Skip to main content

มาตรฐานการจัดอันดับระดับดาวของโรงแรม

  โพสต์ใน แหล่งข้อมูล   ปรับปรุงล่าสุด 26/06/2024

มาตรฐานการจัดอันดับระดับดาวของโรงแรม

ระดับดาวของโรงแรมคืออะไร?

ระดับดาวของโรงแรมคือตัวชี้วัดคุณภาพ ความสะอาดและมาตรฐานของโรงแรมที่ผ่านการยอมรับในระดับสากล ยิ่งได้รับระดับดาวสูง ก็จะยิ่งมีมาตรฐานการบริการสูงตามไปด้วย เช่น โรงแรม 1 ดาวให้บริการในระดับพื้นฐาน ในขณะที่โรงแรม 5 ดาว จะมอบประสบการณ์การเข้าพักหรูหราระดับไฮเอนท์

ระบบจัดระดับดาวของโรงแรมคืออะไร?

ระบบการจัดระดับดาวของโรงแรมอาจยังไม่แน่นอนหรือไม่มีเหตุผลชัดเจน แต่โดยทั่วไปแล้ว แขกมักจะนำมาใช้ในการตัดสินใจเลือกที่พักที่ดีที่สุด ถึงแม้ว่าจะมีมาตรฐานจัดระดับดาวหลายองค์กรในประเทศต่าง ๆ แต่ก็จัดอยู่ภายใต้แนวคิดพื้นฐาน นั่นก็คือ การมีระดับดาวสูงหมายถึงการให้บริการโดยรวมแก่ผู้เข้าพักที่ดีกว่า จึงเป็นเส้นทางสู่การดึงดูดความสนใจของลูกค้าในอนาคตด้วย

โดยพื้นฐานแล้ว ระดับดาวโรงแรมเป็นข้อพิสูจน์ทางสังคมที่มีอิทธิพลอย่างมาก โดยจะมาจากรีวิวของผู้เชี่ยวชาญและ/หรือแขกคนอื่น ๆ ซึ่งถือเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่มีคุณค่าหากคุณได้รับคะแนนการประเมินที่ดี

บล็อกนี้ จะพาคุณไปทำความรู้จักกับมาตรฐานการจัดระดับดาวโรงแรม – ความหมาย หลักการทำงาน และวิธีนำไปใช้กับธุรกิจโรงแรมของคุณ

สารบัญ

ความสำคัญของการจัดระดับดาวสำหรับธุรกิจโรงแรม

ระดับดาวโรงแรมเป็นการให้คะแนนที่เป็นอิสระและประเมินตามหลักเกณฑ์อย่างเป็นกลาง จึงเป็นระบบที่เชื่อถือได้ ซึ่งช่วยให้แขกเข้าใจถึงสิ่งที่พวกเขาสามารถคาดหวังได้อย่างสมเหตุสมผลเมื่อเข้าพักในโรงแรมนั้น ๆ 

ความเข้าใจระดับคุณภาพของโรงแรมจะช่วยให้แขกสามารถเปรียบเทียบโรงแรมและตัดสินใจจองห้องพักได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น แขกอาจจะต้องการทราบว่าโรงแรมระดับ 5 ดาวที่ใดราคาถูกที่สุด? หรือการจ่ายเงินเพิ่มสำหรับโรงแรม 5 ดาวคุ้มค่ากว่าการพักโรงแรม 3 ดาวหรือไม่ ดังนั้น ระดับดาวถือเป็นข้อมูลที่ช่วยให้การเปรียบเทียบและตัดสินใจเข้าพักโรงแรมเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น

ความหมายของระดับดาวสำหรับธุรกิจโรงแรม

ระดับดาวโรงแรมเป็นการประเมินที่เป็นอิสระและประเมินตามหลักเกณฑ์อย่างเป็นกลาง จึงเป็นระบบที่มีความน่าเชื่อถือและช่วยให้แขกเข้าใจถึงความคาดหวังในการเข้าพัก

มาตรฐานระดับดาวโรงแรมเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากเป็นความเข้าใจเกี่ยวกับคุณภาพของโรงแรม ซึ่งช่วยให้แขกมีสามารถเปรียบเทียบและตัดสินใจในการจองห้องพักได้ง่ายขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น แขกต้องการทราบว่าโรงแรม 5 ดาวที่ใดราคาถูกที่สุด? หรือการเพิ่มเงินเพื่อเข้าพักโรงแรม 5 ดาวคุ้มค่ากว่าการพักโรงแรม 3 ดาวหรือไม่ ข้อมูลระดับดาวจึงเป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกในการเปรียบเทียบและตัดสินใจสำหรับการเข้าพักโรงแรม

More success, less work

What if you could boost your property's performance while reducing your workload? Our smart hotel platform helps you do exactly that.

Learn more

หลักเกณฑ์มาตรฐานของระดับดาวโรงแรม

โดยปกติแล้ว การจัดอันดับดาวของโรงแรมมี 1 – 5 ระดับ ยิ่งระดับดาวมากขึ้นก็จะยิ่งมีความหรูหรามากขึ้น (และราคาสูงขึ้นด้วย) ซึ่งเป็นระบบให้คะแนนที่มีมาตรฐานตามลำดับระหว่างระดับล่างสุดและระดับสูงสุด 

โดยความหมายของระดับดาวโรงแรมในประเทศออสเตรเลีย มีดังนี้

ความหมายของโรงแรมระดับ 1 ดาว

สำหรับผู้ที่ต้องการที่พักระดับพื้นฐาน โรงแรมระดับ 1 ดาวเป็นทางเลือกที่เหมาะสม โดยโรงแรมระดับนี้จะให้บริการห้องพักที่สะอาดและปลอดภัยตามหลักความสะดวกและความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน แม้ราคาจะเป็นมิตรกับงบประมาณ แต่ก็อาจจะมีตัวเลือกบริการที่มีใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อยกระดับการเข้าพักให้ดีขึ้น

โรงแรมระดับ 1 ดาวเหมาะสำหรับนักเดินทางที่ให้ความสำคัญกับราคา โดยพิจารณาถึงความคุ้มค่าและความสะดวกสบายที่จำเป็นในระหว่างการเดินทางเป็นหลัก

ความหมายของโรงแรมระดับ 2 ดาว

โรงแรมระดับ 2 ดาว เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่ใส่ใจเรื่องราคาแต่ก็ต้องการมองหาความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อย ซึ่งโรงแรมระดับนี้จะให้บริการห้องพักมาตรฐานทั่วไป พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพื้นฐานที่ค่อนข้างจำกัดโดยเน้นเฉพาะสิ่งที่จำเป็น การบริการที่มีรวดเร็วและมีประสิทธิภาพจะช่วยให้การเข้าพักสะดวกสบายและไม่มีปัญหายุ่งยาก ทำให้เป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผลสำหรับงบประหยัด

การรวมของความสบายและความคุ้มค่าไว้อย่าลงตัวทำให้โรงแรมระดับ 2 ดาวเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการเข้าพักระยะสั้นหรือการเดินทางเพื่อธุรกิจ

ความหมายของโรงแรมระดับ 3 ดาว

โรงแรมระดับ 3 ดาวเป็นตัวเลือกที่ลงตัวสำหรับผู้ที่ต้องการที่พักมาตรฐารสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไป เนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งแขกสามารถเพลิดเพลินไปกับห้องพักที่ได้รับการตกแต่งอย่างครบครัน โดยมีการเพิ่มเติมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสบการณ์การเข้าพักให้ดีมากยิ่งขึ้น พร้อมการให้บริการที่มีคุณภาพและเน้นความสำคัญไปยังการสร้างความพึงพอใจให้แก่แขก เป็นที่พักที่มีความลงตัวระหว่างความสะดวกสบาย คุณภาพ และความคุ้มค่า

โรงแรมระดับนี้เหมาะสำหรับการเดินทางเพื่อพักผ่อนและเชิงธุรกิจ จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่มีความต้องการหลากหลายในการเดินทาง

ความหมายของโรงแรมระดับ 4 ดาว

โรงแรมระดับ 4 ดาวเป็นตัวเลือกสำหรับแขกที่ต้องการที่พักมาตรฐานระดับสูง ซึ่งจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกคุณภาพสูงมากมายพร้อมกับการออกแบบและตกแต่งที่หรูหรางดงาม อีกทั้งยังให้บริการที่ยอดเยี่ยม ใส่ใจรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้เป็นประสบการณ์การเข้าพักที่น่าจดจำสำหรับแขก

โรงแรมระดับ 4 ดาวเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความลงตัวระหว่างความหรูหราและความสะดวกสบาย เหมาะสำหรับโอกาสพิเศษและนักเดินทางตัดสินอย่างรอบคอบเพื่อตัวเลือกที่ดีที่สุด

ความหมายของโรงแรมระดับ 5 ดาว

สำหรับแขกที่ต้องการความหรูหราและบริการที่ดีที่สุด โรงแรม 5 ดาวเป็นตัวเลือกระดับพรีเมียมที่ตอบโจทย์ เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับท็อปมากมาย พร้อมการตกแต่งอันสวยงามด้วยดีเทลสุดหรูหราตระการตา

โดยให้บริการอย่างครอบคลุมและตอบสนองทุกความต้องการของแขกเป็นรายบุคคล ซึ่งระดับความหรูหราและไม่เหมือนใครนี้ ทำให้การเข้าพักโรงแรมระดับ 5 ดาวเป็นประสบการณ์แสนพิเศษและน่าจดจำ สำหรับแขกคนสำคัญอย่างแน่นอน

โรงแรม 5 ดาวหมายถึงอะไร?

กลุ่มของโรงแรมระดับ 5 ดาวรวมถึงโรงแรมสไตล์หรูหราและมีชื่อเสียงโด่งดังมากจากทั่วโลก ตั้งแต่โรงแรม Burj al Arab สัญลักษณ์ของดูไบ ไปจนถึงโรงแรม The Plaza ที่มิดทาวน์แมนฮัตตันสุดหรู และโรงแรม The Westin Excelsior ที่มีประวัติศาสตร์ในโรม เป็นต้น

การให้บริการ สิ่งอำนวยความสะดวก การออกแบบและการตกแต่ง ทุกอย่างล้วนอยู่เกรดพรีเมียมและเป็นส่วนตัว เพื่อให้แขกสามารถพักผ่อนและเพลิดเพลินไปกับความสะดวกสบายและหรูหราของบรรยากาศโดยรอบพร้อมบริการระดับมืออาชีพที่พร้อมรับมือกับทุกความต้องการของแขก

อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กๆ ทุกส่วนของการบริการ เช่น:

  • ชุดอุปกรณ์ในห้องน้ำระดับไฮเอนด์
  • บริการเปิดเตียงตอนกลางคืน (Turndown Service) เช่น เก็บผ้าคาดเตียง เปิดผ้าห่มรวมถึงปิดม่านให้ วางขนม น้ำ และรองเท้าสลิปเปอร์ให้ข้างเตียง เป็นต้น
  • เสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าสลิปเปอร์
  • ทีมแพทย์พร้อมให้บริการตลอดเวลา
  • สมาร์ททีวีพร้อมบริการสตรีมมิ่งฟรี
  • หนังสือพิมพ์รายวันที่หลากหลาย
  • แสงสว่างของห้องในตอนกลางคืน
  • เมนูหมอน (Pillow Menu)
  • ม่านบังแสง
  • บริการที่สระว่ายน้ำ

นอกจากนี้ บางครั้งอาจมีการเพิ่มคะแนนครึ่งดาวในกรณีที่โรงแรมอยู่ระหว่างการจัดอันดับดาว

Image explaining hotel star rating system

หลักเกณฑ์การจัดระดับดาวของโรงแรม

คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของระบบการจัดระดับดาวโรงแรมคือความเป็นอิสระและเป็นกลาง – ดังนั้น ทางโรงแรมจึงไม่สามารถจัดอันดับให้ตัวเองได้ ซึ่งผู้เข้าพักเองก็ต้องการคะแนนที่ไม่มีความลำเอียงเพื่อประกอบการตัดสินใจ

ยกตัวอย่างจากประเทศออสเตรเลียอีกครั้ง ระดับดาวโรงแรมจะถูกประเมินด้วยหลักเกณฑ์กว่า 200 รายการโดยนักเดินทางชาวออสเตรเลีย ซึ่งสัญลักษณ์ดาวเป็นเครื่องหมายการค้าที่ได้รับใบอนุญาตเป็นส่วนหนึ่งของระบบการจัดอันดับโรงแรม และสามารถใช้ได้เฉพาะโรงแรมที่ได้รับใบอนุญาตจากสมาคมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของออสเตรเลีย (ATIC) เท่านั้น – หมายความว่าผู้เข้าพักสามารถมั่นใจในระบบการจัดอันดับนี้ได้

หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับโรงแรมรวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวก, คุณภาพของที่พัก, ความสะอาด, บริการด้านอาหาร, ความบันเทิง, วิว, ประเภทของห้องพักที่หลากหลาย, ความสะดวกในการเข้าถึง, สถานที่ตั้ง และอื่น ๆ อีกมากมาย

อย่างไรก็ตาม ระบบการจัดอันดับโรงแรมยังไม่มีหลักเกณฑ์ระดับสากลที่ยอมรับกันทั่วโลกอย่างเป็นทางการ จึงทำให้ระบบนี้ยังคงดูสับสนเมื่อต้องเปรียบเทียบโรงแรมระดับ 5 ดาวในสหรัฐอมเริกากับยุโรป 

ผู้ประเมินระดับดาวโรงแรมคือใคร?

ในภูมิภาคและประเทศต่าง ๆ มีระบบการจัดอันดับเป็นของตนเอง ซึ่งบริหารจัดการโดยองค์กรต่าง ๆ โดยแต่ละองค์กรมีหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินที่แตกต่างกันตามรูปแบบขององค์กรนั้น ๆ และนี่คือภาพรวมของบางองค์กรที่มีชื่อเสียงทั่วโลกที่ประเมินการจัดอันดับระดับดาวให้กับโรงแรม:

AAA (American Automobile Association) – อเมริกาเหนือ

AAA เป็นหนึ่งในองค์กรที่มีชื่อเสียงที่สุดสำหรับการจัดอันดับโรงแรมในสหรัฐอเมริกา องค์กรนี้ใช้ระบบการจัดอันดับแบบเพชร (Diamond Rating System) เริ่มตั้งแต่ 1 – 5 เพชร เพื่อประเมินคุณภาพของโรงแรมตามหลักเกณฑ์หลายอย่าง เช่น ความสะดวกสบาย ความสะอาด ความปลอดภัย และความพร้อมให้บริการ เป็นต้น

คู่มือการท่องเที่ยว Forbes – ทั่วโลก

Forbes Travel Guide หรือ คู่มือการท่องเที่ยว Forbes เป็นองค์กรที่มีชื่อเสียงด้านกระบวนการตรวจสอบที่เข้มงวดและเป็นอิสระ เป็นระบบการจัดอันดับโรงแรม 1 – 5 ดาวระดับนานาชาติ โดยเน้นไปยังโรงแรมสไตล์หรูหราเป็นหลัก ซึ่งเกณฑ์การประเมินของ Forbes ไม่เพียงแค่ดูเรื่องคุณภาพของโรงแรมและสิ่งอำนวยความสะดวกเท่านั้น แต่ยังเจาะลึกไปถึงระดับของการให้บริการด้วย

AA (Automobile Association) – สหราชอาณาจักร

ในสหราชอาณาจักร ระบบการจัดอันดับดาวของ AA ได้รับการยอมรับในวงกว้าง โดยพิจารณาประเมินจากหลายปัจจัย เช่น การต้อนรับ การบริการ ความสะอาด และห้องนอน ซึ่งมีช่วงคะแนนตั้งแต่ 1 – 5 ดาว และอื่น ๆ เพิ่มเติมสำหรับโรงแรมระดับไฮเอนด์

DEHOGA (องค์กรสำหรับโรงแรมและร้านอาหารในเยอรมัน) – เยอรมนี

DEHOGA เป็นระบบจัดอันดับโรงแรมตั้งแต่ 1 – 5 ดาวในเยอรมนีโดยอิงจากหลักเกณฑ์ต่าง ๆ เช่น คุณภาพของห้องพัก การบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งจะให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและประสบการณ์ของแขกเป็นพิเศษ

องค์กรจัดอันดับการท่องเที่ยวแห่งแอฟริกาใต้ (TGCSA) – แอฟริกาใต้

ในแอฟริกาใต้ การจัดอันดับโรงแรมของ TGCSA มีการให้คะแนนตั้งแต่ 1 – 5 ดาว ซึ่งจะเน้นการให้มาตรฐานที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือสำหรับนักท่องเที่ยว โดยประเมินด้านบริการลูกค้า ความสะอาด และคุณภาพของสิ่งอำนวยความสะดวก เป็นต้น

สมาคมโรงแรม Hotelstars Union – ยุโรป

Hotelstars Union เป็นพันธมิตรของสมาคมโรงแรมในยุโรปที่จัดระดับดาวโรงแรมตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนการประเมินมาตรฐานเดียวกันในประเทศสมาชิก โดยมีการจัดอันดับตั้งแต่ 1 – 5 ดาวจากการประเมินของสิ่งอำนวยความสะดวก คุณภาพของการบริการ และประสบการณ์การเข้าพักโดยรวมของแขก

มิชลินไกด์ – ทั่วโลก

ถึงแม้มิชลินไกด์จะเป็นที่รู้จักสำหรับการจัดอันดับร้านอาหาร แต่ความจริงแล้วยังรวมถึงโรงแรมด้วย โดยเฉพาะในยุโรปและเอเชีย โดยเน้นไปยังโรงแรมหรูและสไตล์บูทีค มีหลักการประเมินจากความสะดวกสบาย คุณภาพ และการบริการเพื่อให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือสำหรับนักเดินทางที่ชอบมองหาสถานที่ที่มีคุณภาพและบริการที่ดี

JTB (Japan Travel Bureau) – ญี่ปุ่น

ในประเทศญี่ปุ่น JTB ให้บริการระบบการจัดอันดับโรงแรมโดยประเมินจากสิ่งอำนวยความสะดวก การบริการ และความเป็นมิตร ระบบของญี่ปุ่นยังให้ความสำคัญกับลักษณะเฉพาะสไตล์ที่พักญี่ปุ่นดั้งเดิมที่เรียกว่า “Ryoukans” อีกด้วย

ตัวอย่างเกณฑ์การจัดระดับดาวโรงแรม

คุณอาจจะสงสัยว่า: โรงแรมได้รับดาวอย่างไร? ซึ่งขึ้นอยู่กับระบบการให้คะแนนที่คุณได้รับการยอมรับ แต่มีบางแง่มุมที่โรงแรมระดับสูงมีความเชี่ยวชาญและคาดว่าเกณฑ์การประเมินโรงแรม ดังนี้:

  • คุณภาพห้องพัก: ขนาดที่สะดวกสบาย ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่มีคุณภาพ การเก็บเสียง ระบบปรับอากาศ/ระบบทำความร้อน และความสะอาดที่มีประสิทธิภาพ
  • สิ่งอำนวยความสะดวก: สิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น เช่น ห้องอาหาร ฟิตเนส และการเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่มีคุณภาพ
  • มาตรฐานห้องน้ำ: ความสะอาด มีน้ำร้อน และอุปกรณ์ตกแต่งที่มีคุณภาพ
  • การบริการ: พนักงานระดับมืออาชีพ ระบบการเช็คอิน-เช็คเอาท์ที่ดี และการรับมือจัดการกับคำร้องขอจากแขกอย่างมีประสิทธิภาพ
  • อาหารและเครื่องดื่ม: ตัวเลือกการรับประทานอาหารที่หลากหลายและคุณภาพสูง รวมถึงบริการรูมเซอร์วิส
  • ความปลอดภัยและความมั่นคง: มาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดและการปฏิบัติตามกฎระเบียบเกี่ยวกับความปลอดภัยอย่างเป็นระบบ
  • การซ่อมบำรุง: มีการบำรุงรักษาประจำของโรงแรม รวมถึงพื้นที่ร่วมและสิ่งอำนวยความสะดวก
  • สถานที่ตั้ง: ใกล้เคียงกับสถานที่ท่องเที่ยวและสถานีรถรับ-ส่ง และความสะดวกในการเดินทางไปยังสถานที่นั้น ๆ
  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: มีแนวทางการปฏิบัติที่ยั่งยืนและการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • คุณสมบัติพิเศษ: เช่น สิ่งอำนวยความสะดวกหรือบริการเฉพาะโรงแรมของคุณที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การเข้าพักที่ดีให้กับแขก

วิธีตรวจสอบระดับดาวโรงแรมของคุณ

มีหลายวิธีที่เจ้าของโรงแรมสามารถตรวจสอบระดับดาวในอดีตและปัจจุบันของโรงแรมตนเอง แต่ขอย้ำอีกครั้งว่าการจัดอันดับขึ้นอยู่กับแต่ละหน่วยงาน จึงมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งสามารถเริ่มต้นได้จากปัจจัย ดังนี้:

  1. ตรวจสอบเอกสาร: หน่วยงานจัดอันดับโรงแรมหลายแห่งมักจะส่งเอกสารที่เป็นกระดาษสำหรับการจัดอันดับล่าสุดไปยังสถานที่ต่าง ๆ ลองตรวจสอบดูว่าคุณได้รับเอกสารดังกล่าวหรือไม่
  2. ติดต่อองค์กรโดยตรง: บางครั้งวิธีที่ง่ายที่สุดคือสิ่งที่ดีที่สุด ติดต่อหน่วยงานที่จัดอันดับโรงแรมในพื้นที่ของคุณและขอรายการอัปเดตระดับดาวปัจจุบันโดยตรง
  3. ตรวจสอบเว็บไซต์ทางการ: หน่วยงานจัดอันดับหลายแห่งมีการเผยแพร่การจัดอันดับโรงแรมบนเว็บไซต์ทางการของพวกเขา ค้นหาชื่อโรงแรมของคุณเพื่อดูว่ามีรายชื่อหรือไม่
  4. สอบถามจากองค์กรการท่องเที่ยวในพื้นที่: บางครั้งองค์กรการท่องเที่ยวในพื้นที่จะมีบันทึกและข้อมูลการจัดอันดับโรงแรมล่าสุด รวมถึงเว็บไซต์ของรัฐบาลในพื้นที่บางแห่ง แม้ว่าอาจจะตรวจสอบได้ยากขึ้นก็ตาม

วิธีเพิ่มระดับดาวให้กับโรงแรมของคุณ

การยกระดับโรงแรมของคุณให้ได้รับคะแนนดาวที่สูงขึ้นสามารถช่วยเพิ่มอัตราการเข้าพักให้มากขึ้นในราคาที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่จะทำได้อย่างไร? และนี่คือเคล็ดลับที่ดีที่สุดของเรา:

1. พูดคุยกับหน่วยงานที่ประเมินโรงแรมของคุณ

พวกเขาสามารถบอกถึงเกณฑ์การประเมินที่ใช้ในการจัดอันดับและจุดที่คุณอาจจะต้องปรับปรุงหรือเพิ่มเติมเพื่อก้าวไปสู่ระดับถัดไปได้

2. ยกระดับความสะอาดและความสบาย

ข้อนี้อาจเป็นการลงทุนด้วยต้นทุนต่ำแต่สามารถสร้างความแตกต่างต่อความพึงพอใจของแขกได้อย่างมาก

3. พัฒนาการดำเนินงานของโรงแรม

จัดการสร้างระบบการดำเนินงานที่ดีขึ้นเพื่อการให้การบริการลูกค้าที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

4. เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก

สระว่ายน้ำ ยิม เมนูอาหารที่หลากหลาย บริการสตรีมมิ่ง และอื่น ๆ ที่มักมีความสำคัญในการจัดระดับดาว

5. เพิ่มเมนูอาหารและเครื่องดื่ม

พิจารณาเมนูให้มีความหลากหลายพร้อมด้วยคุณภาพและวัตถุดิบในพื้นที่ อย่าลืมนำเสนอเมนูพิเศษ เช่น อาหารมังสวิรัติ อาหารวีแกน หรืออาหารกลูเตนฟรีที่สามารถรองรับแขกได้หลายประเภทในวงกว้าง

และควรโฟกัสไปถึงบรรยากาศของห้องอาหาร – บรรยากาศที่มีเสน่ห์สามารถสร้างแรงดึงดูดและยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหารโดยรวมได้ อีกทั้งควรฝึกอบรมพนักงานในเรื่องการบริการสำหรับอาหาร และอาจแนะนำการรับประทานอาหารตามธีมยามค่ำคืนหรือเมนูพิเศษจากเชฟ จะสามารถเพิ่มความน่าสนใจให้กับแขกได้

6. ยกระดับให้ทันสมัยด้วยการอัปเกรดเทคโนโลยี

การนำเสนอฟีเจอร์ห้องพักอัจฉริยะ เช่น ระบบไฟอัตโนมัติ การควบคุมอุณหภูมิ และผู้ช่วยดิจิทัล สามารถเพิ่มความสะดวกสบายให้กับแขกได้อย่างมาก รวมถึงการมีแอปพลิเคชันของโรงแรมบนมือถือเพื่อความสะดวกในการเช็คอิน สั่งรูมเซอร์วิส และให้ข้อมูลสถานที่ต่าง ๆ จะช่วยยกระดับประสบการณ์ของแขกได้ นอกจากนี้ ควรพิจารณาอัปเกรดระบบ Wi-Fi เพื่อให้มีการเชื่อมต่อความเร็วสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับนักเดินทางยุคใหม่

คำนึงไว้เสมอว่าเทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เช่น ระบบการจองห้องพักที่ทันสมัยหรือเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล มีส่วนสำคัญในการเพิ่มคะแนนดาวผ่านการบริการที่ดีขึ้น เร็วขึ้น และใส่ใจเป็นรายบุคคลมากขึ้น

7. ตอบรับต่อคำแนะนำ/ข้อเสนอแนะของแขก

ใช้เครื่องมือรวบรวมคำติชมผ่านแบบสำรวจ รีวิวออนไลน์ หรือจากการสอบถามโดยตรง พร้อมตอบสนองความคิดเห็นเชิงลบทันทีและชัดเจน แสดงให้แขกและผู้ประเมินเห็นว่าคุณให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของพวกเขาอย่างจริงจัง ใช้ข้อมูลเชิงลึกจากคำติชมเพื่อปรับให้ได้ตามเป้าหมายด้านต่างๆ เช่น การบริการ สิ่งอำนวยความสะดวกภายนอกหรือภายในห้องพักของแขก

การแสดงประวัติเปลี่ยนแปลงเชิงบวกตามคำแนะนำของแขกจะเป็นตัวชี้วัดว่าโรงแรมของคุณใส่ใจต่อการยกระดับเพื่อความเป็นเลิศและความพึงพอใจของแขก

โดย Dean Elphick

ดีนคือผู้เชี่ยวชาญการตลาดเนื้อหาซีเนียร์ของ SiteMinder, ผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำที่ส่งผลกำไรที่ไม่เคยมีให้แก่เจ้าของโรงแรม. ดีนมีความสนใจในการเขียนและสร้างเนื้อหามาเป็นที่รักในชีวิตอาชีพของเขาทั้งหมด, ซึ่งรวมถึงมากกว่าหกปีที่ SiteMinder. ผ่านทางเนื้อหา, ดีนมีเป้าหมายที่จะให้การศึกษา, แรงบันดาลใจ, ความช่วยเหลือ และค่าความพิเศษให้แก่ธุรกิจที่ให้บริการที่ต้องการปรับปรุงวิธีการทำงานและบรรลุเป้าหมายของพวกเขา.