Channel Manager คืออะไร?
Channel Manager คือระบบที่ช่วยโรงแรมแสดงห้องพักบนช่องทางการจองที่เชื่อมต่อทั้งหมดพร้อมกัน และป้องกันปัญหาในการจองซ้ำซ้อน
เมื่อมีการจองเกิดขึ้น รวมถึงการจองผ่านเว็บไซต์โดยตรง Channel Manager จะอัปเดตจำนวนห้องที่ว่างแบบเรียลไทม์บนทุกเว็บไซต์โดยอัตโนมัติ การทำงานอัตโนมัติแบบเรียลไทม์นี้ยังเกิดขึ้นเมื่อมีคนจองไปแล้วหรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนห้องพักของโรงแรมจำนวนเยอะๆ
เนื่องจากนักท่องเที่ยวนิยมจองที่พักออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะผ่านเว็บจองออนไลน์อย่าง Booking.com และ Expedia การใช้ Channel Manager จะช่วยให้คุณจัดการกับตลาดที่คึกคักได้อย่างง่ายดาย พร้อมทั้งเพิ่มอัตราการเข้าพักและรายได้
บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับ Channel Manager สำหรับโรงแรม รวมถึงคำจำกัดความ การใช้งาน ประโยชน์ แพลตฟอร์มที่ให้บริการ และอื่นๆ อีกมากมาย
สารบัญ
มาทำความรู้จัก Channel management
อธิบายง่ายๆ channel management หมายถึงกลยุทธ์ในการเลือกช่องทางที่คุณจะนำห้องพักไปลงขาย วิเคราะห์ดูว่าช่องทางใดที่ทำผลงานได้ดีที่สุด และหาแนวทางในการปรับปรุงการเชื่อมต่อเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจของคุณ
การจัดการช่องทางการจองคือกระบวนการขายห้องพักผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ต่างๆ ทั่วโลก ช่องทางเหล่านี้จะเป็น OTA (เช่น Expedia) บริษัทนำเที่ยว เว็บไซต์เปรียบเทียบราคา (เช่น Google) ระบบ GDS หรือช่องทางตรง (เช่น เว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของคุณเอง)
การจัดการช่องทางการจองในธุรกิจโรงแรมคืออะไร?
การจัดการช่องทางการจองในอุตสาหกรรมโรงแรม หมายถึงฟังก์ชันพื้นฐานของการใช้ Channel Manager เพื่อแสดงและจัดการห้องพักของโรงแรมคุณบนช่องทางการจองที่หลากหลาย
โดยทำได้ผ่านแดชบอร์ดเดียว ทำให้คุณสามารถเข้าถึงราคาและจำนวนห้องว่างแบบเรียลไทม์ได้ทันที โดยไม่ต้องเข้าใช้งานหลายระบบแยกกัน การจัดการช่องทางการจองเป็นกระบวนการที่ช่วยให้คุณขายห้องพักและบริการเสริมต่างๆ ได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
Attract more guests and increase revenue
Learn moreใช้ Channel Manager กับโรงแรมอย่างไร?
การใช้ Channel Manager ทำหน้าที่อัปเดตจำนวนห้องพักแบบอัตโนมัติและเรียลไทม์ พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลการจองแบบสองทางระหว่างช่องทางการจองต่างๆ กับระบบจัดการโรงแรมของคุณ
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อมีคนจองห้องผ่าน Booking.com Channel Manager จะส่งข้อมูลนี้ไปยังระบบจัดการโรงแรมของคุณทันที และในขณะเดียวกันก็จะอัปเดตจำนวนห้องพักที่เหลือบนช่องทางอื่นๆ ที่เชื่อมต่ออยู่ด้วย อย่างเช่น Expedia หรือ Agoda
ด้วยวิธีการนี้ จำนวนห้องพักของโรงแรมคุณจะถูกต้องและทันสมัยอยู่เสมอ ช่วยลดปัญหาในการจองซ้ำซ้อนได้มาก และยังขจัดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดจากการทำงานด้วยคน นอกจากนี้ คุณยังสามารถควบคุมการอัปเดตและดูผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพต่างๆ ได้จากหน้าจอเดียว
โรงแรมจะใช้ Channel Manager ให้เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจได้ยังไง?
Channel Manager ไม่เพียงแต่ช่วยให้การขายห้องพักและการจัดการจำนวนห้องของโรงแรมคุณทำได้ง่ายและเร็วขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยรายงานผลการดำเนินงานที่สำคัญ ซึ่งคุณสามารถนำไปใช้วางแผนกลยุทธ์การตลาดและการขายได้อีกด้วย
มาดูกันว่า Channel Manager สามารถช่วยธุรกิจโรงแรมของคุณได้อย่างไรบ้าง
1. เพิ่มยอดการจองออนไลน์
ในยุคที่การจองทางโทรศัพท์และการวอคอินลดลงอย่างมาก ส่วนการจองออนไลน์กลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ Channel Manager จะช่วยให้คุณพร้อมรับมือกับพฤติกรรมการจองออนไลน์ของนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. เพิ่มรายได้ให้โรงแรม
Channel Manager แสดงราคาและจำนวนห้องว่างแบบเรียลไทม์บนทุกช่องทางพร้อมกัน และอัปเดตทันทีเมื่อมีการจอง ทำให้คุณรับการจองได้เร็วขึ้น และแทบจะไม่มีโอกาสเกิดการจองซ้ำซ้อน
นอกจากนี้ ข้อมูลที่วิเคราะห์ได้จาก Channel Manager ยังช่วยให้คุณปรับราคาและปรับการเชื่อมต่อช่องทางต่างๆ ให้เหมาะสมที่สุดอยู่เสมอ
3. ลดความเสี่ยงของการจองเกิน
ถ้าไม่มี Channel Manager คุณต้องแบ่งจำนวนห้องพักไปตามช่องทางต่างๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการจองซ้ำซ้อน หรือไม่ก็อาจทำให้ห้องไม่เต็ม แต่ด้วยการรวมจำนวนห้องพักและการอัปเดตจำนวนห้องว่างและราคาแบบอัตโนมัติ ทำให้แขกสามารถจองได้เฉพาะห้องที่ว่างจริงๆ เท่านั้น
4. สร้างการรับรู้แบรนด์
Channel Manager ที่มีประสิทธิภาพสูงจะช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับช่องทางการจองออนไลน์นับร้อยแบบไร้ขีดจำกัด ทำให้นักท่องเที่ยวที่ไม่เคยรู้จักโรงแรมของคุณมาก่อน สามารถค้นเจอและจองห้องพักของคุณได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังเพิ่มโอกาสที่ OTA จะยอมรับโรงแรมของคุณเข้าไปอยู่ในรายชื่อที่พัก เพราะมั่นใจได้ว่าข้อมูลห้องพักของคุณจะถูกต้องและเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
5. กระตุ้นการจองโดยตรง
นักท่องเที่ยวจำนวนมากมักจะเจอโรงแรมของคุณครั้งแรกบนเว็บไซต์ OTA แต่ก็อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจจอง เลยค้นหาเข้าไปดูเว็บไซต์ของคุณโดยตรง แล้วจึงตัดสินใจจองห้องพัก ผลลัพธ์คือคุณได้รับการจองโดยตรง แม้ว่าจุดเริ่มต้นจะมาจาก OTA แต่ส่งผลทำให้โรงแรมของคุณได้กำไรมากขึ้น ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “ผลกระทบป้ายโฆษณา” หรือ “billboard effect”
6. ลดการทำงานแบบแมนวล
การป้อนข้อมูลแบบแมนวลนั้นกินเวลาและน่าหงุดหงิด แต่ Channel Manager ช่วยลดความยุ่งยากนี้ ทำให้คุณทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น งานที่เคยต้องเลื่อนออกไป ตอนนี้สามารถจัดการได้เพื่อพัฒนาธุรกิจของคุณ
7. สร้างระบบเทคโนโลยีที่ทำงานร่วมกันอย่างลงตัว
แทนที่จะต้องอัปเดตข้อมูลในหลายระบบ Channel Manager สามารถเชื่อมต่อกับระบบจัดการโรงแรม ระบบสำรองที่พักส่วนกลาง ระบบจัดการรายได้ และระบบจองของคุณ เพื่อสร้างระบบควบคุมกลางสำหรับการดำเนินงานทั้งหมดของโรงแรม Channel Manager บางแพลตฟอร์ม เช่น SiteMinder ยังเชื่อมต่อกับ Airbnb ได้แบบไม่เหมือนใครอีกด้วย
8. ยกระดับสู่แพลตฟอร์มธุรกิจชั้นแนวหน้า
Channel Manager ที่ดีช่วยให้คุณเห็นข้อมูลทุกอย่างแบบละเอียดในทุกระบบและช่องทาง ทำให้คุณรู้ว่าช่องทางไหนหรือห้องแบบไหนทำผลตอบแทนได้ดีที่สุด คุณจึงสามารถปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจได้ตลอดเวลา ลองกลับไปดูรายงานต่างๆ เช่น ผลตอบแทนของแต่ละช่องทาง การวิเคราะห์ว่าจองจากทางไหน และแนวโน้มการจอง เพื่อดูว่าอะไรกำลังไปได้ดี หรือไม่ดี
9. ลดการพึ่งพาช่องทางการจองแบบเดิมๆ
ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเลิกใช้วิธีการแบบดั้งเดิม เช่น การรับจองทางโทรศัพท์หรือจากลูกค้าที่วอคอิน การเผื่อห้องพักไว้บ้างสำหรับช่องทางเหล่านี้ก็สามารถทำกำไรได้ดีทีเดียว แต่การใช้ Channel Manager จะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลว่าห้องจะไม่เต็มถ้าใช้แค่วิธีเดิมๆ การเชื่อมต่อกับเว็บไซต์จองออนไลน์จำนวนมากจะช่วยรับประกันว่าอัตราการเข้าพักของคุณจะสม่ำเสมอตลอด
10. ทำให้ทุกคนรับรู้ข้อมูลตรงกัน
Channel Manager ที่มีคุณภาพจะสามารถใช้งานได้ง่ายมาก และโรงแรมมักจะมีพนักงานหลายคนใช้ระบบนี้ร่วมกัน ถ้าผู้ใช้หลักไม่อยู่หรือไม่สามารถอัปเดตข้อมูลได้ พนักงานสามารถทำเครื่องหมายวันสำคัญในระบบได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าต้องเปลี่ยนราคาหรือขายห้องเมื่อไหร่ เช่น อาจทำเครื่องหมายช่วงปิดเทอมเพื่อให้ขึ้นราคาในช่วงที่คนเข้าพักเยอะได้
ประโยชน์ของระบบจัดการช่องทางการจองสำหรับโรงแรม
แม้จะมีค่าใช้จ่ายบ้าง แต่อัตราการเข้าพักและรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการใช้ Channel Manager ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก แม้ว่าส่วนใหญ่ลูกค้าที่จองจะมาจากบรรดาเว็บจองออนไลน์ก็ตาม
แม้แต่โรงแรมขนาดเล็กที่มีห้องพักไม่กี่ห้อง Channel Manager ก็ยังช่วยธุรกิจของคุณได้มาก โดยทำให้การจัดการจำนวนห้องพักในแต่ละวันง่ายขึ้น
เมื่อต้องตัดสินใจว่าโรงแรมของคุณจำเป็นต้องใช้ระบบจัดการช่องทางการจองหรือไม่ ลองถามตัวเองดูว่าลิสต่อไปนี้มีประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณหรือไม่:
- ไม่ต้องเสียเวลากับการจัดการหลายระบบอีกต่อไป
- ใช้เวลาน้อยลงมากในการอัปเดตข้อมูลห้องพัก
- ไม่มีข้อผิดพลาดโดยคนในการป้อนหรือปรับราคาและจำนวนห้องว่าง
- เพิ่มการเข้าถึงในระดับโลกและเพิ่มการรับรู้แบรนด์
- เพิ่มอัตราการเข้าพักและรายได้
- เห็นข้อมูลการจองและประสิทธิภาพของแต่ละช่องทางอย่างโปร่งใส
- อัปเดตช่องทางต่างๆ แบบเรียลไทม์และอัตโนมัติ
- เชื่อมต่อแบบสองทางอย่างมีประสิทธิภาพกับระบบโรงแรมที่มีอยู่
- สร้างแพลตฟอร์มการกระจายห้องพักที่เชื่อถือได้และมั่นคง ช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้
แน่นอนว่ายังมีเทคนิคและวิธีการอีกมากมายที่จะช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จาก Channel Manager ได้อย่างเต็มที่…
วิธีใช้ Channel Manager ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจาก Channel Manager ของคุณ ควรทำดังนี้:
- เชื่อมต่อกับช่องทางการจองได้มากกว่า 5 ช่องทาง
- สร้างและวิเคราะห์รายงานประสิทธิภาพ เช่น สัดส่วนการจองที่มาจากแต่ละช่องทาง
- เพิ่มประสิทธิภาพข้อมูลจาก Channel Manager ด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ธุรกิจ เพื่อให้คุณสามารถสร้างรายงานแนวโน้มการจองได้
- เชื่อมต่อกับระบบจองออนไลน์ เพื่อจัดการการจองโดยตรงและการจองผ่านบุคคลที่สามได้อย่างราบรื่น
- เชื่อมต่อกับระบบจัดการโรงแรม เพื่อช่วยให้ทุกอย่างเป็นศูนย์กลางและทำให้การดำเนินงานประจำวันเป็นไปอย่างอัตโนมัติ
การเชื่อมต่อระบบ Channel Manager
การเชื่อมต่อระบบ Channel Manager คือการผสานการทำงานของ Channel Manager เข้ากับระบบอื่นๆ อย่างไร้รอยต่อ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงาน
ระบบหลายอย่างที่คุณใช้อยู่แล้วสามารถได้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อกับ Channel Manager หรือแม้แต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Channel Manager เองด้วย การเชื่อมโยงระบบต่างๆ เข้าด้วยกันมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาความถูกต้องของข้อมูลและทำให้ระบบหลังบ้านของโรงแรมคุณทำงานได้อย่างราบรื่น
ต่อไปนี้คือรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบต่างๆ ที่สามารถใช้ร่วมกับ Channel Manager เพื่อช่วยยกระดับผลลัพธ์ทางธุรกิจของคุณ:
ระบบจัดการโรงแรม (Property Management System – PMS)
ระบบจัดการโรงแรมของคุณครอบคลุมงานบริหารจัดการทั้งหมดของโรงแรม รวมถึงการจัดการการจอง การเช็คอิน/เอาท์ ข้อมูลแขก งานแม่บ้าน การบำรุงรักษา การจัดการห้องว่าง/อัตราการเข้าพัก ฯลฯ
เมื่อระบบจัดการโรงแรมของคุณเชื่อมต่อกับ Channel Manager จะช่วยให้เกิดการสื่อสารแบบสองทาง หมายความว่าข้อมูลใดๆ ที่คุณเปลี่ยนแปลง ก็จะส่งตรงไปยัง Channel Manager แล้วแจ้งเตือนไปยังเว็บไซต์จองของบุคคลที่สามทั้งหมดและช่องทางการจองโดยตรงของคุณ
ระบบนี้ทำงานได้ทั้งสองทิศทาง ไม่ใช่แค่ส่งข้อมูลจากระบบจัดการโรงแรมไปยัง Channel Manager เท่านั้น แต่ยังรับข้อมูลจาก Channel Manager มาอัปเดตในระบบจัดการโรงแรมด้วย เช่น เมื่อมีการจองผ่านเว็บไซต์อื่น ข้อมูลก็จะถูกส่งกลับมาอัปเดตในระบบของคุณโดยอัตโนมัติ
หากไม่มีการเชื่อมต่อนี้ คุณจะต้องตรวจสอบการจองจากทุกเว็บไซต์และอัปเดตข้อมูลในระบบด้วยตนเอง ซึ่งนอกจากจะเสียเวลาแล้ว ยังเสี่ยงต่อการผิดพลาดอีกด้วย
ระบบจองออนไลน์ของโรงแรม
ระบบจองออนไลน์ช่วยให้คุณรับการจองผ่านอินเทอร์เน็ตได้โดยตรงจากเว็บไซต์หรือหน้าโซเชียลมีเดียของคุณ โดยมีปุ่ม ‘จองเลย’ ทำให้แขกรู้ทันทีว่าจะจองห้องพักได้จากที่ไหน
เมื่อคุณใช้ Channel Manager ระบบจองออนไลน์จะถูกจัดการเหมือนกับเว็บไซต์จองของบุคคลที่สามที่คุณเป็นพาร์ทเนอร์ด้วย ทำให้คุณสามารถติดตามผลงาน อัปเดตราคาได้ง่าย และเช็คจำนวนห้องว่างได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
เครื่องมือวิเคราะห์ธุรกิจ
คุณสามารถใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ธุรกิจโรงแรมเพื่อเช็คว่ามีการปรับราคาอย่างเหมาะสมและช่วยสร้างรายได้สูงสุด ซอฟต์แวร์นี้ใช้ติดตามคู่แข่งและเปลี่ยนแปลงราคาตามอุปสงค์และอุปทานในตลาด
คุณสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนเพื่อไม่พลาดโอกาสในการปรับราคา ทั้งเพิ่มราคาเพื่อเพิ่มรายได้ หรือลดราคาเพื่อกระตุ้นการจอง การใช้งานร่วมกับ Channel Manager มีประโยชน์มากเพราะช่วยให้ราคาที่คุณตั้งใกล้เคียงกับคู่แข่งของคุณ
การตั้งราคาต่ำเกินไปจะทำให้รายได้ลดลง ส่วนการตั้งราคาสูงเกินไปจะทำให้ยอดจองลดลง การคาดการณ์ในระยะยาวก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อดูแนวโน้มว่าควรตั้งราคาเท่าไหร่ และที่สำคัญคือเมื่อไหร่ หากไม่มีข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ เราจะทำอะไรไม่ได้เลย
ตัวอย่างและตัวช่วยการจัดการช่องทางการจอง
หากคุณกำลังมองหาตัวช่วยการจัดการช่องทางการจอง มีตัวเลือกมากมายในตลาดสำหรับธุรกิจโรงแรมทุกประเภท
ไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจที่พักขนาดเล็ก โรงแรมอิสระขนาดกลางถึงใหญ่ หรือเครือโรงแรม มี Channel Manager ที่เหมาะสมสำหรับคุณแน่นอน
มีปัจจัยหลายอย่างที่ควรพิจารณาในการตัดสินใจ
บริษัท Channel Management ที่เป็นที่รู้จักในธุรกิจโรงแรม
ขนาดและลักษณะของโรงแรมคุณมีผลต่อการเลือก Channel Manager ที่เหมาะสม ตัวอย่างปัจจัยที่ควรพิจารณา ได้แก่:
- จำนวนห้องพัก
- จำนวนประเภทห้องพัก
- จำนวนช่องทางการจองที่ต้องการเชื่อมต่อ
- กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
- แอปพลิเคชันอื่นๆ ที่คุณใช้อยู่แล้ว เช่น ระบบจองออนไลน์หรือระบบจัดการโรงแรม
- งบประมาณ
SiteMinder เป็นบริษัทจัดการช่องทางการจองชั้นนำระดับโลก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับโรงแรมอิสระที่มีห้องพัก 20 ห้องขึ้นไป รวมถึงกลุ่มโรงแรมและเครือโรงแรมขนาดใหญ่ บริษัทเชื่อมต่อกับเว็บไซต์จองกว่า 450 แห่ง และทำงานร่วมกับระบบจัดการโรงแรมมากกว่า 250 ระบบ ทำให้เป็น Channel Manager ที่มีการเชื่อมต่อมากที่สุดในแวดวงธุรกิจโรงแรม
สำหรับที่พักขนาดเล็กที่มีงบประมาณจำกัด ก็มีบริษัทที่เชี่ยวชาญในการให้บริการ B&B โรงแรมบูทีคขนาดเล็ก โมเต็ล เกสต์เฮาส์ และที่พักขนาดเล็กอื่นๆ Channel Manager เหล่านี้มักมาในรูปแบบระบบครบวงจร เช่น บริการจาก Little Hotelier
โดยทั่วไป บริษัทใหญ่ๆ ที่คุณเจอระหว่างหาข้อมูลมักจะน่าเชื่อถือที่สุด และมีแนวโน้มตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ดีกว่า ถ้าคุณคิดจะลงทุนจริงๆ บริษัทเหล่านี้อยู่ในวงการมานาน ใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและปลอดภัยที่สุด พร้อมทั้งมีทีมซัพพอร์ตระดับโลก
กลยุทธ์การจัดการช่องทางการจอง: แนวทางแนะนำสำหรับโรงแรมของคุณ
การพัฒนากลยุทธ์การจัดการช่องทางการจองที่ยอดเยี่ยมขึ้นอยู่กับความเข้าใจเรื่องการกระจายห้องพักไปแต่ละช่องทางการจองออนไลน์ ซึ่งพึ่งพา OTA และช่องทางออนไลน์อื่นๆ เพื่อให้ประสบความสำเร็จสูงสุด
OTA เป็นตัวอย่างหนึ่งของช่องทางการกระจายห้องพักออนไลน์สำหรับโรงแรม ซึ่งหมายถึงกระบวนการที่ห้องพักผ่านตัวกลางหลายทอดก่อนจะถึงมือแขก เว็บไซต์ของโรงแรมคุณเองก็ถือเป็นช่องทางหนึ่ง แต่เป็นช่องทางสั้นๆ เพราะเป็นการเปิดจองตรงให้กับนักท่องเที่ยว ส่วนช่องทางที่ยาวกว่านั้นอาจรวมถึงการส่งห้องพักผ่านผู้ค้าส่ง (บริษัทที่ซื้อห้องพักจำนวนมากแล้วไปขายต่อ) เว็บไซต์เปรียบเทียบราคา หรือตัวแทนท่องเที่ยวที่อาจใช้ระบบกระจายข้อมูลทั่วโลก (GDS)
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่องทางเหล่านี้:
เว็บไซต์จองที่พักออนไลน์ (OTA)
ตัวอย่างเช่น Booking.com, Expedia หรือ Hotels.com เป็นช่องทางที่มักมีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดสำหรับโรงแรม แต่ก็มีประสิทธิภาพมากที่สุดด้วย เพราะช่วยสร้างการรับรู้ให้กับโรงแรมของคุณอย่างมหาศาล ทำให้คุณเป็นที่รู้จักกับนักท่องเที่ยวที่อาจไม่เคยรู้จักโรงแรมคุณมาก่อน
OTA ยังเป็นที่นิยมมากในกลุ่มผู้ใช้มือถือ และสามารถนำทราฟฟิกมาสู่เว็บไซต์โรงแรมของคุณ ซึ่งคุณอาจสามารถเปลี่ยนให้เป็นการจองโดยตรงได้ หากมีการจองผ่าน OTA คุณมักจะต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นประมาณ 15%-25%
ผู้ค้าส่ง
จะทำสัญญากับโรงแรมเพื่อซื้อห้องพัก ซึ่งซื้อห้องพักจำนวนมากแล้วไปขายต่อให้กับเอเจนซี่ท่องเที่ยว เป็นเหมือนพ่อค้าคนกลาง
เมตาเสิร์ช
เว็บไซต์เปรียบเทียบราคา หรือที่เรียกว่า metasearch ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถเปรียบเทียบราคาห้องพักจากเว็บไซต์จองที่พักออนไลน์ (OTA) และเว็บไซต์จองอื่นๆ ได้ในที่เดียว ตัวอย่างเว็บไซต์เปรียบเทียบราคาที่เป็นที่รู้จัก ได้แก่ Google Hotel Ads, Tripadvisor, Kayak และ Trivago ผู้ที่กำลังมองหาที่พักสามารถใช้เว็บไซต์เหล่านี้เพื่อค้นหาราคาห้องพักและจองห้องจากหลายๆ ตัวเลือกได้พร้อมกัน
ระบบกระจายข้อมูลทั่วโลก (GDS)
ระบบกระจายข้อมูลทั่วโลก หรือ GDS เป็นเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างผู้จองการเดินทางกับผู้ให้บริการ เช่น โรงแรมและที่พักต่างๆ ทั่วโลก ระบบนี้ส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับบริการ ราคา และห้องว่างไปยังเอเจนซี่ท่องเที่ยวและแพลตฟอร์มจองออนไลน์ พร้อมทั้งรองรับการทำธุรกรรมแบบอัตโนมัติ
GDS มักถูกใช้เพื่อเจาะตลาดการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ เพราะสามารถแสดงข้อมูลโรงแรม เที่ยวบิน และรถเช่าในหน้าจอเดียวได้อย่างสะดวก บริษัทจำนวนมากที่จัดการเดินทางให้พนักงานมักเลือกใช้ GDS เป็นวิธีการจองหลัก
เมื่อคุณเริ่มใช้ช่องทางต่างๆ เหล่านี้เพื่อเข้าถึงตลาดใหม่และเพิ่มยอดจอง คุณจำเป็นต้องมีการจัดการและวางกลยุทธ์อย่างรอบคอบ
คุณต้องตัดสินใจว่า:
- อะไรคือส่วนผสมของช่องทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
- คุณต้องการใช้กี่ช่องทาง
- จะปรับแต่งโปรไฟล์ของคุณอย่างไรให้ดีที่สุด
- คุณต้องการปรับราคาบ่อยแค่ไหน
- คุณต้องการจัดโปรโมชั่นอะไรบ้าง
- คุณมีโปรโมชั่นพิเศษอะไรสำหรับการจองตรง
- คุณจะรับมือกับคู่แข่งได้ยังไง
การตัดสินใจว่าอะไรเหมาะสมที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละโรงแรม และการจัดการทั้งหมดนี้ด้วยตนเองอาจเป็นเรื่องยุ่งยากและซับซ้อน
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม Channel Manager ถึงเป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์การกระจายห้องพักออนไลน์ของโรงแรม ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณตัดสินใจเปลี่ยนแผนราคาใหม่ อาจต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการอัปเดตข้อมูลในระบบต่างๆ ของช่องทางที่คุณเชื่อมต่ออยู่ แต่ Channel Manager ช่วยให้คุณทำกระบวนการนี้ได้เพียงไม่กี่คลิกเท่านั้น
สิ่งสำคัญคือคุณต้องหมั่นติดตามและวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน ตรวจสอบพฤติกรรมของตลาด และจับตาดูคู่แข่งอยู่เสมอ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากกลยุทธ์การจัดการช่องทางการจองของคุณ
วิธีเลือก Channel Manager ออนไลน์สำหรับโรงแรมของคุณ
การเลือก Channel Manager สำหรับโรงแรมของคุณนั้น สำคัญที่สุดคือต้องตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของโรงแรมคุณให้ได้
โดยส่วนใหญ่แล้ว คุณต้องดูว่า Channel Manager ของคุณสามารถเชื่อมต่อกับช่องทางที่คุณต้องการได้ และสามารถทำงานร่วมกับระบบจัดการโรงแรมและระบบจองของคุณได้ด้วย รวมถึงการทำงานแบบเรียลไทม์ สร้างรายงานผลงานได้ และมีทีมซัพพอร์ตพร้อมช่วยเหลือตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ระบบหยุดชะงัก
ไม่ว่าโรงแรมของคุณจะมีขนาดเท่าใด คุณควรถามคำถามเหล่านี้กับผู้ให้บริการ Channel Manager ก่อนตัดสินใจเลือกใช้:
- เชื่อมต่อกับระบบจัดการโรงแรมของคุณได้อย่างดีไหม?
- รองรับการเชื่อมต่อกับช่องทางทั่วโลกผ่าน XML แบบเสถียรได้หรือเปล่า?
- หน้าจอใช้งานง่ายไหม?
- มีการสอนและซัพพอร์ตที่ดีพอไหม โดยเฉพาะในภาษาของคุณ?
- ใช้ระบบรวมจำนวนห้องพักหรือเปล่า?
- มีระบบรายงานแบบครบวงจรไหม?
- เชื่อมต่อกับระบบจองออนไลน์ของคุณได้ไหม?
- อัปเดตข้อมูลแบบอัตโนมัติและเรียลไทม์ได้ไหม?
- ใช้เวลานานแค่ไหนในการติดตั้งระบบ?
- ซอฟต์แวร์ได้มาตรฐาน PCI DSS ไหม?
- มีช่องทางให้ฟีดแบ็คเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ไหม?
- รองรับการใช้งานพร้อมกันหลายคนได้ไหม?
- มีให้ทดลองใช้ฟรีไหม?
- คิดราคายังไง? ต่อช่องทาง ต่อการจอง หรือเหมาจ่าย?
นี่แค่ส่วนหนึ่ง ยังมีคำถามอีกเยอะ! ลองดูวิดีโอสาธิต Channel Manager ของ SiteMinder สิ ว่าเหมาะกับคุณไหม?
การลงทุนในเทคโนโลยีจัดการช่องทางการจองสำหรับโรงแรม
ก่อนลงทุนในเทคโนโลยีจัดการช่องทางการจอง คุณควรรู้ว่าต้องเจออะไรบ้าง เตรียมตัวให้พร้อม คุณจะแยกแยะได้ว่าอันไหนดีหรือไม่ดี และรู้ว่าเมื่อไหร่ควรขอความช่วยเหลือ
นี่คือสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับราคา การติดตั้ง การฝึกอบรม และการซัพพอร์ต:
ราคาและการติดตั้ง Channel Manager สำหรับโรงแรมของคุณ
โดยทั่วไป เทคโนโลยีนี้จะคุ้มค่าหรือไม่นั้น ตัดสินจากผลลัพธ์ที่ได้ ซึ่งคุณก็ควรรู้ว่าซอฟต์แวร์ใหม่นี้ใช้งานยังไง มีประโยชน์อะไรบ้าง รูปแบบการคิดราคามีหลากหลาย บางที่อาจคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากค่าคอมมิชชั่น คล้ายๆ กับ OTA ส่วนบางแพลตฟอร์มอาจคิดตามจำนวนช่องทางที่คุณเชื่อมต่อ
อีกแบบที่น่าสนใจคือการจ่ายค่าบริการรายเดือนแบบเหมาจ่าย ทำให้คุณรู้แน่นอนว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ในแต่ละเดือน เพราะราคาไม่เปลี่ยนแปลง และคุณสามารถเชื่อมต่อกับช่องทางได้ไม่จำกัด รับการจองได้เท่าไหร่ก็ได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่ม
ค่าบริการรายเดือนที่ดีควรไม่มีสัญญาผูกมัด คุณสามารถยกเลิกการใช้ Channel Manager ได้ทุกเมื่อ และหยุดจ่ายเงินได้ทันที แต่ถ้าคุณไม่มีปัญหากับการทำสัญญา ก็จะได้ส่วนลดเป็นการตอบแทน
เพื่อความพึงพอใจสูงสุด คุณควรได้ประสบการณ์ที่เป็นการ ‘เสียบปลั๊กแล้วใช้ได้เลย’ เนื่องจาก Channel Manager ที่ดีส่วนใหญ่จะมีช่วงทดลองใช้ฟรี การติดตั้งจะเป็นส่วนหนึ่งของช่วงนี้ ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่ต้องจ่ายเงินจริงๆ ก็ไม่ต้องติดตั้งอะไรเพิ่มเติมแล้ว
การฝึกอบรมการใช้ Channel Manager
Channel Manager ที่ดี คุณจะได้รับการดูแลจากทีมงานที่ใส่ใจสัก 2-3 คนในการติดตั้งและฝึกอบรม แบบนี้คุณจะรู้ว่าต้องติดต่อใครเมื่อมีปัญหา การฝึกอบรมอาจเป็นกลุ่มหรือรายบุคคลขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ โดยทั่วไปแล้วไม่ควรใช้เวลาเกินสองสามวันในการเริ่มต้นใช้งานจริง
การซัพพอร์ตสำหรับการจัดการช่องทางการจอง
เช่นเดียวกับการติดตั้งและฝึกอบรม เวลาไม่เคยรอใคร ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นที่โรงแรมของคุณ ต้องแก้ไขให้เร็วที่สุด การซัพพอร์ตตลอด 24 ชั่วโมงเป็นสิ่งจำเป็น รวมถึงต้องมีทีมซัพพอร์ตที่พูดภาษาของคุณได้และเข้าใจสถานการณ์ของโรงแรมคุณ การที่สามารถติดต่อคนจริงๆ ได้ทุกเมื่อที่ต้องการความช่วยเหลือก็สำคัญมาก
คุณคงไม่อยากต้องส่งคำร้องหรือแจ้งปัญหา แล้วรอเป็นชั่วโมงหรือเป็นวันเพื่อให้แก้ไขปัญหาเร่งด่วนของโรงแรมคุณ โรงแรมของคุณเปิดตลอดเวลา ดังนั้นผู้ให้บริการเทคโนโลยีของคุณก็ต้องพร้อมซัพพอร์ตตลอดเวลาเช่นกัน