Skip to main content

รายงานประสิทธิภาพโรงแรม (Hotel Star Report): วิธีอ่านรายงาน STR

  โพสต์ใน แหล่งข้อมูล   ปรับปรุงล่าสุด 3/06/2024

รายงาน STAR สำหรับธุรกิจโรงแรม คืออะไร?

รายงาน STAR หรือรายงาน STR คือ เครื่องมือเปรียบเทียบประสิทธิภาพการทำงานโรงแรมของคุณกับกลุ่มโรงแรมคู่แข่งที่มีสไตล์คล้ายคลึงกัน

แล้ว STR หมายถึงอะไรในแง่ของการรายงานทรัพย์สินระดับอสังหาริมทรัพย์? ถึงแม้ว่าจะสะกดว่า ‘STR’ แต่การออกเสียงที่ถูกต้องคือ ‘STAR’ ซึ่ง ‘รายงาน STR’ กับ ‘รายงาน STAR’ มักถูกใช้สลับกันบ่อย ๆ

สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือรายงาน STR หรือรายงาน STAR ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคะแนนดาวของโรงแรมที่ประเมินจากความพอใจของผู้เข้าพัก รายงาน STR ใช้ตัวชี้วัด (KPI) และเมตริกที่หลากหลายเพื่อแสดงผลว่าโรงแรมของคุณมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใดเมื่อเทียบกับโรงแรมคู่แข่ง และการดำเนินการเช่นนี้ บริษัท STR จะใช้ข้อมูลจากชุดข้อมูลคู่แข่ง ภาษาอังกฤษเรียกว่า Competitive Set หรือ Compset ซึ่งหมายถึงกลุ่มโรงแรมที่คุณต้องการนำมาเปรียบเทียบด้วย

รายงาน STR มักจะออกเป็นรายสัปดาห์ แต่คุณก็สามารถเลือกรับเป็นรายเดือนหรือรายปีก็ได้

บล็อกนี้จะช่วยอธิบายทุกรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องมือเปรียบเทียบประสิทธิภาพโรงแรมที่สำคัญ ดังนี้: รายงาน STR คืออะไร, STR สามารถบอกอะไรได้บ้าง, วิธีรับ, วิธีอ่านและวิธีวิเคราะห์รายงาน STR

สารบัญ

STR ในอุตสาหกรรมโรงแรม หมายถึงอะไร?

ก่อนจะเข้าเรื่องรายงาน STR เรามาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่าว่า ‘STR’ หมายถึงอะไร?

STR Inc. เป็นบริษัทวิเคราะห์โรงแรม ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1985 โดย STR ย่อมาจาก Smith Travel Research บริษัทได้รับการยอมรับว่าเป็นบริษัทชั้นนำในด้านการเปรียบเทียบประสิทธิภาพโรงแรม (Benchmarking) และให้ข้อมูลทางการตลาด เช่น ซัพพลายและดีมานด์ และข้อมูลส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) สเกลระดับโลก

ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูล STR พบว่าอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมในสหรัฐอเมริกาช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2022 อยู่ที่ 66.5% และราคาเฉลี่ยรายวันอยู่ที่ 151.49 ดอลลาร์สหรัฐฯ

บริษัท STR รวบรวมข้อมูลจากรายงาน STR ซึ่งโรงแรมทั่วโลกสามารถนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการเปรียบเทียบผลงานของตนเองกับโรงแรมคู่แข่งได้

ข้อดีของรายงาน STR

ข้อดีของรายงาน STR คือ:

  • วัดผลและเปรียบเทียบประสิทธิภาพโรงแรมของคุณ
  • อยู่เหนือโรงแรมคู่แข่งและทันเกมการตลาด
  • เข้าใจความหมายของ ‘ประสิทธิภาพดี’ และ ‘ประสิทธิภาพไม่ดี’ ในเกณฑ์การตลาดของคุณ
  • ช่วยตัดสินใจในการใช้กลยุทธ์ด้านราคาเพื่อเพิ่มผลกำไร
  • ติดตามประสิทธิผลของกลยุทธ์เชิงธุรกิจตลอดเวลา
  • หาจุดเปลี่ยนของซัพพลาย, ดีมานด์และรายได้ในตลาดอุตสาหกรรมโรงแรม (ตัวอย่างเช่น เป็นผลมาจากโรงแรมเปิดใหม่ ทำให้ลูกค้ามากขึ้น/น้อยลง หรือมีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ)

การเปรียบเทียบประสิทธิภาพกับโรงแรมคู่แข่งที่เหมาะสม

การเปรียบเทียบประสิทธิภาพการทำงานของตัวเองกับคู่แข่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการวัดผลความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม การวัดผลที่ถูกต้อง ควรเริ่มต้นจากการเลือกคู่แข่งที่มีโปรไฟล์ใกล้เคียงกันเสียก่อน

จึงทำให้ชุดข้อมูลโรงแรมคู่แข่ง หรือ Compset เข้ามามีบทบาท

เพราะคุณจำเป็นต้องเลือก Compset ในการส่งคำขอรายงาน STR ซึ่งทางบริษัท STR จะใช้ Compset เป็นพื้นฐานในการรวมและส่งต่อข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโรงแรมของคุณ

โดยทั่วไปแล้ว Compset ที่เหมาะสม จะประกอบด้วยโรงแรม 3-5 แห่ง ดังนี้:

  • โรงแรมที่มีทำเลที่ตั้งใกล้เคียงกับโรงแรมของคุณ (ยกเว้น หากโรงแรมของคุณตั้งอยู่ในสถานที่ห่างไกลหรือโรงแรมอื่น ๆ ในระแวกนั้นมีกลุ่มตลาดเป้าหมายแตกต่างกัน)
  • ราคาห้องพักใกล้เคียงกัน
  • มีสิ่งอำนวยความสะดวกหรือบริการคล้ายกัน

แต่ไม่ต้องกังวลเกินไป เพราะคุณสามารถเปลี่ยน Compset เมื่อส่งคำขอรายงาน STR ชุดใหม่ได้หากไม่แน่ใจจากการเลือกครั้งแรก

Image explaining hotel star report

วิธีรับรายงาน STR โรงแรม

เพื่อขอรับรายงาน STR คุณสามารถไปที่ เว็บไซต์ STR และส่งคำขอตัวอย่างหรือซื้อรายงานจากเว็บไซต์ หลังจากสมัครสมาชิกแล้ว คุณสามารถเลือกรับรายงานเป็นรายสัปดาห์, รายเดือน หรือรายปีก็ได้ และนี่คือ 3 ขั้นตอนรับรายงาน STR ฉบับเข้าใจง่าย:

  • ขั้นตอนที่ 1: เข้าสู่เว็บไซต์ str.com จากนั้นเลือก “Request A Demo” บนหน้าโฮมเพจหรือเลือกรูปแบบรายงานอื่น ๆ ที่คุณสนใจ (ภายใต้หัวข้อ “Data Solutions” > “Performance Data บนแถบเมนูหลัก)
  • ขั้นตอนที่ 2: กรอกข้อมูล เพราะหลังจากคลิก “Request A Demo” จะมีช่องให้กรอกรายละเอียดของผู้ใช้และข้อมูลโรงแรม จากนั้น STR จะส่งเดโม่ไปให้ หากการลงทะเบียนผ่านแล้ว คุณจะได้รับคู่มือการสร้างบัญชี STR
  • ขั้นตอนที่ 3: เข้าสู่ระบบและสร้างรายงาน หลังจากได้รับเดโม่และสร้างบัญชี STR แล้ว คุณสามารถเข้าสู่ระบบและเลือกแพลน STR ที่ต้องการ ก็พร้อมสร้างรายงานผ่านแดชบอร์ด STR ได้เลย

คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลย้อนหลัง 18 เดือน เปรียบเทียบเปอร์เซ็นต์ความเปลี่ยนแปลงและดัชนีข้อมูลแบบปีต่อปี, ช่วงต้นปีปัจจุบันถึงปัจจุบัน (Year to date หรือ YTD), ราย 3 เดือนและ 12 เดือน (เปรียบเทียบช่วง 3 เดือนและ 12 เดือนเดียวกันจาก 3 ปีที่ผ่านมา) รายงานนี้รวบรวมข้อมูลจากตัวชี้วัด KPIs และสูตรคำนวณต่าง ๆ ที่เราจะอธิบายต่อไปด้านล่างนี้

Source: STR

วิธีอ่านและวิเคราะห์รายงาน STR

การอ่านรายงาน STR ครั้งแรกอาจทำให้คุณสับสนกับข้อมูลมากมายที่ได้รับ แต่ด้วยการอ่านพื้นฐานเล็กน้อย ก็ใช้เวลาไม่นานในการทำความเข้าใจคำศัพท์สำคัญอย่าง ตัวชี้วัดความสำเร็จ (KPIs) และเมตริกต่าง ๆ รวมถึงความหมายของคำเหล่านี้ต่อโรงแรมของคุณ

จุดเริ่มต้นการอ่านรายงาน STR ที่ดี คือ เลื่อนลงมาดูหัวข้อ ‘สรุปผลประกอบการรายเดือน’ หรือ ‘Monthly Performance at a Glance’ โดยมีการสรุปผลการดำเนินงานของคุณและกลุ่มโรงแรมคู่แข่งของเดือนล่าสุด, ช่วงต้นปีถึงปัจจุบัน, ราย 3 เดือนและ 12 เดือน

วิธีวิเคราะห์รายงาน STR คือการเปรียบเทียบผลงานสัปดาห์ล่าสุดกับผลงานสัปดาห์เดียวกันของปีที่แล้ว และคุณสามารถเปรียบเทียบข้อมูลเหล่านี้กับ Compset ของคุณได้ด้วย

เมื่อคุณเริ่มทำความเข้าใจกับรายละเอียดข้อมูลของรายงานได้แล้ว คุณสามารถเจาะลึกไปยังข้อมูลอื่น ๆ เพื่อตรวจสอบผลการดำเนินงานจากค่าชี้วัด KPIs รวมถึงอัตราการเข้าพัก, ราคาห้องพักเฉลี่ยรายวัน (ADR) และรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักทั้งหมด (RevPar)

เลขดัชนีในรายงาน STR

เมื่ออ่านรายงาน STR ผลงานของคุณจะถูกคำนวณออกมาเป็นตัวเลขดัชนี (Index Number) ซึ่งเลขดัชนี คือ ตัวเลขที่ใช้ในการวัดหรือเปรียบเทียบข้อมูล และสามารถบอกได้ว่าโรงแรมของคุณมีประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่งเมื่อเทียบกับ 3 ตัวชี้วัด KPI คือ อัตราการเข้าพัก, ADR และ RevPar ซึ่งสูตรคำนวณหาเลขดัชนี คือ ค่า KPI ของคุณค่า KPI เฉลี่ยของคู่แข่ง100 = เลขดัชนี (Index Number)

หากเลขดัชนีสูงกว่า 100 แสดงว่าคุณได้รับส่วนแบ่งการตลาดมากกว่าค่ามาตรฐาน หากเลขดัชนีต่ำกว่า 100 หมายความว่าคุณได้รับส่วนแบ่งตลาดน้อยกว่าที่ควรจะได้รับ

สรุปง่าย ๆ คือ ตัวเลขดัชนีสูง = ผลงานดี หากตัวเลขดัชนีต่ำกว่า 100 = ควรปรับปรุงและพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้

ทำความรู้จักกับหัวข้อในรายงาน STR

มีแท็บหลายหัวข้อที่คุณจะเห็นในรายงาน STR โดยแต่ละหัวข้อจะให้ข้อมูลดังนี้:

1.สรุปผลประกอบการรายเดือน (Monthly performance at a glance)

หัวข้อนี้จะสรุปผลประกอบการโรงแรมคุณเทียบกับโรงแรมคู่แข่งของเดือนล่าสุด, ช่วงต้นปีล่าสุดถึงปัจจุบัน, ราย 3 เดือนและ 12 เดือน

และนี่คือคำถามที่ควรหาคำตอบเมื่ออ่านข้อมูลสรุปผลงานรายเดือน:

  • เมื่อเปรียบเทียบกับโรงแรมคู่แข่งแล้ว โรงแรมของฉันเดือนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
  • ความเปลี่ยนแปลงจากเดือนที่แล้ว มีอะไรบ้าง?

2. สรุป STAR (STAR summary)

สรุป STAR จะแสดงข้อมูลอัตราการเข้าพัก, ADR และ RevPar เทียบกับโรงแรมคู่แข่งและภาคส่วนอื่น ๆ ในตลาด โดยสรุปข้อมูลเป็นเดือนล่าสุด, ช่วงต้นปีถึงปัจจุบัน, ราย 3 เดือนและ 12 เดือน

คำถามที่ควรหาคำตอบในหัวข้อนี้ คือ:

  • ผลงานโรงแรมของฉันเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับภาคส่วนอื่น ๆ ในตลาด?
  • ผลงานของโรงแรมคู่แข่งเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับภาคส่วนอื่น ๆ ในตลาด?
  • เมื่อเทียบกับช่วงเวลาอื่น ๆ ผลประกอบการของโรงแรมเป็นอย่างไรบ้าง?

3. รายงานวิเคราะห์คู่แข่ง (Competitive set)

รายงานจะแสดงผลการเปรียบเทียบโรงแรมของคุณกับโรงแรมคู่แข่งช่วง 18 เดือนย้อนหลังนับจากปัจจุบัน, ช่วงต้นปีล่าสุดถึงปัจจุบัน, ราย 3 เดือนและ 12 เดือน

คำถามที่ควรหาคำตอบในหัวข้อนี้ คือ:

  • ผลงานของโรงแรมคู่แข่งในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง?
  • ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามฤดูกาล มีอะไรบ้าง?
  • ตัวเลขดัชนีแสดงให้เห็นอะไรบ้าง?

4. รายงานผลคู่แข่ง (Response Report)

ที่นี่คุณสามารถเข้าถึงรายละเอียดช่วง 24 เดือนที่ผ่านมาของกลุ่มโรงแรมคู่แข่ง (Compset) ที่มีข้อมูลบนระบบ STR

5. สรุปแบบแบ่งกลุ่มข้อมูล (Segmentation summary)

สรุปแบบแบ่งกลุ่มข้อมูล จะแสดงข้อมูลเปรียบเทียบกับโรงแรมคู่แข่งของเดือนปัจจุบันและช่วงต้นปีจนถึงปัจจุบัน แสดงผลด้วยค่าอัตราการเข้าพัก, ADR และ RevPar โดยแบ่งกลุ่มข้อมูลแยกย่อยตามแหล่งที่มาของธุรกิจ (แหล่งที่มาของธุรกิจ คือ ประเภทของลูกค้า โดยแบ่งเป็นลูกค้าชั่วคราว, ลูกค้าแบบกลุ่ม และลูกค้าที่มีสัญญากับโรงแรม เช่น ลูกเรือสายการบิน)

คำถามที่ควรหาคำตอบในหัวข้อนี้ คือ:

  • ฉันสามารถเปรียบเทียบกับโรงแรมคู่แข่งและตลาดจากแหล่งที่มาของธุรกิจได้อย่างไรบ้าง?
  • จำนวนของลูกค้าแต่ละประเภทมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในวันธรรมดา vs วันหยุดสุดสัปดาห์?

6. การวิเคราะห์ตามกลุ่มลูกค้า (Segmentation analysis)

หัวข้อนี้แสดงข้อมูลอัตราเข้าพักรายเดือน ADR, RevPAR ,เลขดัชนีและวิเคราะห์การจัดอันดับของลูกค้าชั่วคราว, แบบกลุ่ม, ลูกค้าที่มีสัญญากับโรงแรมและวิเคราะห์ภาพรวมธุรกิจทั้งหมดในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา โดยเปรียบเทียบข้อมูลโรงแรมคุณกับโรงแรมคู่แข่งและในตลาดวงกว้าง

7. รายงานผลโดยแบ่งตามวัน (Segmentation day of week)

หัวข้อนี้จะสรุปอัตราการเข้าพักรายเดือน, ADR, RevPAR, เลขดัชนี และวิเคราะห์ตามประเภทลูกค้า คือ ลูกค้าชั่วคราว, แบบกลุ่ม, ลูกค้าที่มีสัญญากับโรงแรม และสรุปข้อมูลธุรกิจแต่ละวันของเดือนล่าสุด โดยเปรียบเทียบข้อมูลโรงแรมคุณกับคู่แข่งและตลาดวงกว้าง

8. วิเคราะห์รายได้เพิ่มเติม (Additional revenue analysis)

วิเคราะห์รายได้รายเดือนจากรายได้ของห้องพัก, อาหารและเครื่องดื่ม และบริการอื่น ๆ ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา โดยเปรียบเทียบข้อมูลโรงแรมคุณกับคู่แข่งในตลาดวงกว้าง

คำถามที่ควรหาคำตอบในหัวข้อนี้ คือ:

  • ฉันจะเปรียบเทียบกับคู่แข่งและตลาดได้อย่างไร เมื่อเทียบกับรายได้จากอาหารและเครื่องดื่ม และรายได้อื่นๆ?
  • ตัวเลขของรายได้เพิ่มเติมมีความเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลาอย่างไรบ้าง?

9. ข้อมูลรายวันของแต่ละเดือน (Daily data for the month)

เป็นรายงานอัตราการเข้าพัก, ADR และ RevPAR แต่ละวันใน 1 เดือน (เช่น รายงานข้อมูลแต่ละวันของเดือนมีนาคม ปี 2024) โดยจะแสดงผลเปรียบเทียบกับโรงแรมคู่แข่ง

คำถามที่ควรหาคำตอบในหัวข้อนี้ คือ:

  • ข้อมูลรายวันมีผลกระทบกับข้อมูลรายเดือนอย่างไร?
  • โรงแรมมีอัตราการเข้าพักและ ADR หรือต่ำกว่าเกณฑ์ช่วงไหนบ้าง?
  • กิจกรรมพิเศษและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามฤดูกาล ส่งผลต่อผลประกอบการของโรงแรมฉันอย่างไร?

10. สรุปข้อมูลรายวัน และวันธรรมดา/วันหยุดสุดสัปดาห์ (Day of week and weekday/weekend)

ข้อมูลสรุปอัตราการเข้าพัก, ADR และ RevPAR ของวันจันทร์-อาทิตย์ และแบ่งหมวดวันธรรมดา (วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี) / วันหยุดสุดสัปดาห์ (วันศุกร์-วันเสาร์) โดยรายงานข้อมูลของเดือนล่าสุด, ช่วงต้นปีถึงปัจจุบัน, วันเดียวกันของแต่ละสัปดาห์ในช่วง 3 เดือนและ 12 เดือน เปรียบเทียบกับโรงแรมคู่แข่งในตลาดวงกว้าง

คำถามที่ควรหาคำตอบในหัวข้อนี้ คือ:

  • ผลงานโรงแรมของฉันกับโรงแรมคู่แข่งเป็นอย่างไร หากเปรียบเทียบช่วงวันธรรมดากับวันหยุดสุดสัปดาห์?
  • วันไหนที่มีผลประกอบการดีกว่าหรือต่ำกว่าปกติ?
  • ผลประกอบการแตกต่างกันอย่างไรเมื่อเวลาผ่านไป?

หัวข้อสำคัญในรายงาน STAR

รายงาน STAR มี 3 หัวข้อสำคัญที่ควรโฟกัสเป็นพิเศษ คือ:

  • หัวข้อ 1 – สรุปผลประกอบการรายเดือน (monthly performance at a glance): เป็นรายงานสรุปภาพรวมผลงานของคุณและโรงแรมคู่แข่งใน 1 หน้า
  • หัวข้อ 2 – สรุป STAR (STAR summary): เจาะลึกรายละเอียดการเปรียบเทียบโรงแรมคุณและคู่แข่งหลาย ๆ ภาคส่วนในตลาด หากคุณเอาชนะคู่แข่งของคุณได้แต่ทั้งคุณและโรงแรมคู่แข่งกลับแพ้ภาคส่วนอื่น ๆ อาจต้องกลับมาตรวจสอบ Compset ที่เลือกไว้ใหม่อีกครั้ง
  • หัวข้อ 3 – รายงานวิเคราะห์คู่แข่ง (competitive set report): สามารถเข้าถึงข้อมูลเปรียบเทียบผลประกอบการย้อนหลังของคุณและคู่แข่งได้ตามช่วงเวลา

ค่า KPIs ในรายงาน STAR

รายงาน STAR มีข้อมูลค่า KPIs ที่สำคัญสำหรับโรงแรมคุณและโรงแรมคู่แข่ง (compset) และนี่คือค่า KPIs 3 ข้อที่ควรทราบ:

1. ราคาห้องพักเฉลี่ยรายวัน (ADR)

ADR ย่อมาจาก Average Daily Rate คือ ราคาเฉลี่ยของห้องพักที่ขายได้ในช่วงเวลาที่กำหนด

สูตรคำนวณ ADR = รายได้จากห้องพักที่ขายได้ / จำนวนห้องที่ขายได้

คุณสามารถใช้ค่า ADR คาดการณ์ช่วงสัปดาห์, เดือน, หรือฤดูกาลที่เฉพาะเจาะจง จากนั้นตั้งเป้าผลประกอบการเพื่อยกระดับธุรกิจ – สร้างแผนเพื่อพัฒนาส่วนที่คิดว่าน่าจะทำได้กว่านี้ในอดีต

2. อัตราการเข้าพัก (Occ)

Occupancy rate หรืออัตราการเข้าพัก คือ เปอร์เซ็นต์ของห้องพักที่ขายได้ในแต่ละช่วงเวลา เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดความสำเร็จที่คิดคำนวณจากการหารห้องพักที่ขายได้ทั้งหมดกับจำนวนห้องทั้งหมดในโรงแรมคุณด้วย 100 จะได้เปอร์เซ็นออกมา

สูตรคำนวณอัตราการเข้าพัก (Occ) = จำนวนห้องพักที่ขายได้ / จำนวนห้องพักทั้งหมดในโรงแรม x 100

3. รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักทั้งหมด (RevPar)

RevPAR ย่อมาจาก Revenue Per Available Room เป็นหนึ่งในเมตริกพื้นฐานสำคัญสำหรับธุรกิจโรงแรม ค่า RevPar สามารถแสดงข้อมูลเชิงลึกของจำนวนห้องพักที่ขายได้ของโรงแรม 1 แห่งและรายได้จากการจองห้องพักเหล่านั้น

สูตรคำนวณ RevPar = ราคาเฉลี่ยของห้องพัก (ADR) x อัตราการเข้าพัก (Occ)

หากค่า RevPAR ของคุณเพิ่มขึ้น แสดงว่าราคาเฉลี่ยของห้องพักหรืออัตราการเข้าพักก็เพิ่มขึ้นด้วย หรืออาจจะเพิ่มขึ้นทั้ง 2 ตัวเลยก็ได้

การวิเคราะห์ 3 ค่า KPIs ในรายงาน จะช่วยให้คุณทราบว่า:

  • อัตราการเข้าพัก (Occ) ราคาห้องพักเฉลี่ยรายวัน (ADR) และรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักทั้งหมด (RevPAR) ของโรงแรมของคุณเทียบกับ ADR, Occ และ RevPAR ของคู่แข่งได้อย่างไร
  • ทราบปัจจัยที่ช่วยสร้างรายได้ (RevPAR) ให้กับโรงแรมคุณและคู่แข่ง อาจจะเป็นค่า Occ, ค่า ADR หรือทั้งสองอย่างเลยก็ได้

วิธีเปรียบเทียบค่า RevPAR โรงแรมในรายงาน STAR

STR รายงานตัวเลขดัชนีของผลประกอบการโรงแรมด้วย 3 ตัวชี้วัด คือ อัตราการเข้าพัก ADR และ RevPAR ซึ่งความหมายของ RevPAR คือ รายได้ห้องพัก / จำนวนห้องพักทั้งหมด โดยผลลัพธ์ยิ่งสูงยิ่งดี

รายงานวิเคราะห์คู่แข่ง (Competitive Set) ของ STR จะมีการเปรียบเทียบค่า RevPAR ของคุณและโรงแรมคู่แข่ง (ที่กำหนดไว้ในรายงาน STR ว่าเป็น ‘competitive set’ หรือ ‘compset’) และในรายงานยังบอกอีกว่าโรงแรมคุณอยู่อันดับที่เท่าไหร่เมื่อเทียบกับคู่แข่ง

ด่านสุดท้ายในการวิเคราะห์ค่า RevPAR ในรายงาน STR คือเลขดัชนี (Index Number) โดยคำนวณจาก ผลประกอบการโรงแรมคุณ / ค่าเฉลี่ยผลประกอบการโรงแรมคู่แข่ง x 100 หากคิดเลขดัชนีได้ 100 หมายความว่าโรงแรมของคุณมีผลประกอบการตามมาตรฐานในตลาด หากเลขดัชนีมากกว่า 100 หมายความว่าผลประกอบการดีกว่ามาตรฐาน สรุปคือ เลขดัชนียิ่งมากผลลัพธ์ก็จะยิ่งดี แต่ถ้าเลขดัชนีน้อยกว่า 100 หมายความว่าผลประกอบการโรงแรมคุณต่ำกว่ามาตรฐาน ยิ่งตัวเลขน้อยลงเท่าไหร่ ยิ่งเป็นผลเสียต่อประสิทธิภาพของโรงแรมมากเท่านั้น

รายงาน STR ยังสามารถวิเคราะห์ RevPAR ตามช่วงเวลาที่กำหนดได้ (วัน, สัปดาห์, เดือนหรือปี ทั้งรูปแบบโรงแรมของคุณโดยตรงและเปรียบเทียบกับคู่แข่ง) และเปรียบเทียบตามประเภทลูกค้าได้ด้วย (เช่น ลูกค้าชั่วคราว, แบบกลุ่ม หรือ ลูกค้า

สัญญา)

เคล็ดลับการวิเคราะห์รายงาน STAR สำหรับธุรกิจโรงแรม

ลองทำตามเคล็ดลับเหล่านี้เพื่อรับผลประโยชน์สูงสุดจากรายงาน STR :

1. ติดตามแนวโน้มความเปลี่ยนแปลง

ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล, การปรับราคา, หรือเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจ คุณควรใส่ใจกับแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงที่อาจมีผลเชิงบวก (หรือเชิงลบ) ต่อผลประกอบการของโรงแรมคุณและคู่แข่ง (compset)

เลขดัชนี เป็นจุดแรกที่ควรมองหา หากเลขดัชนีเกิน 100 เท่ากับว่าคุณทำได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยของคู่แข่งคุณ และถ้าต่ำกว่า 100 ก็ควรรีบปรับปรุงให้ดีกว่าเดิม แน่นอนว่าคุณต้องการเลขดัชนีสูง แต่หากผลลัพธ์กลับมีแนวโน้มต่ำกว่าเกณฑ์ ลองเช็กดูว่าโรงแรมคู่แข่งและภาคส่วนอื่น ๆ ในตลาดมีตัวเลขดัชนีที่ลดลงด้วยหรือไม่

วิธีนี้จะช่วยบอกได้ว่าค่าเลขดัชนีเกิดขึ้นเฉพาะโรงแรมของคุณหรือมาจากความผันผวนของตลาดอุตสาหกรรมในวงกว้าง

2. เปรียบเทียบผลประกอบการปีต่อปี

โรงแรมและผู้ให้บริการที่พักได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลได้ง่ายอยู่แล้ว ดังนั้น ผลประกอบการที่ลดลงในช่วงหนึ่งสัปดาห์หรือหนึ่งเดือนก็เป็นสัญญาณเตือนที่อันตรายมาก แต่การพัฒนาของผลประกอบการรายปีจะแสดงถึงการเติบโตที่มั่นคงของธุรกิจในระยะยาว

หากผลประกอบการของปีนี้น้อยกว่าปีที่แล้ว ลองหาสาเหตุดูว่าเกิดจากอะไร? อาจมาจากแคมเปญท่องเที่ยวของปีที่แล้วที่สามารถดึงแขกมาใช้บริการโรงแรมของคุณ หรืออาจมีค่าใช้จ่ายโดยรวมน้อยลง หากคุณไม่สามารถหาสาเหตุได้ อาจถึงเวลาคิดทบทวนกลยุทธ์การตลาดและเริ่มมองหาวิธีใหม่ ๆ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมหรือดึงดูดกลุ่มลูกค้าประเภทอื่นเข้ามา

3. บันทึกข้อมูลเชิงลึก

ในขณะที่รายงาน STR ให้ข้อมูลล้ำค่ามากมาย แต่คุณยังต้องเจาะลึกไปถึงเบื้องหลังของข้อมูลเหล่านั้นเพื่อพัฒนาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ใช้เวลาในการวิเคราะห์รายงานอย่างละเอียดและจดข้อมูลที่คุณมองว่าเป็นก้าวแรกที่สำคัญตอการปรับปรุงพัฒนากลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้คุณเอาชนะส่วนแบ่งการตลาดและอยู่เหนือคู่แข่ง

รายงาน STR เป็นเพียงจิ๊กซอร์ชิ้นหนึ่งสำหรับการบริหารจัดการโรงแรมให้มีประสิทธิภาพและช่วยรักษาความสำเร็จในระยะยาว

โดย Dean Elphick

ดีนคือผู้เชี่ยวชาญการตลาดเนื้อหาซีเนียร์ของ SiteMinder, ผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำที่ส่งผลกำไรที่ไม่เคยมีให้แก่เจ้าของโรงแรม. ดีนมีความสนใจในการเขียนและสร้างเนื้อหามาเป็นที่รักในชีวิตอาชีพของเขาทั้งหมด, ซึ่งรวมถึงมากกว่าหกปีที่ SiteMinder. ผ่านทางเนื้อหา, ดีนมีเป้าหมายที่จะให้การศึกษา, แรงบันดาลใจ, ความช่วยเหลือ และค่าความพิเศษให้แก่ธุรกิจที่ให้บริการที่ต้องการปรับปรุงวิธีการทำงานและบรรลุเป้าหมายของพวกเขา.

 

Thanks for sharing

Sign up to our blog and receive regular updates on the content you're into

Send this to a friend