ตำแหน่งงานในโรงแรมคืออะไร?
ตำแหน่งงานในโรงแรม ครอบคลุมทั้งความรับผิดชอบทั้งฝ่ายหน้าบ้านและฝ่ายหลังบ้าน งานด้านการบริการมักมีความสนใจค่อนข้างสูง เป็นช่องทางที่ดีในการเข้าสู่ตลาดงานบริการ ซึ่งเปิดโอกาสให้นายจ้างจ้างพนักงานทั้งอายุน้อยและต้องการประสบการณ์ โดยตำแหน่งงานในโรงแรมรวมถึงพนักงานต้อนรับ พ่อครัว พนักงานทำความสะอาด ผู้บริหารฝ่ายขาย หรือผู้จัดการบริหารรายได้โรงแรม
แขกในโรงแรมอาจมีปฏิสัมพันธ์กับคนเพียงไม่กี่คน แต่เบื้องหลังมีตำแหน่งงานในโรงแรมที่แตกต่างกันมากมาย บางทีอาจจะมีพนักงานประจำหลายสิบคนเข้าเวรเวลาเดียวกัน โดยขึ้นอยู่กับขนาดของโรงแรม
มาดูตำแหน่งงานต่างๆ ที่มีอยู่ในอุตสาหกรรมโรงแรมกันดีกว่า
สารบัญ
ตำแหน่งงานในโรงแรมมีอะไรบ้าง?
โรงแรมเป็นธุรกิจที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและต้องการทักษะที่หลากหลาย ดังนั้นบรรดาตำแหน่งงานในโรงแรมจึงค่อนข้างกว้าง แต่จริงๆ แล้วตำแหน่งงานในโรงแรมที่ขาดไม่ได้ มีอะไรบ้างล่ะ?
ชื่อตำแหน่งงานด้านการบริการอาจทำให้สับสนเล็กน้อย เนื่องจากตำแหน่งงานต่างๆ มักจะมีการทับซ้อนกันมากมาย หากคุณกำลังมองหางานในโรงแรม คุณจะต้องพร้อมที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในหลายสกิล
ในคู่มือเกี่ยวกับงานในอุตสาหกรรมโรงแรมนี้ เราจะมาดูตำแหน่งงานในธุรกิจโรงแรมที่มีบทบาททำให้โรงแรมดำเนินงานได้อย่างราบรื่น
เพิ่มศักยภาพการทำงานของพนักงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เสริมประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานและเพิ่มความพึงพอใจของแขกด้วยระบบอัจฉริยะของเรา
ประเภทของงานในโรงแรม
ธุรกิจโรงแรมมีตำแหน่งอะไรบ้างที่ต้องรู้?
ในคู่มือนี้ เราได้แจกแจงตำแหน่งโรงแรมและลักษณะงานต่างๆ ออกเป็นประเภทต่างๆ ต่อไปนี้:
- แผนกการจัดการโรงแรม
- แผนกต้อนรับ
- แผนกทำความสะอาด
- แผนกการตลาด
- แผนกอาหารและเครื่องดื่ม
หน้าที่ในโรงแรมที่คุณอาจจะนึกถึงเป็นอันดับแรกคือแผนกต้อนรับ เนื่องจากทีมงานเหล่านี้มักจะเป็นคนแรกที่ต้อนรับแขกใหม่เมื่อมาถึง
ตำแหน่งแผนกต้อนรับในโรงแรม รวมทั้งผู้จัดการไปจนถึงพนักงานต้อนรับ ตำแหน่งเหล่านี้ล้วนเป็นตำแหน่งที่ต้องพบปะกับลูกค้าและต้องการทักษะบุคลากรที่เป็นเลิศ โดยไม่คำนึงถึงระดับขั้น
1. ผู้จัดการโรงแรม
ในบรรดาตำแหน่งหน้าบ้านในโรงแรมทั้งหมด ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งสูงที่สุด วัตถุประสงค์ของหน้าที่นี้คือคอยตรวจเช็คว่าแขกทุกคนได้รับการบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม มีหน้าที่ฝึกอบรมและการจัดการตำแหน่งแผนกต้อนรับในจุดอื่นๆของโรงแรม เช่น พนักงานต้อนรับและผู้ช่วยพิเศษ (Concierge)
หัวใจหลักของตำแหน่งงานนี้ ได้แก่ ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนที่ยอดเยี่ยม ความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ และประสบการณ์การคุมงานในด้านงานบริการมาก่อน
2. ผู้ช่วยผู้จัดการโรงแรม
นี่เป็นตำแหน่งงานในระดับรองลงมาแต่ยังคงเป็นการคุมงานเช่นกัน ซึ่งต้องใช้ประสบการณ์ในการบริการและความรู้ในการทำงานด้านการดำเนินงานโรงแรมในแต่ละวัน
หัวใจสำคัญของตำแหน่งนี้ ได้แก่ ทักษะด้านผู้คน ความใส่ใจในรายละเอียด ทักษะความเป็นผู้นำที่ดีและประสบการณ์ในการบริการลูกค้า
3. พนักงานต้อนรับของโรงแรม
ถือว่าเป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุดของโรงแรมอีกตำแหน่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นหน้าตาของโรงแรม พนักงานต้อนรับคือคนแรกและคนสุดท้ายที่แขกมีปฏิสัมพันธ์ด้วย
หน้าที่รวมถึงการทักทายแขก ทำการรับจอง การติดต่อทางโทรศัพท์ และการจัดการข้อร้องเรียนต่างๆ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับโรงแรมและการฝึกอบรม นี่อาจเป็นตำแหน่งระดับเริ่มต้น ซึ่งการมีประสบการณ์ในงานด้านบริการมาก่อน มักจะได้รับการพิจารณาเลือกเป็นพิเศษ
คุณสมบัติที่สำคัญสำหรับตำแหน่งงานนี้ ได้แก่ ทักษะด้านผู้คนที่แข็งแกร่ง ทักษะการบริการลูกค้าที่เป็นเลิศ ทักษะด้านไอทีที่ดี ทักษะในองค์กร และความมีกึ๋น
4. ผู้ช่วยพิเศษ (Concierge)
หน้าที่ของผู้ช่วยพิเศษ (Concierge) คือการต้อนรับแขกเข้าพักและช่วยเหลือ ตอบคำถามต่างๆ ซึ่งอาจรวมถึงการจองร้านอาหาร การจัดเตรียมการเดินทาง และการให้ข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ท้องถิ่น
คุณสมบัติที่สำคัญ ได้แก่ ทักษะด้านบุคคล ทักษะการบริการลูกค้า ความอดทน ความสามารถในการใช้ความคิดริเริ่ม และทักษะการแก้ปัญหา
5. พนักงานสำรองห้องพัก
พนักงานสำรองห้องพักมีความคล้ายคลึงกับผู้ช่วยพิเศษ แต่หน้าที่ จะจำกัดอยู่ที่ทำการจองให้แขกเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในฐานะเจ้าหน้าที่ฝ่ายหน้าบ้าน ตัวแทนรับจองควรยินดีช่วยเหลือผู้เข้าพักหากมีข้อสงสัยอื่นๆ
บางทีคำว่า พนักงานต้อนรับ ผู้ช่วยพิเศษ และพนักงานสำรองห้องพัก มักใช้สลับกันได้ โรงแรมบางแห่งอาจมีแค่พนักงานต้อนรับและผู้ช่วยพิเศษ แต่บางแห่งอาจมีทั้งผู้ช่วยพิเศษและพนักงานสำรองห้องพักเพิ่มมาอีกด้วย
6. ผู้จัดการส่วนหน้า
แม้ว่าแขกอาจไม่เคยเจอผู้จัดการส่วนหน้า แต่จริงๆ ทีมผู้บริหารที่แข็งแกร่งถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของโรงแรม
ผู้จัดการส่วนหน้ารับผิดชอบสูงสุดในการดำเนินงานที่ต้องพบปะกับลูกค้าทั้งหมด และรับผิดชอบในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า ตำแหน่งงานนี้คือการคุมให้เจ้าหน้าที่ส่วนหน้าทุกคนรู้หน้าที่ของตนและปฏิบัติงานได้ดี
7. ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรม
นี่คือตำแหน่งที่สูงที่สุดในบรรดาตำแหน่งผู้บริหารโรงแรมทั้งหมด รับผิดชอบตั้งแต่จัดการข้อร้องเรียนและดูแลพนักงานไปจนถึงกำหนดเวลาการบำรุงรักษาและการจัดการงบประมาณ บทบาทนี้ดูแลการดำเนินงานของโรงแรมในทุกๆด้าน
จำเป็นต้องมีประสบการณ์ที่ครอบคลุมทุกอย่างในอุตสาหกรรมโรงแรม และหัวใจหลักสำคัญของงาน ได้แก่ ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่ยอดเยี่ยม ทักษะความเป็นผู้นำ ทักษะการจัดองค์กรที่ยอดเยี่ยม ทักษะด้านไอที ความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับงบประมาณและการวางแผนทางการเงิน และความรู้ในการทำงานเกี่ยวกับกฎระเบียบด้านสุขภาพและความปลอดภัย
8. ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ
ขึ้นอยู่กับขนาดของโรงแรม นี่อาจเป็นอีกชื่อหนึ่งสำหรับตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปหรือตำแหน่งที่รายงานโดยตรงต่อผู้จัดการทั่วไป โดยรวมของหน้าที่นี้คือเพื่อจัดการการดำเนินงานในแต่ละวัน อาจรวมถึงการกำกับดูแลแผนกต่างๆ ดำเนินการตรวจสอบด้านสุขภาพและความปลอดภัย และจัดการงบสรรประมาณ
9. ผู้จัดการประจำกะกลางคืน
ตำแหน่งงานนี้ทำให้การดำเนินงานของโรงแรมเป็นไปอย่างราบรื่นในช่วงกลางคืน อาจรวมถึงการจัดการทีม การจัดตารางเวรพนักงาน จัดการเงินเดือน และการจัดทำงบประมาณ เป็นบทบาทการบริหารจัดการที่ต้องใช้ประสบการณ์ที่กว้างขวางในอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตำแหน่งดังกล่าวอาจต้องทำงานร่วมกับทีมงานขนาดเล็ก จึงจำเป็นที่บุคคลในตำแหน่งนี้จะต้องมีทัศนคติเชิงบวกและกระตือรือร้น
10. ผู้อำนวยการฝ่ายจัดซื้อ
ตำแหน่งงานนี้เกี่ยวข้องกับการซื้อสินค้าและวัสดุทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานของโรงแรม บรรดาอุปกรณ์อาบน้ำและผ้าเช็ดตัวไปจนถึงอาหารและเครื่องดื่ม ทุกอย่างที่ซื้อและชำระเงินจะต้องผ่านผู้อำนวยการฝ่ายจัดซื้อ หน้าที่รวมถึงการเจรจากับผู้ขาย การจัดการสัญญาต่างๆ การประกันคุณภาพ การเก็บสต็อก และการบัญชี
โดยปกติแล้วจะต้องมีวุฒิการศึกษาจบมาในด้านธุรกิจและประสบการณ์ในอุตสาหกรรมการบริการ
11. ผู้จัดการฝ่ายบุคคล
ฝ่ายทรัพยากรบุคคลดูแลกระบวนการสรรหาบุคลากรในตำแหน่งงานต่างๆภายในโรงแรม ประเมินผลการปฏิบัติงานและจัดการสัญญาพนักงาน ในแต่ละวัน ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลมีหน้าที่ดูแลให้มีการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านสิทธิแรงงานทั้งหมด และอาจจำเป็นต้องช่วยเหลือในการเจรจาระหว่างผู้นำสหภาพแรงงานและฝ่ายบริหารในกรณีที่เกิดข้อพิพาทระหว่างพนักงาน
12. ผู้จัดการฝ่ายรายได้
งานของผู้จัดการรายได้คือการกำหนดราคา เป้าหมายหลักของตำแหน่งงานนี้คือการเพิ่มจำนวนผู้เข้าพักและเพิ่มรายได้ให้สูงสุด ซึ่งเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดจนการเจรจากับแพลตฟอร์มการจองผ่านบุคคลที่สาม การติดตามแนวโน้มของอุตสาหกรรมตลอดจนนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเป็นคุณสมบัติที่ต้องมีในการเป็นผู้จัดการรายได้ของโรงแรม
13. ผู้จัดการฝ่ายขาย
งานหลักของผู้จัดการฝ่ายขายของโรงแรมคือการเพิ่มยอดเข้าพัก ไม่ว่าจะเป็นการโทรโดยตรง การสร้างเครือข่าย ศึกษาวิเคราะห์คู่แข่ง หรือการเจรจาข้อตกลงการเป็นหุ้นส่วน เป้าหมายหลักคือการดึงดูดธุรกิจใหม่ให้กับโรงแรม
ตำแหน่งนี้มักจะต้องจบปริญญาในธุรกิจหรือสาขาเกี่ยวกับด้านโรงแรม และควรมีประสบการณ์ก่อนหน้านี้ในอุตสาหกรรมการบริการ
14. ผู้จัดการฝ่ายไอที
หน้าที่นี้ดูแลระบบทั้งหมดที่ใช้ในการจัดการการจองห้องพัก กำหนดเวลาการบำรุงรักษา และอำนวยความสะดวกในการสื่อสาร เช่นเดียวกับการแก้ไขปัญหาและการบำรุงรักษาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) บทบาทของผู้จัดการฝ่ายไอทียังเกี่ยวข้องกับการวางแผนล่วงหน้าและให้คำแนะนำเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ใหม่และการปรับปรุงต่างๆ
15. ผู้จัดการฝ่ายบัญชี
แผนกบัญชีดูแลค่าใช้จ่ายทั้งเข้าและออกทั้งหมด ตั้งแต่การตามใบแจ้งหนี้ที่ค้างชำระไปจนถึงการสร้างงบประมาณและรายงานทางการเงิน หน้าที่ของผู้จัดการฝ่ายบัญชีคือดูแลด้านการเงินทั้งหมดของโรงแรมให้ดำเนินไปอย่างราบรื่น
ตำแหน่งนี้ต้องใช้ประสบการณ์ที่ครอบคลุมในอุตสาหกรรม ตลอดจนวุฒิการศึกษาด้านบัญชี การเงิน ธุรกิจ
16. ผู้จัดการฝ่ายรักษาความปลอดภัย
ผู้จัดการฝ่ายรักษาความปลอดภัย มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของแขก พนักงาน และสินทรัพย์ทั้งหมดของโรงแรม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการวางแผนและประสานงานการลาดตระเวน การจัดการระบบเฝ้าระวัง การฝึกอบรมพนักงานสำหรับขั้นตอนฉุกเฉิน และการควบคุมดูแลตำแหน่งงานรักษาความปลอดภัยอื่นๆ ทั้งหมดภายในโรงแรม
ตำแหน่งงานที่ต้องพบปะกับแขกของโรงแรมและหน้าที่ต่างๆ
ตำแหน่งที่ต้องพบปะกับแขกของโรงแรมเป็นบทบาทที่สมาชิกในทีมจะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับแขกโดยตรง แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีความเฉพาะเจาะจงและจำกัดมากกว่าเมื่อเทียบกับพนักงานต้อนรับหน้าเคาน์เตอร์
ตำแหน่งงานต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของงานที่ต้องพบปะกับแขกในโรงแรม:
1. ผู้ตรวจสอบกลางคืน (Night auditor)
ผู้ตรวจสอบกลางคืนมีหน้าที่เช็คอินแขก รับจอง และจัดการคำขอใด ๆ ในช่วงเวลากลางคืน เช่นเดียวกับผู้จัดการประจำกะกลางคืน บางครั้งตำแหน่งงานนี้อาจเกี่ยวข้องกับการดูแลใบแจ้งหนี้ การจัดการบัญชีเงินเดือน และหน้าที่การจัดการอื่นๆ
2. พนักงานดูแลลานจอดรถ
ตำแหน่งนี้เกี่ยวข้องกับการขับรถ ที่จอดรถ และการคืนยานพาหนะของแขกเมื่อมาถึงและออกจากโรงแรม นี่เป็นตำแหน่งระดับเริ่มต้น แต่ต้องใช้ทักษะการบริการลูกค้าที่เป็นเลิศ
3. พนักงานสัมภาระ
หน้าที่ของพนักงานสัมภาระ คือการต้อนรับแขกและช่วยยกกระเป๋าเดินทาง บางครั้งอาจช่วยเหลือผู้ช่วยพิเศษในการจองห้องพัก
นี่เป็นตำแหน่งงานแรกที่ยอดเยี่ยมในอุตสาหกรรมโรงแรม เนื่องจากจะทำให้คุณได้รับประสบการณ์และความรู้ที่จำเป็นในการทำงานในตำแหน่งส่วนหน้าอื่นๆ
4. ผู้จัดการสปา
ทำหน้าที่ตั้งแต่จัดการตารางการบำรุงรักษาและการทำความสะอาดไปจนถึงการจัดการคำขอพิเศษต่างๆ งานนี้เกี่ยวข้องกับการจัดการทุกด้านของการบริหารสปาของโรงแรม
คุณสมบัติที่ต้องมีสำหรับตำแหน่งนี้ ได้แก่ ทักษะการจัดองค์กรที่ดี ทักษะการบริหารจัดการที่แข็งแกร่ง ทักษะการบริการลูกค้าที่เป็นเลิศ และประสบการณ์ก่อนหน้านี้ในตำแหน่งหัวหน้างานที่คล้ายๆกัน
ตำแหน่งต่างๆของงานทำความสะอาดภายในโรงแรม
แม้ว่าแขกและเจ้าของโรงแรมส่วนมากจะมองว่า “แม่บ้าน” ก็คือ “พนักงานทำความสะอาด” แต่ความจริงก็คือตำแหน่งงานต่างๆของพนักงานทำความสะอาดโรงแรมมีมากกว่าแค่การเตรียมห้องเท่านั้น
ตำแหน่งแม่บ้านในโรงแรมแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดของโรงแรม บูทีคโฮเทลขนาดเล็กอาจมีแม่บ้านทั่วไปที่ทำหน้าที่ทั้งหมดเลย แต่โรงแรมขนาดใหญ่จะมอบหมายให้ทำหน้าที่แตกต่างกัน
1. พนักงานดูแลห้องพัก
พนักงานดูแลห้องพักจะทำความสะอาดห้องพักในระหว่างที่แขกเข้าพัก ซึ่งทำหน้าที่ต่างๆ ได้แก่ ดูดฝุ่น ถูพื้น เปลี่ยนผ้าปูที่นอน เปลี่ยนผ้าเช็ดตัว ทิ้งถังขยะ เติมของใช้ในห้องน้ำ เติมของในตู้เย็น และรายงานปัญหาการบำรุงรักษา
แม้ว่างานของพนักงานดูแลห้องพักส่วนใหญ่จะทำงานตามลำพัง แต่ทักษะในการสื่อสารก็ถือเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากมีปฏิสัมพันธ์กับแขกเป็นประจำ
2. พนักงานยกของ/ทําความสะอาด (housekeeper)
ตำแหน่งนี้บางทีก็หมายถึงพนักงานดูแลห้องพัก และบางทีก็หมายถึงผู้ที่รับผิดชอบงานแม่บ้านในโรงแรมขนาดเล็ก หน้าที่ส่วนใหญ่จะเหมือนกันและเกี่ยวข้องกับการทำความสะอาดห้องและพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดเลย
3. ผู้จัดการแผนกแม่บ้าน
เช่นเดียวกับตำแหน่งผู้บริหารอื่นๆ ในบริษัทโรงแรม ผู้จัดการฝ่ายแม่บ้านมีหน้าที่ดูแลพนักงาน หน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการประสานงานตารางเวรทำความสะอาด ตรวจงานพนักงาน ดูแลรักษาสต๊อกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั้งหมดให้เพียงพอ และจัดการกับข้อร้องเรียนต่างๆ
4. ช่างซ่อมบำรุง
งานบำรุงรักษาภายในโรงแรมเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบเชิงรุกและการบำรุงรักษาสินทรัพย์ทั้งหมดเพื่อคงไว้ให้มีมาตรฐานการบริการที่ดีและลดการรบกวนแขกให้น้อยที่สุด
ช่างซ่อมบำรุงคือผู้รับผิดชอบในการซ่อมแซมทรัพย์สิน ตั้งแต่การรับมือกับข้อร้องเรียนของแขกไปจนถึงการดำเนินการบำรุงรักษาตามกำหนดเวลา หน้าที่ความรับผิดชอบได้แก่ การซ่อมแซมระบบไฟฟ้าพื้นฐาน การกำจัดสิ่งอุดตันในท่อระบายน้ำและห้องน้ำ และการซ่อมแซมท่อ HVAC
ช่างซ่อมบำรุงถือเป็นผู้ที่มีความสามารถรอบด้าน ความรู้ด้านระบบประปาถือเป็นสิ่งสำคัญ และโดยปกติแล้วต้องมีใบรับรองด้านงานไฟฟ้าและ/หรือระบบ HVAC นอกจากนี้ทักษะการสื่อสารที่ดีและทักษะการจัดการเวลาที่ดีก็ถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน
5. หัวหน้าหน่วยซ่อมบำรุง
ตำแหน่งงานนี้จะคอยคุมงานช่างซ่อมบำรุง ทำหน้าที่จัดตารางเวลางานบำรุงรักษา ติดต่องานกับผู้รับเหมา คุมงบประมาณ และรับรองการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านสุขภาพและความปลอดภัย
ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับงานประปา งานไฟฟ้า ระบบ HVAC และการบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญ และการมีใบรับรองในด้านการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกก็ถือเป็นข้อได้เปรียบในตำแหน่งงานนี้
ตำแหน่งงานด้านการตลาดและรายละเอียดเกี่ยวกับงาน
ตำแหน่งงานที่หลากหลายในธุรกิจโรงแรมจะมีเยอะตามขนาดของโรงแรม ซึ่งโรงแรมบางแห่งมีขนาดใหญ่พอที่จะจ้างทีมการตลาดและทีมขายโดยเฉพาะ เป้าหมายของทีมเหล่านี้ พูดง่ายๆเลยคือ เพื่อเพิ่มการจองห้องพักให้มากขึ้น
1. ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด
ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดทำหน้าที่ดูแลภาพลักษณ์ของโรงแรมในตลาด โดยรับผิดชอบทุกอย่างตั้งแต่การสร้างแบรนด์และการประชาสัมพันธ์ไปจนถึงการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อยกระดับชื่อเสียงของโรงแรม โดยทั่วไปแล้ว ตำแหน่งงานนี้เกี่ยวข้องกับการเป็นผู้นำทีมและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับผู้จัดการฝ่ายขายเพื่อเพิ่มการจองห้องพัก
ทักษะที่สำคัญสำหรับตำแหน่งงานนี้ได้แก่ การบริหารบุคคล การจัดการงบประมาณ และการจัดการสื่อ โดยปกติแล้วจะต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีและมีประสบการณ์ด้านการตลาด โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการบริการ
2. นักวางแผนงานอีเว้นท์
นักวางแผนงานอีเว้นท์ของโรงแรมจะดูแลอีเว้นท์ทั้งหมดที่จัดขึ้นภายในโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นการประชุม พื้นที่รับประทานอาหาร ไปจนถึงห้องบอลรูม หน้าที่ความรับผิดชอบ ได้แก่ การจัดงบประมาณ การจ้างพนักงาน การเจรจาต่อรองซื้อขาย และการทำงานร่วมกับทีมการตลาดเพื่อโปรโมทอีเว้นท์ นอกจากนี้ นักวางแผนงานอีเว้นท์ยังอาจได้รับมอบหมายให้ดึงดูดลูกค้ารายใหม่และจัดอีเว้นท์ต่างๆ ให้กับโรงแรม
คุณสมบัติที่สำคัญสำหรับตำแหน่งงานนี้ ได้แก่ การจัดการเวลาที่ดี ความสามารถในการวางแผน การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ทักษะการเจรจาต่อรอง และความสามารถในการแก้ปัญหาภายใต้ความกดดัน
ตำแหน่งงานแผนกที่บริการอาหารและเครื่องดื่ม
ในโรงแรมมีตำแหน่งงานด้านอาหารและเครื่องดื่มมากมาย ตั้งแต่พนักงานครัวไปจนถึงผู้จัดการร้านอาหาร ตำแหน่งเหล่านี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้สมัครงานระดับเริ่มต้นที่ต้องการก้าวหน้าสู่ตำแหน่งในโรงแรมและร้านอาหาร
1. พนักงานบริการ
เป็นคนแรกที่จะได้เจอแขก พนักงานบริการจะต้องมีทักษะในการสื่อสารที่ดี ตำแหน่งงานนี้เกี่ยวข้องกับการจอง ทักทายแขก และจัดที่นั่งที่โต๊ะ
2. พนักงานเสิร์ฟ
ทำหน้าที่รับออเดอร์ จัดการกับข้อร้องเรียน และการให้บริการแขกเป็นหน้าที่หลักของพนักงานเสิร์ฟร้านอาหารของโรงแรม มีทักษะในการสื่อสารที่ดีและมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
3. พนักงานในครัว
พนักงานในครัวอาจได้รับมอบหมายให้ทำแค่งานเดียวหรืออาจต้องทำหลายหน้าที่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของโรงแรม
งานต่างๆ ได้แก่ การล้างจาน เช็ดพื้น เตรียมวัตถุดิบ กวาดและถูพื้น และขนของออกจากคลัง
แม้ว่านี่จะเป็นตำแหน่งระดับเริ่มต้น แต่ตัวงานค่อนข้างตึงเครียดและอาศัยความรวดเร็ว เพราะฉะนั้นต้องการคนที่มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถทำงานภายใต้แรงกดดัน
4. ผู้จัดการครัว
ผู้จัดการครัวทำหน้าที่ดูแลการปฏิบัติงานทั้งหมดภายในครัว ตั้งแต่การจัดเก็บอาหารและการจัดส่งไปจนถึงการจ้างงานและกำหนดเวรพนักงาน ตรวจสอบงานทุกอย่างให้ดำเนินไปอย่างราบรื่น
ตำแหน่งงานนี้ควรผ่านประสบการณ์เกี่ยวกับงานในครัว ควบคู่กับทักษะการจัดองค์กรที่แข็งแกร่ง ทักษะการแก้ไขปัญหา และความสามารถในการทำงานภายใต้แรงกดดัน
5. กุ๊กใหญ่หรือหัวหน้าเชฟในครัว
หัวหน้าเชฟในครัวมีหน้าที่รับผิดชอบในการรังสรรค์เมนู ฝึกอบรมเชฟรุ่นน้อง และรักษามาตรฐานในการทำอาหารระดับสูง ทำการกำหนดงบประมาณและกำหนดราคาเมนูก็เป็นส่วนหนึ่งของหน้านี้เชฟเช่นกัน และจะต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับผู้จัดการร้านอาหารเพื่อดำเนินงานได้อย่างราบรื่น
6. ผู้จัดการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม
ตำแหน่งงานนี้ทำหน้าที่ดูแลร้านอาหารของโรงแรมในทุกๆด้าน โดยเน้นที่ผลกำไรและให้บริการคุณภาพสูงให้แก่ลูกค้า ความรับผิดชอบของตำแหน่งงานนี้ได้แก่ การประสานงานภายในร้านอาหารทั้งส่วนหน้าและส่วนหลังร้าน การแก้ไขข้อกังวลของลูกค้า การจัดการงบประมาณ การเจรจากับซัพพลายเออร์ การจัดตารางเข้าเวรพนักงาน และการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านสุขภาพและความปลอดภัย
โดยทั่วไป ผู้สมัครงานในตำแหน่งนี้ต้องมีประสบการณ์ในการจัดการร้านอาหารมาก่อน และปริญญาด้านบริหารธุรกิจหรือสาขาที่เกี่ยวข้องมักจะได้เปรียบ
7. รูมเซอร์วิส
ตำแหน่งงานที่ต้องพบปะกับลูกค้า ทำเกี่ยวกับการรับออร์เดอร์และเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มให้แก่แขก แม้ว่าตำแหน่งดังกล่าวจะเป็นตำแหน่งระดับเริ่มต้น แต่ผู้สมัครจะต้องรักษาภาพลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพและมีทักษะการบริการลูกค้าที่ดี
ตำแหน่งงานในโรงแรมและเรทเงินเดือนปกติ
หากคุณกำลังอ่านบทความเกี่ยวกับตำแหน่งงานโรงแรมเนื่องจากคุณต้องการสมัครงานตำแหน่งเหล่านี้ คุณอาจจะอยากรู้เกี่ยวกับรายได้ว่าอยู่ที่เท่าไหร่ หรือบางทีคุณเป็นเจ้าของโรงแรมที่กำลังต้องการจ้างงานในตำแหน่งงานโรงแรมเหล่านี้ คุณอาจอยากรู้เกี่ยวกับเรทเงินเดือนของตำแหน่งงานแต่ละอย่าง
ข้างล่างนี้เป็นตัวเลขเงินเดือนและค่าจ้างทั่วไปสำหรับมืออาชีพในโรงแรมในสหรัฐอเมริกา สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าตัวเลขเหล่านี้อาจแตกต่างกันอย่างมาก แล้วแต่สถานที่ ทักษะที่มี และประสบการณ์ของผู้สมัครแต่ละคน:
- งานบริหารจัดการโรงแรม: ผู้จัดการโรงแรมมักได้รับเงินเดือนราวๆ 60,000-120,000 ดอลลาร์
- ตำแหน่งงานที่ต้องพบปะกับแขก: โดยทั่วไปแผนกต้อนรับและพนักงานที่ต้องพบปะกับแขกจะได้รับค่าตอบแทนราวๆ 11-16 ดอลล่าร์/ชั่วโมง
- ทำความสะอาด: ปกติแล้วแล้วพนักงานทำความสะอาดและบำรุงรักษาทรัพย์สินจะได้รับเงินประมาณ 10-15 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง หรืออิงตามค่าจ้างขั้นต่ำของรัฐ
- การตลาดโรงแรม: ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของโรงแรมจะได้รับค่าตอบแทนราวๆ 80,000-130,000 ดอลลาร์ต่อปี ส่วนพนักงานในทีมการตลาดโดยทั่วไปจะได้รับเงินเพียงครึ่งหนึ่งของจำนวนดังกล่าว
- แผนกอาหารและเครื่องดื่ม: ค่าจ้างเฉลี่ยสำหรับพนักงานเสิร์ฟอยู่ที่ประมาณ 9-15 ดอลล่าร์/ชั่วโมง รวมทิป ส่วนค่าตอบแทนของพ่อครัวและแม่ครัวมักจะอยู่ที่ $12-$25/ชั่วโมง ผู้จัดการร้านอาหารมักจะพิจารณาจากเงินเดือนและมีรายได้ประมาณ 60,000 เหรียญสหรัฐต่อปี
การหางานในด้านโรงแรม
มีงานหลายประเภทในเกี่ยวกับการโรงแรมและมีวิธีต่างๆ มากมายในการหางาน โรงแรมขนาดใหญ่อาจลงโฆษณาบนเว็บไซต์โดยตรง ส่วนโรงแรมอื่นๆ อาจโพสต์บนเว็บหางาน
แนะนำว่าให้ใช้เวลาในการตั้งค่าการแจ้งเตือนงานบนบอร์ดประกาศรับสมัครงาน ควรจำกัดการค้นหาแคบลงตามสิ่งที่ต้องการ หากคุณกำลังมองหาตำแหน่งงานบริหารโรงแรม คุณคงไม่อยากรับแจ้งเตือนโพสต์รับสมัครงานด้านฝ่ายบริการระดับเริ่มต้นมากมาย!
อีกช่องทางหนึ่งที่ควรพิจารณาคือบริษัทจัดหางานที่เชี่ยวชาญด้านงานบริการ ไม่ว่าคุณกำลังมองหางานแรกในโรงแรมหรือเป็นหัวหน้าพ่อครัวผู้มีประสบการณ์ มีผู้เชี่ยวชาญหลายรายที่สามารถแนะนำคุณกับผู้ว่าจ้างที่เหมาะสมได้
คำแนะนำเมื่อมองหาพนักงานยอดเยี่ยมเพื่อมาทำงานในโรงแรม
ชีวิตจะง่ายขึ้นมากสำหรับเจ้าของโรงแรมเมื่อได้รับการสนับสนุนจากทีมงานที่เก่งๆ แต่จะหาลูกจ้างดีๆได้อย่างไร?
การตามหาพนักงานโรงแรมดีๆซักคนหนึ่งคือการมองหาลูกจ้างให้ถูกที่ หากคุณกำลังโพสประกาศบนบอร์ดรับสมัครงาน ให้เช็คด้วยว่าคุณโพสแบบเจาะจงว่าต้องการลูกจ้างด้านงานบริการโดยเฉพาะ มองหาตำแหน่งงานอะไร? คุณควรระบุตำแหน่งงานที่มองหาให้ชัดเจน
หากคุณใช้ Recruiter ให้เลือกผู้ที่เชี่ยวชาญด้านงานบริการและมีประวัติมาก่อนหน้านี้ในการหาผู้สมัครที่มีคุณภาพ หากเป็นไปได้ ให้พูดคุยกับธุรกิจบริการอื่นๆ ที่กำลังใช้บริการของ Recruiter เจ้านี้ เพื่อประเมินประสิทธิผลในการจัดหาพนักงานให้แก่องค์กร