรี เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าจองกับโรงแรมโดยตรง และกลายเป็นลูกค้าประจำ
ยกตัวอย่างเช่น โรงแรม Danubius มอบบัตรกำนัลมูลค่า 15 ปอนด์ให้แขกฟรีทุกคืนที่จองตรง พร้อมรับประกันราคาดีที่สุด
แม้ว่า OTA จะมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์การขายของโรงแรม แต่กุญแจสำคัญคือการหาจุดสมดุลระหว่างการขายตรงและการขายผ่านตัวกลาง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรงแรมต้องให้ความสำคัญกับที่มาของแขก และวัดประสิทธิภาพของแต่ละช่องทางโดยตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
การอยู่หนึ่งก้าวนำเสมอจะช่วยให้คุณเข้าถึงและรักษาลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โรงแรมระดับพรีเมียมจะลดต้นทุนและเพิ่มรายได้อย่างไรดี
การลดต้นทุนและเพิ่มรายได้เป็นเรื่องสำคัญ แต่พอธุรกิจเติบโตถึงจุดหนึ่ง การรักษาการเติบโตแบบก้าวกระโดดก็ยากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้วิธีง่ายๆ ไปหมดแล้ว แล้วผู้บริหารเครือโรงแรมระดับพรีเมียมจะทำอย่างไร เพื่อสร้างผลกำไรและการเติบโตเพิ่มเติม โดยไม่ติดกับดักงานที่ต้องทำด้วยมือที่กินเวลาและไร้ประสิทธิภาพ?
ระบบจองห้องพักช่วยลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ได้อย่างไร?
แทบทุกโรงแรมที่ประสบความสำเร็จ ต้องพึ่งเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อรักษาความได้เปรียบในตลาดที่แข่งขันสูงและเป็นในเชิงออนไลน์มากขึ้น สำหรับเครือโรงแรมที่มีหลายสาขา มีโรงแรมในเครือเป็นสิบหรือร้อยแห่ง การอัพเดทข้อมูลห้องว่างแบบเรียลไทม์ด้วยมือในหลายสิบช่องทางการจอง (หรือเป็นร้อย…) เริ่มกลายเป็นภาระหนัก ทรัพยากรบุคคลถูกใช้ไปเปล่า เสียเวลาไปกับงานบริหารแทนที่จะโฟกัสเรื่องการเติบโต และผลประกอบการก็ชะงักเพราะโรงแรมไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้
ด้วยเหตุนี้ โรงแรมจึงหันมาใช้ระบบจองห้องพักอัตโนมัติ ที่จัดการทั้งการจองผ่าน OTA และที่สำคัญคือการจองตรงจากลูกค้า การใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะจัดการเรื่องการจอง ช่วยให้พนักงานทำงานได้มากขึ้นด้วยทรัพยากรที่น้อยลง ได้การจองมากขึ้น แขกพอใจมากขึ้น รายได้เพิ่มขึ้น และลดชั่วโมงการทำงานที่สิ้นเปลืองไปกับงานจำเจเพียงเพื่อนำข้อมูลขึ้นระบบ
โรงแรมระดับพรีเมียมมีความคาดหวังสูงจากแขก ไม่ใช่ว่าระบบจองห้องพักแบบไหนก็ใช้ได้ แม้แต่ข้อผิดพลาดเล็กๆ ก็อาจส่งผลร้ายแรง เช่น การไม่จองซ้ำ ลูกค้าเสียความเชื่อมั่น และลดโอกาสที่ลูกค้าจะกลับมาจองซ้ำหรือรีวิวดีๆ โรงแรมระดับพรีเมียมต้องการระบบการจัดการที่มีคุณภาพสูงเช่นกัน นั่นหมายถึงต้องมีระบบจองห้องพักที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพสูงมารองรับการให้บริการ
ระบบจองห้องพักระดับพรีเมียมจาก SiteMinder
SiteMinder เป็นระบบจองห้องพักที่ได้รับการจัดอันดับ #1 ในวงการโรงแรม ด้วยความสามารถในการอัพเดทราคาและห้องว่างอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ ครอบคลุมทุก OTA หลักๆ พร้อมระบบจองตรงที่ใช้งานง่าย สามารถติดตั้งบนเว็บไซต์โรงแรมที่มีอยู่แล้วหรือเว็บที่ทำขึ้นมาใหม่ได้ทันที
ช่วยประหยัดเวลาในการอัพเดทช่องทางการขายต่างๆ ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และแทบจะไม่มีความเสี่ยงเรื่องการจองห้องเกินในโรงแรมระดับพรีเมียม
อ่านเคสรีวิวจริงของโรงแรมที่ประสบความสำเร็จจากการใช้ระบบจองห้องพักของ SiteMinder ได้ที่หน้ารีวิวของเรา
ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ให้โรงแรมคุณด้วย SiteMinder
การควบคุมต้นทุนโรงแรมสำคัญพอๆ กับการสร้างรายได้ ทาง SiteMinder มีเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น พร้อมๆ กับเพิ่มผลลัพธ์ด้านรายได้ ด้วยแพลตฟอร์มของเรา คุณสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่กระทบประสบการณ์ของแขกและโอกาสในการทำรายได้
- ทำงานได้ไว ประหยัดต้นทุน แพลตฟอร์มของ SiteMinder ช่วยให้การดำเนินงานของโรงแรมเป็นระบบมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายจากงานที่ต้องทำแบบแมนวลและความไม่มีประสิทธิภาพ ด้วยระบบอัพเดทห้องพักอัตโนมัติ การจัดการการจองแบบรวมอยู่ในที่เดียว และการสื่อสารกับแขกแบบครบวงจร ช่วยลดข้อผิดพลาด ประหยัดเวลา และลดต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างเห็นได้ชัด
- เพิ่มช่องทางขาย ลดค่าคอมมิชชั่น ระบบจัดการช่องทางขายของ SiteMinder ช่วยให้คุณเข้าถึงเครือข่ายแพลตฟอร์มการจองที่ใหญ่ที่สุด ด้วยการดึงทราฟฟิกมาที่ช่องทางจองตรงมากขึ้น และต่อรองค่าคอมมิชชั่นกับ OTA ได้ดีขึ้น SiteMinder ช่วยให้คุณสร้างรายได้มากขึ้น พร้อมกับลดค่าใช้จ่ายด้านคอมมิชชั่น
- วิเคราะห์และรายงานต้นทุนแบบเรียลไทม์ ข้อมูลคือด่านแรกในการป้องกันต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น ระบบวิเคราะห์ธุรกิจโรงแรมของ SiteMinder ให้ภาพรวมรูปแบบค่าใช้จ่ายของโรงแรมคุณ ช่วยให้คุณระบุจุดที่มีการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้ ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญการตลาดที่ไม่ได้ผล การใช้พลังงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ หรือทรัพยากรที่ใช้งานไม่คุ้มค่า SiteMinder มีข้อมูลให้คุณตัดสินใจเรื่องการประหยัดต้นทุนได้อย่างแม่นยำ